เกษตรราคาตก-ค้างชำระ 3 หมื่นล้าน
ลูกค้าธ.ก.ส. ชาวไร่ชาวสวนผลไม้ เจอผลผลิตตกต่ำ ค้างชำระหนี้กว่า 3 หมื่นล้าน สั่งสาขาทั่วปท. เร่งปรับโครงสร้างหนี้ ยืดเวลาชำระหนี้ หรือชำระเฉพาะดอกเบี้ย คาดช่วยได้แค่ 60% หรือ 1.8 หมื่นล้าน โดยสับปะรดหนักสุด รองลงมาเป็นมะนาวและกล้วย ส่วนมังคุดราคาดีแต่ออกมาน้อยเกิน นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีลูกค้าเกษตรกรของธนาคาร ประสบปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และมีการค้างชำระหนี้มากกว่า 0-3 เดือน มากกว่า 30,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าชาวสวนชาวไร่ผลไม้มากสุด โดยเฉพาะสับประรด เช่น ลำปาง เชียงใหม่ ประสบปัญหาราคาตกต่ำจากปีที่แล้วมาก รองลงมาก็เป็นมะนาว กล้วยที่มีการเพาะปลูกกันเยอะ รวมถึงมังคุดในภาคตะวันออก แม้ราคาดีแต่ผลผลิตออกมาน้อย ทำให้มีปัญหาการผ่อนชำระ จึงมอบหมายนโยบายเร่งด่วน สาขา ธ.ก.ส. ทั่วประเทศให้เข้าไปช่วยดูแลปรับโครงสร้างหนี้ให้กับเกษตรกรกลุ่มนี้อย่างเร่งด่วน หากไม่มีการดูแลจนค้างผ่อนชำระเกิน 3 เดือน ลูกค้ากลุ่มนี้จะกลายเป็นหนี้เสียทันที และทำให้ธนาคารมียอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มเป็นก้าวกระโดดจาก 4.2