สินค้าอัตลักษณ์
คุณเกษม ชาติทอง รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 นครสวรรค์ (สศท.12) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จังหวัดกำแพงเพชร นับเป็นแหล่งปลูกกล้วยไข่ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากจังหวัดจันทบุรี เนื่องจากลักษณะภูมิประเทศ พื้นที่เพาะปลูก และสภาพอากาศเหมาะแก่การเจริญเติบโต ประกอบกับเกษตรกรในพื้นที่มีความชำนาญในการปลูกกล้วยไข่มายาวนาน ส่งผลให้กล้วยไข่ของจังหวัดกำแพงเพชรมีคุณภาพสูงได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจากข้อมูลของกรมศุลกากร (ข้อมูล ณ 12 กรกฎาคม 2565) พบว่า ปี 2564 ไทยส่งออกกล้วยไข่ ปริมาณ 8,168 ตัน มูลค่า 211 แสนล้านบาท โดยประเทศส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และฮ่องกง สำหรับสถานการณ์ผลิตกล้วยไข่ของจังหวัดกำแพงเพชร ปี 2565 (ข้อมูลของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ณ เดือนกรกฎาคม 2565) พบว่า มีพื้นที่ปลูกกล้วยไข่ 2,213 ไร่ เกษตรกรผู้ปลูก 461 ครัวเรือน พื้นที่ปลูกส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอเมืองกำแพงเพชร 1,204 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 54 ของพื้นที่ปลูกทั้งจังหวัด เกษตรกรนิยมปลูกกล้วยไข
คุณนพดล ศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 นครสวรรค์ (สศท.12) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า “ปลาแรดลุ่มน้ำสะแกกรังอุทัยธานี” เป็นสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดอุทัยธานีมาอย่างยาวนาน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อปี 2555 ด้วยเอกลักษณ์ของเนื้อปลาที่นุ่ม แน่น และรสชาติหวานอร่อย นิยมนำไปทำเป็นเมนูรับประทานกันในงานเลี้ยงโต๊ะจีนและร้านอาหารในจังหวัด ประกอบกับการรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นของผู้ประกอบการในท้องถิ่น ยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจและนำรายได้มาสู่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดปีละ 10 ล้านบาท ปัจจุบันจังหวัดอุทัยธานี (ข้อมูลจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2564) มีเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาแรดลุ่มน้ำสะแกกรังอุทัยธานี (GI) จำนวน 148 ราย โดยเกษตรกรจะเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม จากการทำเกษตรกรรมและประมงเป็นหลัก เกษตรกรเลี้ยงประมาณ 1-2 กระชังต่อครัวเรือน พื้นที่กระชังรวม 4.11 ไร่ หรือ 1,644.44 ตาราง