อาหารไทยโบราณ
แม่น้ำลำคลองในสมัยก่อนถือเป็นเส้นทางการจราจรที่สำคัญที่สุดมากกว่าทางบกและใช้เวลาน้อยกว่า ส่วนการสัญจรทางบกชาวบ้านจะใช้การเดินเท้าและเทียมเกวียนเป็นส่วนใหญ่ การใช้ม้าและช้างเป็นพาหนะเป็นเรื่องของชนชั้นสูง ชุมชนในสมัยโบราณจึงมักตั้งอยู่แถบริมน้ำเพราะการไปไหนมาไหนสะดวก ด้วยการสัญจรทางเรือเหมือนกับบ้านอยู่ติดถนนในปัจจุบัน ใช้รถยนต์สัญจร ประวัติวัดลำพญา วัดวาอารามในสมัยก่อนก็จะสร้างอุโบสถหันหน้าเข้าหาแม่น้ำเพื่อจะให้เห็นเด่นสง่ายามสัญจร แต่ในปัจจุบันอุโบสถจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกตามความเชื่อใหม่ วัดลำพญาเป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2404 ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงปัจจุบันมีอายุ 159 ปี ตั้งอยู่ที่ตำบลลำพญา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ชื่อลำพญานี้เล่าขานกันว่า มีขุนนางชั้นผู้ใหญ่ระดับพระยา พร้อมใจกันมาบวชที่วัดแห่งนี้ โดยลงเรือกันมาเต็มลำเรือ เลยเรียกว่า ลำพญา บ้างก็ว่าเป็นเพราะให้พระยาท่านหนึ่งมาขุดลอกคลองจึงเรียกแถบนี้ว่า ลำพญา ซึ่งวัดลำพญาตั้งอยู่ฝั่งแม่น้ำนครชัยศรี ที่แยกออกจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ชัยนาท ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร ก่อนจะไห
อาหารไทยโบราณนั้นมีมากมายหลายๆ เมนู นับเฉพาะต้มๆ แกงๆ ก็มีมากจนนับแทบไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นต้มยำ ต้มส้ม ต้มเปรอะ ต้มจืด แกงคั่ว แกงเผ็ด ต้มเปรต และอื่นๆ อีกมากมายเลยทีเดียว แต่พอมาถึงทุกวันนี้อาหารไทยบางชนิดก็ไม่ค่อยมีใครทำกินหรือทำขายกันแล้ว จึงทำให้ไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก อย่างเช่น อาหารประเภท ต้มกะทิ ที่จะได้นำเสนอในฉบับนี้ ต้มกะทิ เป็นอาหารโบราณประเภทหนึ่งที่ทำได้ง่ายๆ เครื่องปรุงก็มีไม่มากอย่าง สำหรับเรื่องรสชาติก็มีครบรสแบบอาหารพื้นบ้านไทยๆ เช่น รสหวานจากกะทิ และน้ำตาลปี๊บ รสเค็มจากเครื่องปรุง ที่เป็นส่วนประกอบในการทำ ซึ่งอาจได้จากของที่มีติดครัวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ เนื้อปลา ที่ทำเค็มหรือดองไว้แล้ว ได้รสเปรี้ยวจากมะขามเปียกยืนพื้น และบางสูตรอาจจะใส่ยอดมะขามอ่อน มะดัน หรือน้ำมะนาว ก็จะทำให้เราได้รสเปรี้ยวที่แตกต่างกันออกไป ในสำรับอาหารของคนโบราณสมัยก่อน ท่านมักกินต้มกะทิเป็น เครื่องเคียง กับ กับข้าวหลัก เช่น จัดเคียงกับ ผัดเผ็ด เพื่อให้รสเค็ม หวาน และเปรี้ยวๆ นั้นไปช่วยแก้ความเผ็ดร้อนลงได้บ้าง ตามตำราโบราณบอกว่า ต้มกะทิ นั้นมี 2 แบบ คือ ต้มกะทิแบบน้ำขลุกขลิก สำหรับส่วนผ
จะว่าไปแล้ว เมนูที่มักทำให้หลายท่านเจริญอาหารจนต้องเติมข้าวหลายรอบคงหนีไม่พ้น “น้ำพริก” น้ำพริกเป็นอาหารไทยโบราณที่ได้รับความนิยมจวบจนถึงทุกวันนี้ น้ำพริกแต่ละชนิดมีเอกลักษณ์ต่างกันขึ้นอยู่กับวัตถุดิบส่วนผสมของแต่ละภูมิภาค จะรับประทานคู่กับผักหรือคลุกข้าวร้อนก็แล้วแต่สไตล์และรสนิยม นับเป็นอาหารหลักสำคัญของคนทุกภาค ชาวบ้านจังหวัดอุทัยธานีนำ “ปลาแรด” ซึ่งเป็นปลาน้ำจืดที่ขึ้นชื่อจนได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) มาทำน้ำพริก ใครที่เคยได้ชิมเนื้อปลาแรดจะทราบว่ามีความนุ่ม แน่น และรสชาติหวานอร่อย พอนำไปผลิตเป็นน้ำพริกจึงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณว่าจะอร่อยเพียงใด?? แต่ถ้ายังไม่เคยลองชิม อยากแนะนำให้รู้จักกับผลิตภัณฑ์น้ำพริกแบรนด์ “บ้านสวนลูกแชมป์” ผลิตภัณฑ์นี้ใช้เนื้อปลาแรดมาใส่ร่วมกับเครื่องปรุงที่มีส่วนผสมของสมุนไพรพื้นบ้านออกมาเป็นน้ำพริกหลายชนิด ผ่านกระบวนการผลิตที่ใส่ใจความสะอาด ปลอดภัย รสเด็ดเผ็ดมัน อัดแน่นด้วยเนื้อปลาล้วน ตามสโลแกน “อร่อยแบบลูกทุ่ง สไตล์บ้านสวนฯ สูตรลับความอร่อยย แบบไร้ก้าง” รวมทั้งใช้นวัตกรรมมาผลิตน้ำพริกเพื่อยกระดับมาตรฐานให้ง่าย เกิดความสะดวกต่อการบริโภค ควบคุ