เนเธอร์แลนด์
เพิ่งพูดถึงเนเธอร์แลนด์ไปหยกๆ ในฐานะตลาดดอกไม้ใหญ่สุดของโลก วันนี้ยังต้องพูดต่อ เพราะประเทศเล็กๆ ประเทศนี้เพาะปลูกอย่างแข็งขัน และมีผลผลิตมากมายน่าชื่นใจ ทั้งที่มีพื้นที่เล็กนิดเดียว เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศเล็ก อยู่กันอย่างหนาแน่น โดยมีประชากรมากกว่า 392 คนต่อตารางกิโลเมตร เกือบ 3 เท่าของไทยที่ความหนาแน่นของประชากรอยู่ที่ 136 คนต่อตารางกิโลเมตร มีพื้นที่ 41,528 ตารางกิโลเมตร หรือราว 2 เท่าของเชียงใหม่ แม้จะเล็กจิ๋วแต่เป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่อันดับสองของโลก รองจากอเมริกาที่มีขนาดใหญ่กว่า 270 เท่า เฉพาะในปี 2560 เนเธอร์แลนด์ส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่า 111 พันล้านดอลลาร์ ในนี้เป็นดอกไม้ 10 พันล้านดอลลาร์ ผัก 7.4 พันล้านดอลลาร์ เนเธอร์แลนด์ดูไม่เหมือนผู้ผลิตอาหารรายใหญ่รายอื่นๆ เลย ที่เพาะปลูกส่วนใหญ่มีขนาดเล็กถ้าว่ากันตามมาตรฐานธุรกิจการเกษตร การเพาะปลูกส่วนใหญ่ทำในโรงเรือน ไม่ใช่บนไร่นาขนาดใหญ่เหมือนของประเทศอื่น แต่เรือนกระจกของเนเธอร์แลนด์บางอันก็ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 500 ไร่เลยทีเดียว โรงเรือนควบคุมอุณหภูมิเหล่านี้ช่วยให้เนเธอร์แลนด์ที่ตั้งอยู่ในเขตอากาศหนาวเกือบตลอดปี สามารถผลิตและส
Horti Agri Next ร่วมกับสถานทูตเนเธอร์แลนด์และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดงาน “Thai-Dutch Floriculture Forum 2024 หนึ่งในกิจกรรมฉลอง 420 ปี สัมพันธไมตรี ไทย-เนเธอร์แลนด์ กรุงเทพฯ – วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค ผู้จัดงาน Horti Agri Next Asia (ฮอร์ติ อะกริ เน็กซ์ เอเชีย) ร่วมมือกับสถานทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และศูนย์วิจัยเทคโนโลยีนิวเคลียร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีความยินดีที่จะประกาศการจัดงานสัมมนา Thai-Dutch Floriculture Forum 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Envision Innovation for a Sustainable Floriculture Industry”มุ่งเน้นการเสวนาด้านนวัตกรรมใหม่เพื่อการผลิตอุตสาหกรรมไม้ดอกที่ยั่งยืน จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2567 ระหว่างเวลา 08.00-16.00 น. ณ Grand Hall 1 โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ พร้อมด้วยความร่วมมือจากหลากหลายองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมดอกไม้ทั้งในและต่างประเทศ ไฮไลท์ภายในงานที่คุณไม่ควรพลาด – การสาธิตการออกแบบดอกไม้: สัมผัสกับการสร้างสรรค์งานจัดดอกไม้สดโดย World Flower Council ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะ
เนเธอร์แลนด์หรือฮอลแลนด์ ขึ้นชื่อลือชาแบบไม่มีใครกล้าท้าทายในเรื่องความสวยงามของอาคารบ้านเรือนที่ก่อร่างกันมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 หรือ 400 กว่าปีมาแล้ว แต่ยังอยู่ในสภาพสวยงามได้รับการบำรุงรักษาดีเยี่ยม คลองอายุเท่ากับเมืองที่ขุดต่อเนื่องครอบคลุม ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติล้ำค่าของ UNESCO เดินดูบ้านเมือง พิพิธภัณฑ์ ล่องเรือในคลอง เดินเล่นใน Vondelpark สวนสาธารณะกว้างเกือบ 300 ไร่ใจกลางเมือง คลองในอัมสเตอร์ดัมไม่ได้มีไว้แค่ล่องเรือ มันถูกขุดขึ้นเพื่อขนส่งอาหารและสินค้าจากชนบทเข้ามายังใจกลางเมืองให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ก็ควบคุมน้ำระดับหนุนจากทะเล และยังใช้เป็นปราการป้องกันการรุกรานที่อาจเกิดขึ้น ทำให้คลองที่นี่มีลักษณะเฉพาะ กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหลวงของประเทศ จึงถูกรักษาอย่างดี บ้านริมคลองของเขาก็สวยสุด คลองบางคลองมีสะพานข้ามมากถึง 15 สะพาน แต่สะพาน De Magere Brug ข้ามแม่น้ำ Amstel น่าจะเป็นสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดในอัมสเตอร์ดัม สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477 เชื่อมระหว่างสองฝั่งแม่น้ำใกล้กับเคิร์กสตราต แต่วันเวลาที่สวยที่สุดของเนเธอร์แลนด์คือฤดูร้อน ไล่จากปลายเดือนมีนาคมถึ
เวลาพูดถึง กัญชาเสรี คนมักอ้างประเทศเนเธอร์แลนด์ ประเทศเล็กๆ ที่ก้าวหน้ามาก เพราะเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุญาตให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้ ตั้งแต่ ปี 2544 คนจึงเชื่อทันทีว่า เมื่อก้าวหน้าเปิดกว้างขนาดนี้ เนเธอร์แลนด์ก็เปิดให้เสพกัญชาเสรีได้ ที่จริงไม่ใช่ จนถึงวันนี้ กัญชายังเป็นสิ่งผิดกฎหมายในเนเธอร์แลนด์ พูดอีกอย่างคือ เขายังไม่ได้เอากัญชาออกจากบัญชีสิ่งเสพติด ยังคงมีโทษระบุว่า ใครครอบครองหรือค้ายังผิดกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติ เขาให้คนครอบครองเพื่อบริโภคส่วนตัวได้ คนละ 5 กรัม คือถ้าเจอใครครอบครองกัญชาปริมาณต่ำกว่า 5 กรัม ถ้าเป็นบุหรี่พันลำก็ราว 4-5 มวน อันนี้เขาไม่จับ เขาอนุโลมให้ใช้ได้ จะเพื่อการแพทย์หรือเพื่อความสำราญ ได้ทั้งนั้น แต่ต้องเสพในที่ส่วนตัว ที่บ้าน หรือสถานที่เขาจัดไว้ให้เท่านั้น ประเทศเขาจะมีร้านขายกัญชาให้เราเข้าไปนั่งเสพเหมือนร้านกาแฟ ร้านเหล้า และก็มีพื้นที่สาธารณะที่เขาห้ามเสพ ก็เหมือนกับเมืองไทยห้ามดื่มเหล้าในที่สาธารณะในวัด ในโรงเรียน อะไรแบบนั้น เมืองไทยจนถึงปัจจุบันถ้าเจอครอบครองกัญชานับว่าผิดทันที มีโทษปรับ 1 แสนบาท จำคุก 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าครอบครองหลายกิโล
สถานทูตเนเธอร์แลนด์ ร่วมกับ VIV ASIA สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ Wageningen University & Research และ DSM Nutritional Products (Thailand) Ltd. ขอเชิญผู้สนใจ เกษตรกร นักวิจัย นักวิชาการ ผู้ประกอบการ จากแวดวงปศุสัตว์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับปศุสัตว์และอาหารสัตว์ เข้าร่วมการสัมมนาออนไลน์ “Resilience of Sustainable Livestock Value Chain Amid Alternative Protein Sources, Climate Change and Post COVID-19” ลงทะเบียนไม่เสียค่าใช้จ่าย (FREE Webinar) https://zoom.us/webinar/register/WN_wsRd5uoORK-blq_NP11Hlw #หนึ่งในสัมมนาออนไลน์ที่ดีที่สุดแห่งปี ที่เราไม่อยากให้พลาด เมื่ออุตสาหกรรมปศุสัตว์อย่างยั่งยืนคือคำตอบสำหรับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย มาร่วมฟังการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญจากไทยและเนเธอร์แลนด์ #NLNetherlands #TFMA #DSM #WUR #KU #VIVAsia #ClimateChange #SustaianbleLivestock
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และ H.E. Mr. Kees Rade, The Netherlands Ambassador ร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทย และสำนักงานความปลอดภัยอาหารและสินค้าบริโภค กระทรวงเกษตร ธรรมชาติ และคุณภาพอาหารแห่งราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ว่าด้วยการรับรองอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีนางสาวอิงอร ปัญญากิจ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร และ Mr. Willem Schoustra, Agricultural Counsellor The Netherlands Embassy เป็นผู้ลงนาม พร้อมนี้นายสุรเดช ปัจฉิมกุล พร้อมด้วยนางวิไลวรรณ พรหมคำ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร และผู้บริหารกรมวิชาการเกษตรเข้าร่วมในพิธีลงนาม ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารศูนย์ปฏิบัติการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี กรมวิชาการเกษตร กรุงเทพฯ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าของสินค้าพืชและผลิตภัณฑ์พืช รวมถึงเป็นการส่งเสริมการค้าแบบดิจิทัลระหว่างไทยและเนเธอร์แลนด์
แต่งตั้งตัวแทนกระจายเมล็ดพันธุ์พืช ของ เอนซา ซาเดน ตรงสู่เกษตรกรชาวไทย พร้อมจัดทำแปลงวิจัยพันธุ์พืชถึง 2 แห่ง ณ เชียงใหม่ และราชบุรี วงการเกษตรกรรมไทย ณ ห้องโทปาส 1 โรงแรมริชมอนด์ วันที่ 12 มีนาคม 2562 บริษัท เอนซา ซาเดน ประเทศเนเธอร์แลนด์ บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการพัฒนานวัตกรรมเมล็ดพันธุ์พืชที่ล้ำหน้า นำโดย นายยาป มาเซอร์ริว ซีอีโอ (Mr. Jaap Mazereeuw, CEO) นักธุรกิจ เจนเนอเรชั่น 3 ของ เอนซา ซาเดน พร้อมด้วย นายปันกาจ มาร์ลิค (Mr. Parkaj Malik) ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจภูมิภาค เอนซา ซาเดน เอเชีย พร้อมด้วย นายวายแบพ เปตวาล (Mr. Vaibhav Petwal) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอนซา ซาเดน (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมกันจัดงานพบปะสื่อมวลชน เพื่อแถลงแผนการอนาคต และนโยบายการขยายการลงทุนพร้อมแผนการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย รวมถึงการตั้งสำนักงานประจำประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตลอดจนแปลงวิจัยพันธุ์พืช เพื่อความคล่องตัวในการให้การบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ประเทศไทยจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเกษตรที่ล้ำหน้า อีกทั้งยังเป็นการยกระดับและพัฒนาทักษะของบุคลากรด้านการเกษตร รวม