อาหารเหนือ
“มิโสะ” (Miso) เป็นอาหารหมักที่ทำจากถั่วเหลืองร่วมกับเกลือผ่านกระบวนการหมักโดยเชื้อราในกลุ่มแอสเปอร์จิลรัส ออไรเซ่ (Aspergillusoryzase) หรืออาจจะใช้หลายสายพันธุ์ ร่วมกัน เช่น แอสเปอร์จิลรัส โซแย่ (A.soyae) และอาจใช้ยีสต์ร่วมด้วย ปกติมักบ่มในถังไม้นาน ประมาณ 1-3 ปี โดยตลอดระยะเวลาที่บ่มสามารถเติมส่วนผสมอื่นลงไปได้จึงทำให้มิโสะมีสี รสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป มิโสะมีหลายสี อาทิ สีขาวครีม น้ำตาลแดง ไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม คุณพิมพ์วลัญช์ พินธ์ประภา เจ้าของกิจการร้านอาหารเฮือนคำ ถนนศิริธร ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า “มิโสะ” มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนเมื่อประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว โดยใช้เป็นเครื่องปรุงรสให้แก่อาหารประเภทต่างๆ และนำเข้าในประเทศญี่ปุ่น หลังจากนั้นชาวญี่ปุ่นได้ทำการปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์ของเชื้อราที่ใช้ในการหมักกระบวนการผลิตตลอดจนการปรุงแต่งรสเรื่อยมา ทำให้มิโสะมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งต้นกำเนิดมากจากแถบเกียวโต โดยมีสีค่อนข้างขาว มิโสะ จัดได้ว่าเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุอาหาร โปรตีน เหล็ก และโพแทสเซียม ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและที่สำ
คำขวัญประจำหมู่บ้านป่าก่อพัฒนา ตำบลเจริญเมือง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย คือ “ปลาเผาลือชื่อ ยึดถือคุณธรรม นำประชาธิปไตย งามวิไลสิ่งแวดล้อม” คำขวัญประโยคแรกที่ว่า ปลาเผาลือชื่อนั้น มาจากในอำเภอพาน มีการเลี้ยงปลากันมาก โดยเฉพาะ ปลานิล ส่วนใหญ่ปลาที่เลี้ยงจะจับและส่งขายทั่วภาคเหนือ คุณหวัด ติวรรณะ จึงรวบรวมกลุ่มขึ้น จัดตั้งเป็นกลุ่มเสริมสร้างธุรกิจประชาคมบ้านป่าก่อพัฒนา เพื่อแปรรูปปลาสดเป็นอาหาร เพิ่มมูลค่า โดยตั้งเป็นร้านอาหารอยู่ เลขที่ 217 หมู่ที่ 22 ตำบลเจริญเมือง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย สังเกตรูปปลานิลตัวโตอยู่หน้าร้าน นอกจากนี้ ยังรวมกลุ่มเป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล แปรรูปสัตว์น้ำ (OTOP) อีกด้วย คุณหวัด รับหน้าที่เป็นประธานกลุ่มซึ่งมีคณะกรรมการ 15 คน ร้านอยู่ตรงข้ามวัดศรีทรายมูล หรือหากเดินทางขึ้นไปจังหวัดเชียงรายตามถนนสายพหลโยธิน จะอยู่ทางขวามือ เนื่องจากเป็นถนน 4 เลน หากท่านขับรถยนต์ไปจะต้องกลับรถล่องมาทางจังหวัดพะเยา หรือตัวอำเภอพานอีกครั้ง เมนูอาหารที่ขึ้นชื่อ หนีไม่พ้นปลานิลเผา ซึ่งจะพอกตัวปลาด้วยเกลือป่นแล้วนำไปเผา หลายคนจะสงสัยว่า ทำอย่างนั้นปลาจะไม่เค็มหรือ ขอรับรองแทนกลุ