เทคนิคการปลูกสับปะรด
ในช่วงที่สถานการณ์โลกไม่แน่นอน ทั้งสงครามและโรคระบาด ทุกอาชีพที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด ในครั้งนี้ขอพูดถึงอาชีพเกษตร ที่ได้รับผลกระทบทั้งในด้านปัจจัยค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าอาหารสัตว์ ที่ต่างพร้อมใจกันขึ้นราคา สวนทางกับรายได้ที่ต่ำลง เพราะราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ มองไม่เห็นทุน ไม่เห็นกำไร ทางออกเบื้องต้นที่พอจะทำให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ก็คงจะหนีไปพ้นการทำเกษตรสมัยใหม่ หันมาปลูกพืชผสมผสานให้มากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงการลด ละ เลิก การใช้สารเคมี แล้วมาพึ่งธรรมชาติให้มากขึ้น และที่ขาดไม่ได้เลยคือปรับปรุงต่อยอดการตลาด เพิ่มช่องทางการขายสินค้าจากที่เคยขายผ่านพ่อค้าคนกลางเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะต้องปรับมาขายในช่องทางออนไลน์และขายหน้าร้านเองมากขึ้น หรือการแปรรูปก็นับเป็นทางออกที่ช่วยให้เกษตรกรหลายรายเอาตัวรอดและได้ดิบได้ดีกับวิธีการนี้ กลายเป็นเกษตรกรที่ไม่มีหนี้ เป็นเกษตรกรที่มีความสุข เพราะไม่ต้องกังวลกับปัญหาสินค้าล้นตลาดหรือสินค้าราคาตกต่ำอีกต่อไป คุณจณิกาญจน์ รัชภูมิพิพัฒน์ หรือ พี่อ้อ เจ้าของไร่บ้านอ้อ ตั้งอยู่เลขที่ 39/2 หมู่ที่ 2 ซอยเขาระฆัง ตำบลตาสิทธิ์ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง อด
สับปะรดพืชเศรษฐกิจของไทยที่ปลูกส่งขายติดอันดับโลกในรูปของผลิตภัณฑ์แปรรูปนานาชนิด สร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้เกี่ยวข้องมากต่อมาก โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมที่ร่ำรวย และขยายการผลิตกันมาโดยตลอด ประเมินจากการขยายกำลังการผลิต และการลงทุนเพิ่มของโรงงานเก่า และจำนวนการเกิดขึ้นของโรงงานรายใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น ตรงข้ามกับราคารับซื้อ ผลผลิตสับปะรดจากชาวไร่ที่กลับตกต่ำแบบซ้ำซาก ชาวไร่สับปะรดต้องแบกรับภาระด้านต้นทุนเกือบทุกด้าน จนต้องหันมาพึ่งพาทางภาครัฐให้ช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะที่ชาวไร่หลายคนต้องแก้ปัญหาของตัวเองด้วยวิธีการที่แตกต่างกันไป คุณรุ่งเรือง ไล้รักษา ชาวไร่สับปะรด อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่คร่ำหวอดกับอาชีพปลูกสับปะรดมานาน คิดนอกกรอบด้วยการนำพันธุ์สับปะรดฉีกตามาพัฒนาเชิงการค้าจนประสบความสำเร็จขายสับปะรดฉีกตาสร้างรายได้ไร่ละ 200,000 บาท เป็นการสร้างทางเลือกของเขาในอาชีพและได้สร้างโอกาสให้กับเพื่อนๆ ชาวไร่สับปะรดอื่นๆ เป็นการช่วยเหลือตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาภาครัฐและต้องง้อโรงงานแปรรูปแต่อย่างใด การประกอบอาชีพอะไรของทุกคนก็เป็นไปตามความถนัด ความชอบหรือไม่ ก็สืบทอด