หมอเกษตร ทองกวาว
คําถาม จากข้างกระสอบปุ๋ย เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ ผมสนใจการเกษตรมาแล้วระยะหนึ่ง แต่เนื่องจากไม่มีพื้นฐานทางด้านนี้มาก่อน จึงมีคําถามอยู่ในใจหลายอย่าง วันนี้ผมเขียน จ.ม. มาถามคุณหมอเกษตรว่า ตัวเลขข้างกระสอบปุ๋ย เขียนว่า 12-24-12 น้ำหนัก กระสอบละ 50 กิโลกรัม ดูแล้วยังไม่เข้าใจอยู่ดี รู้เพียงว่าเป็นปุ๋ยเร่งดอกเท่านั้น ขอคําอธิบายจากคุณหมอเกษตรด้วยครับ ด้วยความนับถือ ศิริชัย แก้วโพธิ์ เลขที่ 58/2 บ้านหนองบัวสร้าง ตําบลอุมจาน อําเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร 47230 ตอบ : คุณศิริชัย แก้วโพธิ์ ตัวเลขข้างกระสอบปุ๋ยที่คุณยกตัวอย่างมานั้น เป็นตัวเลขข้างต้นนั้นเป็นระบบสากล ในความหมายนั้นบอกว่า ในกระสอบปุ๋ย น้ำหนัก 100 กิโลกรัม มีธาตุ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ที่ต้นไม้นําไปใช้ประโยชน์ – 12 ตัวแรก คือ ปริมาณ N (ไนโตรเจน) ช่วยเร่งการเจริญเติบโต สร้างใบ เพิ่มความเขียว – 24 ตัวถัดมา คือ ปริมาณ P (ฟอสฟอรัส) ช่วยเร่งการแตกใบและการผสมเกสร เพิ่มความแข็งแรงให้ลำต้น – 12 ตัวสุดท้าย คือ ปริมาณ K (โพแทสเซียม) ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มขนาด น้ำหนัก และรสชาติ ความหวาน 12, 24 และ 12 กิ
เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ ผมเป็นคนชอบรับประทานหน่อไม้ ผมว่าคนไทยทุกคนก็คงชอบเหมือนกับผม ทั้งนี้ ผมคิดว่าในหน่อไม้น่าจะมีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์อย่างแน่นอน ผมอยากได้ความรู้เพิ่มเติมว่า ในหน่อไม้มีธาตุอาหารสำคัญอะไรบ้าง นอกจากเป็นความรู้แล้ว ผมจะได้นำไปเล่าให้ลูกหลานได้รับทราบต่อไป ขอขอบคุณมาในโอกาสนี้ครับ ขอแสดงความนับถือ ประวิทย์ ภิรมย์เวช นครนายก ตอบ คุณประวิทย์ ภิรมย์เวช หน่อไม้ ใช้ประกอบอาหารจานเด็ดได้หลากหลายเมนู ตัวอย่าง แกงอ่อม แกงหน่อไม้ แกงเหลือง ต้มจืด หน่อไม้ดอง ซุบหน่อไม้ หน่อไม้ผัดไข่ หรือแม้แต่ต้มจิ้มน้ำพริกก็แสนอร่อย นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ทางด้านอื่นๆ อีกหลายประการของหน่อไม้ เมื่อบริโภคจะช่วยดูดซับสารพิษในระบบทางเดินอาหาร แล้วขับถ่ายออกจากร่างกาย หน่อไม้ช่วยลดการกระหายน้ำ อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่เป็นประโยชน์กับร่างกายหลายชนิด ธาตุฟอสฟอรัส มีมากพอที่ให้พลังงานกับร่างกาย แคลเซียม ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ธาตุเหล็ก มีบทบาทในการสร้างเม็ดเลือดแดง ดังนั้น จะเห็นว่าหน่อไม้มีประโยชน์มากมาย แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เป็นโรคเก๊าต์และโรคไต ควรบริโภคหน่อไม้ด้วยคว
“หอยเชอรี่” เป็นศัตรูพืชสำคัญที่ทำลายข้าวในนา หากกำจัดโดยใช้สารเคมี จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ ปู ปลา และสัตว์น้ำในแปลงนาตายไปด้วย หมอเกษตร ทองกวาว จึง แนะนำวิธีควบคุมและกำจัดหอยเชอรี่อย่างถูกวิธี หอยเชอรี่ เข้ามาอาละวาดในนาข้าวของประเทศไทย จากที่เคยมีการบันทึกไว้อย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2525 โดยมีผู้เลี้ยงปลาตู้นำพันธุ์มาจากประเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน ด้วยวัตถุประสงค์ต้องการนำมาเลี้ยงประดับในตู้ปลาและนำกลับไปจำหน่ายยังประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อมีปริมาณหอยเชอรี่มากเกินความต้องการ จึงมีผู้นำไปทิ้งลงในลำคลอง หอยเชอรี่แพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้นในปี พ.ศ. 2531 ที่ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ในเวลาไล่เลี่ยกันพบว่า มีการระบาดเข้ากัดกินข้าวในนาอย่างหนักที่เขตมีนบุรี หนองจอก และลาดกระบัง และในปี 2537 ต่อเนื่องปี 2538 เกิดน้ำท่วมภาคกลางหลายจังหวัดเป็นเวลานาน ทำให้หอยชนิดนี้ระบาดทำลายนาข้าวครอบคลุมพื้นที่รวมถึง 60 จังหวัด ดังนั้น หอยเชอรี่จึงเป็นศัตรูของชาวนาอยู่ในอันดับต้นๆ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา “หอยเชอรี่” เป็นหอยน้ำจืดชนิดหนึ่ง บางคนเรียกว่า หอยโข่งอเมริกาใต้ และเ
เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ ผมดูข่าวในสื่อบางสื่อ พบว่าเกษตรกรบางท่านบอกว่า การขยายพันธุ์มะนาวด้วยวิธีควบแน่นนั้น หมายความว่าอย่างไร ผมเข้าใจว่าเป็นวิธีขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำใช่หรือไม่ โดยในข่าวบอกว่าทำได้ง่าย และได้ผลดีเทียบเท่ากับวิธีตอนกิ่ง ผมจึงอยากทราบว่า วิธีดังกล่าวที่เล่ามานี้ เกษตรกรมีเทคนิคอื่นๆ เข้าช่วยอย่างไร ขอคำอธิบายด้วยครับ ขอแสดงความนับถือ สุพจน์ ทองดำรงค์ นนทบุรี ตอบ คุณสุพจน์ ทองดำรงค์ ก่อนอื่น ผมขออธิบายถึงเรื่องการขยายพันธุ์พืช เพื่อเป็นการปูพื้นให้เข้าใจ การขยายพันธุ์พืช จำแนกได้ 2 ประเภท คือ การขยายพันธุ์โดยอาศัยเพศ (Sexual propagation) คือการใช้เมล็ดที่เกิดจากการผสมเกสร ระหว่างเกสรเพศผู้และเพศเมีย วิธีนี้ลูกที่ได้จะมีการกระจายทางพันธุกรรม ตามกฎของเมนเดลที่เหมือนพ่อ อยู่ระหว่าง หรือดีกว่าพ่อแม่ และเหมือนแม่ ในอัตรา 1 : 3 : 1 จึงเหมาะกับการปรับปรุงพันธุ์ และการขยายพันธุ์โดยไม่อาศัยเพศ (Asexual Propagation) คือใช้กิ่ง ใบ ตา และยอด เช่น วิธีการตอนกิ่ง ปักชำกิ่ง ทาบกิ่ง เสียบยอด และการปั่นตา (Tissue Cultus) ข้อดีของการขยายพันธุ์ประเภทนี้ ต้นที่ได้จะเหมือน
เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ ปีนี้สภาพอากาศแห้งแล้งมาก มีผลกระทบมาถึงสวนผลไม้ของผม ทำให้ต้นไม้โทรมลงไป ปริมาณน้ำที่สำรองไว้ก็เหลือน้อย หากไม่มีฝนมาช่วย การขาดน้ำจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ดังนั้น ผมขอเรียนถามว่า ผมจะดูแลและฟื้นฟูสวนอย่างไร เพื่อช่วยบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในสภาวะแห้งแล้งที่กำลังเกิดอยู่ในขณะนี้ ผมขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ขอแสดงความนับถืออย่างสูง วรวิทย์ อุทัยวัฒน์วงศ์ นครพนม ตอบ คุณวรวิทย์ อุทัยวัฒน์วงศ์ ผมเคยนำข้อมูลมาเล่าให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบมาบ้างแล้วว่า ในทุกๆ รอบ 10 ปี จะเกิดภาวะแห้งแล้ง 4 ปี แบ่งเป็นแล้งรุนแรง 2 ปี แล้งไม่รุนแรง 2 ปี น้ำท่วม 3 ปี จะมีสภาวะฝนฟ้าเป็นปกติเพียง 3 ปี เท่านั้น ซึ่งในปีนี้ภาวะแห้งแล้งกลับมาเยือนอีกวาระหนึ่ง กรณีที่ปริมาณน้ำไม่พอเพียงสำหรับการเจริญเติบโต และการพัฒนาการของไม้ผล มีผลทำให้เกิดอาการใบเหลือง ผลหลุดร่วง หรือผลมีขนาดเล็ก รูปร่างบิดเบี้ยว และหากขาดน้ำอย่างรุนแรง อาจทำให้ต้นไม้ยืนต้นตายได้ ดังนั้น ในระยะนี้ควรคลุมโคลนต้นด้วยฟางข้าว หรือวัสดุอื่นๆ เพื่อช่วยรักษาความชื้นในดินให้ได้ยาวนานขึ้น ตัดแต่งกิ่งแห้ง กิ่งไม่สมบูรณ์ที
เรียน คุณหมอเกษตร ทองกวาว ที่นับถือ ผมสนใจการเตรียมพร้อมต้นลำไย ก่อนจะทำการราดสารโพแทสเซียมคลอเรต เพื่อบังคับให้ลำไยออกดอกติดผลนอกฤดู โดยต้นไม่โทรมนั้นต้องปฏิบัติอย่างไร ขอคำอธิบายด้วยครับ ขอแสดงความนับถือ วรวุฒิ เอนกพันธุ์ ลพบุรี ตอบ คุณวรวุฒิ เอนกพันธุ์ วิธีบังคับให้ลำไยออกดอกนอกฤดู จำเป็นต้องบำรุงให้ต้นสมบูรณ์ แข็งแรง เริ่มจากการคัดเลือกต้น หรือสวนลำไย ที่มีอายุ 5 ปีขึ้นไป ตัดแต่งกิ่งกระโดงหรือกิ่งแนวตั้งออก แม้กิ่งแนวราบที่ไม่สมบูรณ์ก็ให้ตัดทิ้งเช่นเดียวกัน บำรุงด้วยปุ๋ยคอกพร้อมปุ๋ยเคมี หรือปุ๋ยอนินทรีย์ และกำจัดวัชพืชออกให้หมด พร้อมรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ แล้วจึงราดสารโพแทสเซียมคลอเรต (Kolo3) อัตรา 30 กรัม ต่อน้ำ 80 ลิตร หรือ 4 ปี๊บ ละลายให้เข้ากัน ควรเติมสารบอแรกซ์ลงไปเพื่อลดความสามารถในการติดไฟบริเวณใต้ทรงพุ่มให้ทั่ว ขณะใช้สารต้องแต่งกายให้รัดกุม โดยสวมเสื้อผ้าที่ทำจากใยสังเคราะห์ สวมรองเท้าบู๊ต สวมหมวก และถุงมืออย่างมิดชิด พร้อมสวมแว่นตาชนิดกระชับใบหน้า สำหรับสารโพแทสเซียมคลอเรตนั้น ต้องบรรจุในภาชนะที่มิดชิด แห้ง และไม่อยู่ในที่ร้อนอบอ้าว ประการสำคัญระหว่างการใช้สาร ห้ามสูบบุหรี่อย่