อุทกภัยภาคใต้
กยท. เผยฝนตกหนักทั่วภาคใต้ ส่งผลกระทบพื้นที่สวนยาง 11 จังหวัด กว่า 5.5 ล้านไร่ ทำให้ผลผลิตยางธันวาคม 67 หายจากระบบตลาดถึง 1.4 แสนตัน ส่งเจ้าหน้าที่เร่ง สำรวจความเสียหายและเยียวยาหลังน้ำลด นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้เกิดน้ำท่วมน้ำขังครอบคลุมทั่ว 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา และสงขลา ซึ่ง กยท. โดยกองวิจัยเศรษฐกิจยาง ฝ่ายเศรษฐกิจยางได้คาดว่ามีสวนยางเปิดกรีดที่ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักในครั้งนี้ จำนวน 5,592,621 ไร่ ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตยางในช่วงเดือน เดือนธันวาคม 2567 หายไปกว่า 142,963.23 ตัน คิดเป็นร้อยละ 24.75 ของผลผลิตยาง ในเดือนนี้ เนื่องจากสภาพการณ์ฝนตกต่อเนื่องทำให้เกษตรกรไม่สามารถออกไปกรีดยางและทำให้ เครื่องมืออุปกรณ์ในการกรีดยางเสียหาย ด้วยสาเหตุเหล่านี้อาจทำให้ผลผลิตยางขาดตลาดได้ นายสุขทัศน์ กล่าวว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ กยท. ในพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือโดยมอบถุงยังชีพบรรจุข้าวสาร อาหารแห้ง และสิ่งของ
คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ประกาศเตือน ช่วงวันที่ 5-7 ธันวาคม 2567 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลางประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณช่องแคบมะละกา ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือ ฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา และน้ำท่วมขังจากฝนตกสะสมในพื้นที่เขตเมือง และเตือนเฝ้าระวัง ระดับน้ำทะเลหนุนสูงอ่าวไทยบริเวณจังหวัดปัตตานี และนราธิวาส ที่จะหนุนสูงสุดในวันที่ 6- 7 ธ.ค. 67 อาจเป็นอุปสรรค ต่อการระบายน้ำลงสู่ทะเล หลังจากนั้นภาคใต้จะมีฝนลดลง ส่วนปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง ( 5 ธ.ค.67) พบว่า ประเทศไทยมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางกระจายตัวบริเวณภาคใต้ โดยมีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดสตูล นครศรีธรรมราช ระดับแม่น้ำสายหลัก มีน้ำลันตลิ่งบริเวณคลองปากประ คลองลำป่า คลองบางม่วง จังหวัดพัทลุง แม่น้ำปัตตานี และคลองกาแลกูโบ
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากที่มีประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ว่าด้วยหย่อมความกดอากาศต่ำที่พัดผ่านปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีคลื่นลมแรงบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ประมาณ 60-70% ของพื้นที่ โดยคาดว่าจะมีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัตตานี นราธิวาส พัทลุง ยะลา และสงขลา พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย จำนวน 80,153.75 ไร่ แบ่งเป็นข้าว ซึ่งอยู่ในระยะใกล้จะเก็บเกี่ยว จำนวน 53,158 ไร่ พืชไร่และพืชผัก จำนวน 13,436 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ จำนวน 13,559.75 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 14.00 น.) กรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่เร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรเบื้องต้นหลังน้ำลด และผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว โดยต้องดำเนินการสำรวจความเสียหายให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ในกรณีที่วงเงินท
ตามที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยประชาชนชาวนราธิวาส ยะลา ปัตตานี เป็นอย่างมาก หลังเกิดอุทกภัย ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ตลอดจนเกษตรกรที่ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย นั้น นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะรองประธานศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออก(ส่วนหน้า) เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังคงมีหลายพื้นที่ของจังหวัดนราธิวาส ยะลา และปัตตานี ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอุทกภัยในด้านต่างๆอย่างเต็มที่ กรมชลประทาน โดยศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยภาคใต้ฝั่งตะวันออก(ส่วนหน้า) ได้สั่งการเพื่อให้การแก้ไขและบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออก รวมทั้งการบูรณาการให้ความช่วยเหลือประช