เคียว
เครือข่ายเกษตรอินทรีย์นครสวรรค์ ร่วมกันจัดงาน Green-D กินดี นครสวรรค์ ปันสุข ที่ บ้าน 120 ปี วิถีไม้สักไทย สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ( เมื่อวันที่ 10-12 มกราคม 2563 )มีการออกร้านของบรรดาเครือข่ายฯ และทั้งร่วมพูดคุยประเด็นเกี่ยวกับงานความก้าวหน้าในปีที่ผ่านมา ก็มีหลายเรื่องนะครับ ที่ผมคิดว่าจะขอย่อยมาชวนคุยในครั้งต่อๆ ไป แต่ครั้งนี้ ขอชวนดื่มน้ำอ้อยอร่อยๆ สดชื่นๆ ที่เพิ่งมีโอกาสชิมในงานกันก่อน อาจเป็นเพราะอากาศร้อน หรือปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอากาศเมืองปากน้ำโพก็ได้ ที่ทำให้บ่ายวันนั้นผมรู้สึกหิวน้ำ คอแห้ง แล้วก็ให้เผอิญเดินมาพบ คุณคิม ศรีวรรณะ กำลังนั่งเคี่ยวอะไรในกระทะเดือดพล่านอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ ตรงใกล้ประตูทางเข้างานนั่นเอง “อันนี้คือเราเคี่ยวทำน้ำเชื่อม (syrup) อ้อยอินทรีย์น่ะครับ” คุณคิมเล่าอย่างยิ้มแย้ม “อ้อยนี้เราใช้พันธุ์สุพรรณบุรี 50 เป็นพันธุ์อ้อยพระราชทาน ปลูกที่อำเภอขาณุวรลักษบุรี อำเภอโกสัมพี จังหวัดกำแพงเพชร แบบเกษตรอินทรีย์เต็มรูปนะครับ มีทำเป็นเครือข่ายกลุ่มผู้ปลูกอ้อยคั้นน้ำอินทรีย์ แลกเปลี่ยนกันเรื่องพันธุ์และผลผลิตตลอด โดยเราปลูกเ
เราชาวบ้าน ก่อนที่จะมีเคียวเกี่ยวข้าว เราคงใช้มือเด็ดรวงข้าวเอามาแยกเอาเมล็ด ตำแยกเปลือกออก แล้วก็เอามาหุงกิน ต่อมาค่อยๆ พัฒนาคิดทำเครื่องมือเกี่ยวข้าว แต่ละชาติ เผ่าพันธุ์ที่กินข้าวเป็นอาหารหลักล้วนสร้างสรรค์เครื่องมือเกี่ยวข้าวเป็นรูปร่างต่างๆ กันไป บริเวณโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ โครงการพระราชดำริ อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ผู้เขียนพบเครื่องมือของใช้ชนิดหนึ่ง ถามเจ้าหน้าที่เรียกว่าอะไร ใช้ทำอะไร เจ้าหน้าที่บอกว่า ไว้สำหรับเกี่ยวข้าว แต่ไม่รู้ชื่อเรียกว่าอย่างไร เมื่อกลับมาบ้านพลิกหนังสือดูเครื่องมือเกี่ยวข้าวคนเผ่าต่างๆ ก็พบว่า เป็นเครื่องมือเกี่ยวข้าวจริงๆ แต่ไม่รู้ชื่ออยู่นั่นเอง คนไทยเราเรียกเครื่องมือเกี่ยวข้าวว่า เคียว สมัยเด็กๆ มีหนังสือเรื่องหนึ่งชื่อ คมเคียว นำแสดงโดย คุณสมบัติ เมทะนี และ คุณภาวนา ชนะจิต ปี พ.ศ. 2561 นี้ คุณสมบัติ เมทะนี ท่านเป็นศิลปินแห่งชาติไปแล้ว ส่วนคุณภาวนา ชนะจิต น่าเสียดายที่เสียชีวิตไปก่อน เคียวเกี่ยวข้าวที่พบในโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ รูปร่างแปลกกว่าเคียวโค้งๆ อย่างที่เราเห็นกัน นั่นคือ มีมือจับถือเป็นท่อนราว 1 คืบเศษๆ บริเวณตรงกลางส่วนจับถือหรือด้ามมี
นายคมป์ สังข์วงษ์ นายอำเภอขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ตนและ พ.ต.อ.ศิโรฐย์ อินทรสมบัติ ผกก.สภ.กันทรอม สืบทราบว่า มีการแอบลักลอบเสพยาเสพติด ที่กระท่อมกลางทุ่งนา ทางทิศตะวันออกบ้านขุนหาญใต้ ม.9 ต.ขุนหาญ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ จึงได้สั่งการให้สมาชิก อส.อ.ขุนหาญ ที่ 6 ร่วมกับ จนท.ชุดสืบสวน สภ.กันทรอม ออกไปทำการตรวจสอบและร่วมกันระดมกวาดล้างอาชญากรรมและการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งจากการตรวจค้นปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุมนายทองพูล ปานทอง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.9 ต.ขุนหาญ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ตรวจปัสสาวะพบผลบวก และ ร่วมกันจับกุม นายอำพูน ยาคำ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ม.9 ต.ขุนหาญ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ตรวจปัสสาวะพบผลบวก นายอำเภอขุนหาญ กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจค้นรอบบริเวณที่ต้องสงสัย แล้วพบยาบ้า 39 เม็ด ห่อด้วยถุงพลาสติกใส บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกแบบดึงเปิด-กดปิด สีน้ำตาล ซุกซ่อนอยู่ในด้ามเคียวเกี่ยวข้าว จำนวน 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมตัวทั้ง 2 คน เอาไว้ โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โท