สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดยโสธร
“ไก่ดำ” ตามประวัติศาสตร์ของจีนไก่ดำถือว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางยาอายุวัฒนะ หรือถือว่าเป็นอาหารของฮ่องเต้เท่านั้น และยังช่วยในเรื่องการบำรุงสมองและต้านทานโรค รวมทั้งเป็นอาหารที่มีไขมันและคลอเรสเตอรอลต่ำ เมนูไก่ดำ จึงเป็นอีกหนึ่งอาหารทางเลือกสำหรับผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ใส่ใจสุขภาพ และเลือกรับประทานอาหารที่มีสรรพคุณทางยาเสริมภูมิคุ้มกันมากขึ้น ปัจจุบัน “ไก่ดำ” หนึ่งในสินค้าเกษตรอัตลักษณ์โดดเด่นของจังหวัดพิษณุโลก เป็นสินค้าทางเลือกในการสร้างอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ รวมทั้งเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นของจังหวัดพิษณุโลก กลุ่มวิสาหกิจชุมชนไก่ดำสมุนไพรบ้านเชิงหวาย ตำบลตลุกเทียม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก นับเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพการผลิต มีการบริหารงานและการเติบโตของธุรกิจที่ดี โดยดำเนินการผลิต แปรรูป และจำหน่ายครบวงจร ในรูปแบบกลุ่มวิสาหกิจชุมชนภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ปศุสัตว์จังหวัดพิษณุโลก เริ่มดำเนินการปี 2559 นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ เมื่อปี 2560 และโครงการขับเคลื่อนการเกษตรระดับหมู่บ้านสู่การผลิตสินค้าเก
“นายพันธ์เทพ เสาโกศล” รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าแปรรูปจากจิ้งหรีด “งานมหกรรมจิ้งหรีด สินค้าดี สินค้าเด่น ยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร จังหวัดขอนแก่น” เผยว่า การจัดงานในครั้งนี้เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ตลอดห่วงโซ่กระบวนการเลี้ยงและการผลิตผลผลิตจิ้งหรีด ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำให้เกิดการรับรู้อย่างแพร่หลาย ทำให้ประชาชนในจังหวัดขอนแก่นได้ทำความรู้จักกับบ้านของจิ้งหรีด ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างและเพิ่มทักษะ องค์ความรู้ในการเลี้ยงจิ้งหรีดคุณภาพเชิงพาณิชย์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีดเข้าสู่ฟาร์มมาตรฐาน GAP และการค้าอย่างมีระบบ พร้อมเป็นส่วนช่วยในการยกระดับการเลี้ยงจิ้งหรีดสู่อาชีพหลักของเกษตรอย่างยั่งยืน การเสริมสร้างโอกาสและเพิ่มช่องทางการตลาดแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงจิ้งหรีด และยกระดับฟาร์มให้มีมาตรฐานมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะที่สำคัญในการทำเกษตรเชิงพาณิชย์ ภายใต้นโยบายการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากสร้างโอกาสให้เกษตรกร ยกระดับสินค้าเกษตร เพื่อเข้าสู่การแข่งขันในตลาดโลกได้จากตลาดท้องถิ่นสู่ตลาดต่างประเทศและตลาดออนไลน์ ให้คนเมืองได้เห็น
“ไก่เชิงท่าพริก” เป็นไก่ชนพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของจังหวัดตราดอย่างยาวนาน ลักษณะเด่นของไก่เชิงท่าพริกคือ มีลีลาชั้นเชิงดี ตีเจ็บ เป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มเซียนไก่ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตราดจึงมุ่งอนุรักษ์และส่งเสริมพัฒนาสายพันธุ์ไก่พื้นเมืองตราดให้เป็นที่นิยมในวงกว้าง ทั้งในประเทศและส่งออก เพื่อส่งเสริมอาชีพและกระจายรายได้สู่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ชนระดับรากหญ้าให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เปิดตลาดออนไลน์ คุณพรชัย แนวพนา เกษตรกรผู้อนุรักษ์พัฒนาไก่พื้นเมืองตราด บ้านเลขที่ 90/6 หมู่ที่ 3 อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด เล่าว่า ตนเองมีอาชีพทำสวนยางพารา สวนผลไม้ และเลี้ยงไก่ชนพื้นเมืองประมาณ 300 ตัว โดยนิสัยชอบเลี้ยงไก่มาก เลี้ยงตั้งแต่อายุ 12 ปี รวม 20 ปีเต็ม ไก่ชนที่คัดจะส่งขายผ่านพ่อค้าคนกลาง เมื่อ 3 ปีเริ่มทำตลาดออนไลน์ ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก เพชรพรชัยตราด เมื่อขายทางออนไลน์มีรายได้เพิ่มขึ้น 80-100% เช่น จากที่เคยขายให้พ่อค้าคนกลางตัวละ 1,000-1,500 บาท จะขายได้ราคาเพิ่มตัวละ 2,000-2,500 บาท ปกติจะมีคลิปประลองเชิงสั้นๆ 2-3 คลิป โพสต์ไว้ให้ลูกค้าดูอยู่แล้ว เมื่อลูกค้าสนใจจะแชตมา สั่งซื้อและนัดหมายส่งไก่ให้ลูกค้า
นางเพ็ญศิริ วงษ์วาท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 3 อุดรธานี (สศท.3) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เห็นความสำคัญของการเลี้ยงแพะ จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์แพะปี 2560 – 2564 ที่ส่งเสริมให้เกษตรกรพัฒนาอาชีพการเลี้ยงแพะให้ยั่งยืน มีผลผลิตที่มีคุณภาพเพียงพอต่อการบริโภค การตลาดและการแปรรูปผลผลิตและผลิตภัณฑ์จากแพะ รวมถึงส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร ผู้เลี้ยงแพะ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการลดต้นทุน สถานการณ์การผลิตแพะเนื้อจังหวัดอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีเป็นแหล่งผลิตแพะเนื้อที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่า ปี 2564 (ข้อมูลจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี ณ 13 สิงหาคม 2564) มีเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะเนื้อ 785 ราย แพะเนื้อ 16,713 ตัว มีการเลี้ยงกระจายในหลายอำเภอ แหล่งผลิตสำคัญอยู่ที่อำเภอเมืองและอำเภอหนองหาน เกษตรกรนิยมเลี้ยงสายพันธุ์ลูกผสมบอร์ เนื่องจากเลี้ยงง่าย โตเร็ว อัตราการให้ลูกแฝดสูง และเป็นที่นิยมของตลาด ต้นทุนการผลิต การเลี้ยงแพะมีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 2,100 บาท/ตัว แยกเป็นค่าพันธุ์สัตว์ 105 บาท ค่าแรงงาน 867 บาท ค่าอาหา
เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทรงเป็นห่วงราษฎรมีแหล่งอาหารโปรตีนไม่เพียงพอ ทรงแนะให้เลี้ยงไก่พื้นเมือง “ไก่แม่ฮ่องสอน” เพื่อช่วยให้ราษฎรในพื้นที่มีอาชีพ พร้อมแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพ “ไก่แม่ฮ่องสอน” เป็นไก่พื้นเมืองท้องถิ่นที่เลี้ยงกันในชนบทเกือบทุกอำเภอของจังหวัดแม่ฮ่องสอน เกษตรกรที่เลี้ยงมีทั้งในหมู่บ้าน รวมทั้งชาวเขาในเขตที่สูง ไม่ว่าจะเป็นชาวกะเหรี่ยง มูเซอ ลีซอ ฯลฯ ลักษณะทั่วไปของไก่พันธุ์นี้คล้ายกับไก่ป่า จึงคาดว่าเป็นไก่ที่มีต้นพันธุ์มาจากไก่ป่า โดย เพศผู้ มีลักษณะขนคอและหลังสีเหลืองแดงเข้ม ขนลำตัวและหางมีสีดำ มีขนปุยขนที่โคนหาง หงอนจักร ใบหน้าแดง แข้งและปากมีสีดำหรือเทา มีขนตุ้มหูสีเหลือง ผิวหนังขาวอมแดง และ เพศเมีย มีลักษณะขนลำตัวสีน้ำตาลกระเหลืองหรือน้ำตาลลายป่าทั้งตัว หงอนจักร ใบหน้าแดง ปากและเเข้งสีดำหรือเทาหรือน้ำตาล มีขนตุ้มหูสีเหลือง ผิวหนังขาวอมแดง ชาวบ้านเลี้ยงไก่แม่ฮ่องสอนเพื่อการบริโภค ไว้จำหน่าย สร้างความเพลิดเพลินในแบบไก่สวยงาม รวมถึงยังเลี้ยงเป็นไก่ล่อหรือต่อไก่ป่า ตำบลแม่เงา อำเภอข
ไก่จ๋า…ได้ยินไหมว่าเสียงใคร…เป็นข้อความตอนหนึ่งของเพลง ไก่จ๋า ที่ฟังแล้วคิดอยากกินไก่ย่างไม้มะดันสักมื้อ เป็นไก่ย่างสูตรพิเศษที่มีเสียงเล่าขานว่าเลิศรสความอร่อย ด้วยการเลือกนำไม้มะดันมาหนีบไก่ เมื่อนำไปย่างทำให้เนื้อไก่ย่างสีเหลือง ได้กลิ่นหอมพร้อมความอร่อย สินค้าดีมีคุณภาพในถิ่นอำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ เป็นโอกาสดีที่การเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ต้องผ่านเส้นทางไก่ย่างไม้มะดันห้วยทับทัน จึงได้แวะเข้าไปที่ร้านไก่ย่างแห่งหนึ่งทันที ขณะเดินผ่านบริเวณโรงครัวกลิ่นหอมก็โชยมาชวนให้ชิม เห็นมีคนมารอซื้อกลับบ้าน และมีคนสวมเสื้อซาฟารีกำลังพลิกกลับไก่บนเตาปิ้ง ทราบภายหลังว่า เป็น คุณพีปกรณ์ เฮงรัตนกุลเศรษฐ หรือ คุณโชค ผู้จัดการร้าน จึงได้พูดคุยกันพร้อมรวบรวมเป็นเรื่องราว ไก่ย่างไม้มะดันห้วยทับทัน…ไก่เศรษฐกิจ เลิศรสความอร่อย มาบอกเล่าสู่กัน คุณพีปกรณ์ เล่าให้ฟังว่า ต้องขอเล่าความถึงอดีตสักหน่อยว่า พื้นถิ่นที่แห่งนี้เคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยข้าวปลาอาหาร แต่ประชาชนก็ต้องพบกับปัญหาการเดินทาง เช่น จากอุบลราชธานี ไป-กลับกรุงเทพฯ ต้องใช้บริการนั่งรถไฟ บางครั้งใช้เวลาข้ามวันข้ามคืน ถ้าต้องการเดินทางให้
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมมือปศุสัตว์จังหวัด เดินสายให้ความรู้การป้องกัน โรค ASF ในสุกร แก่เกษตรกรรายย่อยในพื้นที่จังหวัดยโสธร พร้อมทั้งจัดอบรมต่อเนื่องให้กับเกษตรกรในจังหวัดฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ นครนายก และอ่างทอง ช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยกว่า 3,000 คนในกว่า 20 จังหวัดรู้ทัน และเข้าใจการป้องกันโรค นางสาวสิริมา วัฒโน รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กล่าวว่า การป้องกันโรค ASF ในสุกรเป็นวาระแห่งชาติที่่ต้องระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนป้องกันโรค ASF ในสุกร แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่พบการระบาดของโรคในประเทศไทย การจัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยในจังหวัดยโสธร จะช่วยสร้างความตื่นตัวให้เกษตรกรรายย่อยที่เป็นฟันเฟืองที่สำคัญมีความพร้อมในการป้องกันอย่างเข้มแข็ง น.สพ.ปัญญา มูลคำกาเจริญ ปศุสัตว์จังหวัดยโสธร กล่าวว่า ประเทศไทยไม่มีการแพร่ระบาดของโรคนี้และเป็นโรคที่เกิดเฉพาะในสุกรเท่านั้น ไม่ติดต่อหรือเป็นอันตรายต่อสัตว์อื่น ผู้บริโภคสามารถรับประทานหมูได้อย่างปลอดภัย 100% ปศุสัตว์จังหวัดบูรณาการทำงานกับภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งการป้องกันโรค การปราบปรามการ