เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ
โคเนื้อในประเทศไทยลดลงเป็นอย่างมากในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา สวนทางกับความต้องการบริโภคเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้น จากความต้องการของประชากรในประเทศ นักท่องเที่ยวต่างประเทศ และความต้องการของตลาดต่างประเทศ ในขณะที่การผลิตโคเนื้อของประเทศไม่เพียงพอกับความต้องการ โดยเฉพาะการผลิตโคเนื้อต้นน้ำที่ต้องใช้เงินลงทุนต่อฟาร์มสูง และระยะเวลาคืนทุนใช้เวลานาน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ปี ในการให้ผลตอบแทน ทำให้เกษตรกรหันไปประกอบอาชีพเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจที่ผลผลิตมีราคาสูง คืนทุนเร็ว หรือรัฐบาลประกันรายได้ ส่งผลให้จำนวนโคเนื้อลดลงเป็นอย่างมาก จนในปัจจุบันจึงเกิดปัญหาการขาดแคลนโคเนื้อ เกษตรกรผู้ผลิตโคเนื้อต้นน้ำส่วนใหญ่ไม่มีกำลังซื้อแม่โคเนื้อมาเลี้ยงได้ เนื่องจากมีราคาแพง ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการผลิตโคเนื้อทั้งระบบของประเทศ ในการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา กรมปศุสัตว์ จึงได้จัดทำโครงการฟาร์มโคเนื้อสร้างอาชีพ กรอบระยะเวลาดำเนินงาน 7 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2558-2567 เป็นโครงการบูรณาการงานร่วมกันของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อเป็นศูนย์กลาง
กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเวทีสัมมนาติดอาวุธและยกระดับสหกรณ์และเกษตรกรโคเนื้อภาคอีสาน ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์แนะต้องใช้ประโยชน์จาก เอฟทีเอ ให้มากขึ้น ชี้ตลาดอาเซียนและจีนมีอนาคต นายเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล) ให้เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการ “พัฒนาความพร้อมของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี” เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 ณ โรงแรมพลอยพาเลซ จังหวัดมุกดาหาร เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อในภาคอีสาน รุกใช้ประโยชน์จาก เอฟทีเอ มากขึ้น สร้างแต้มต่อในการส่งออกสินค้าเกษตรในพื้นที่ โดยเฉพาะสินค้าโคเนื้อและผลิตภัณฑ์ ไปตลาดต่างประเทศ เช่น อาเซียนและจีน เป็นต้น ซึ่งไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าโคเนื้อและผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกจากไทยแล้ว ภายใต้ข้อตกลงร่วมกันใน เอฟทีเอ พร้อมชี้แนะแนวทางการรับมือโคเนื้อนำเข้าจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่ไทยจะต้องเปิดเสรีในปี 2564 นี้ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เสริม
รมช. ประภัตร ดันศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ตาก เป็นแหล่งส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคที่มีศักยภาพ ผนึกกรมน้ำขุดบ่อบาดาลปลูกพืชอาหารสัตว์ เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 62 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่กรมปศุสัตว์ ณ ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธ์ุสัตว์ตาก จ.ตาก โดยมี นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ด้านการผลิต พร้อมด้วย นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ด้านการบริหารให้การต้อนรับในพื้นที่และร่วมรับฟังนโยบาย นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ ได้หารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางพัฒนาและยกระดับศักยภาพของศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ตาก ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 1,500 ไร่ เป็นแหล่งผลิตและพัฒนาพันธุ์โคเพื่อให้เป็นศูนย์ส่งเสริมและให้การสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ ให้มีความเพียงพอและมีคุณภาพรองรับในการให้บริการแก่เกษตรกร โดยได้ประสานความร่วมมือจากกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการสนับสนุนการขุดบ่อบาดาล และกรมชลประทานร่วมบูรณาการจัดการน้ำเพื่อการปลูกพืชอาหารสัตว์ให้เพียงพ