เผาตอซัง
นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่ได้แนะนำให้เกษตรกรปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมต่อการปลูกเป็นต้นมา ขณะนี้ได้เริ่มเข้าสู่ช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิต พบว่า เกษตรกรในหลายพื้นที่จะเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน เป็นต้นไป โดยผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในช่วงกลางเดือนเมษายนและไปสิ้นสุดประมาณปลายเดือนพฤษภาคม สำหรับการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้น จะใช้กลไกตามที่กำหนดไว้ คือ เกษตรกรสามารถนำผลผลิตไปขายได้ที่สหกรณ์การเกษตร หรือจุดรับซื้อของภาคเอกชนในพื้นที่ ทั้งนี้เกษตรกรสามารถเลือกสถานที่ขายได้หากได้ราคาเป็นที่น่าพอใจ สำหรับราคาจะขึ้นอยู่กับความชื้นเป็นสำคัญ โดยราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชนิดเมล็ดในพื้นที่ (ประมาณ ปลาย มี.ค. 62) ความชื้น 30% กิโลกรัมละ 6.44 บาท และ ความชื้น 14.5% กิโลกรัมละ 8.52 บาท เนื่องจากได้กำไรมากกว่าการทำนาปรัง เช่น ใน จังหวัดกำแพงเพชร มีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฯ จำนวน 10 ราย รวมกลุ่มกันขายผลผลิต 50 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 6.80 บาท ที่ความชื้น 28%
วันที่ 6 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอำเภอคงและรถดับเพลิงของรื่นจิตอาสา อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ระดมกำลังเข้าสกัดเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้ป่าลำพัน ในพื้นที่ บ้านดอนใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลดอนใหญ่ อำเภอคง ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ อยู่ติดกับบ้านเรือนประชาชน โดยไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว กินพื้นที่ราว 20-30 ไร่ เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำสกัดไม่ให้ไฟลุกลามไปติดบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ สว่นสาเหตุในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เกิดจากชาวนาในพื้นที่ลักลอบจุดไฟเผาตอซังข้าว จึงทำให้ไฟลุกลามไปติดป่าลำพัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเกิดเหตุมีลมพัดกรรโชกแรงทำให้การดับไฟเป็นไปอย่างยากลำบาก อีกทั้งเป็นพื้นที่กว้างติดกับเส้นทางเดินรถไฟจึงทำให้รถน้ำดับเพลิงขนาดใหญ่ เดินทางเข้าไประงับเหตุด้วยความยากลำบากเช่นกันอย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยอำเภอคง ได้ขอฝากแจ้งเตือนประชาชน ในพื้นที่ ไม่ให้จุดไฟเผาตอซังข้าว หรือ จุดไฟเผาหญ้าข้างทาง เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงย่างเข้าสู่ฤดูแล้งและมีลมกรรโชกแรงอาจจะส่อง
นายวรกุล บุตรดาจักร หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่าในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนของทุกปี จะมีสภาพหมอกควันปกคลุมหนาแน่นเป็นบริเวณกว้าง อันมีสาเหตุหลักเกิดจากเผาขยะเศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นาและการเผาป่า เพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตร ทำให้คุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยของประชาชน และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทำให้ลดทัศนวิสัยการมองเห็น ทำให้เกิดอุบัติเหตุอันตรายบนท้องถนน ซึ่งผลเสียที่เกิดขึ้น จากการเผาตอซัง ฟางข้าวและเศษวัสดุเหลือใช้ในไร่นานั้น เกษตรกรหรือประชาชนทั่วไปอาจคาดคิดไม่ถึง ว่าจะทำให้เกิดฝุ่นละอองเถ้าเขม่า ควันไฟและก๊าซหลายชนิด ฟุ้งกระจายปกคลุมไปทั่วในบริเวณกว้าง ก่อให้เกิดมลพิษเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนแล้ว ยังส่งผลกระทบ อย่างมากต่อการทำลายโครงสร้างและความอุดมสมบูรณ์ของดิน ทำให้สูญเสียน้ำในดิน เนื้อดินจับตัวกัน แน่นแข็ง สูญเสียอินทรียวัตถุ และธาตุอาหารในดิน เป็นการทำลายจุลินทรีย์ในดินตลอดจนไส้เดือนดิน หรือแมลงที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ ทำให้ปริมาณและกิจกรรมของจุลินทรีย์ดินลดลง นอกจากนั้นตัวอ่อน ของแมลงศัตรูพืช เ