เพลี้ยมันสำปะหลัง
นายชนะ ไชยฮ้อย เกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า เนื่องจากเข้าสู่ฤดูแล้งสภาพดังกล่าวเหมาะกับการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง โดยจะทำลายมันสำปะหลังด้วยการดูดน้ำเลี้ยง แล้วปล่อยน้ำหวานทำให้เกิดราดำ ทำให้มันสำปะหลังลดการสังเคราะห์แสง เจริญเติบโตไม่เต็มที่ และในน้ำลายของเพลี้ยแป้งชนิดนี้ มีสารพิษที่ทำให้ลำต้นมันสำปะหลังมีข้อถี่ ยอดหงิกเป็นพุ่มและแห้งตาย ไม่สร้างหัว หรือสร้างหัวน้อยลง หรืออาจทำให้ต้นมันสำปะหลังตายได้ การแพร่กระจายเพลี้ยแป้งสีชมพูชนิดนี้ ส่วนใหญ่ติดไปกับท่อนพันธุ์ ซึ่งจะทำให้การแพร่ระบาดรวดเร็วขึ้น โดยได้ให้แนวทางในการควบคุมเพลี้ยแป้ง ดังนี้ แนวทางของการป้องกันเพลี้ยแป้ง 1.พื้นที่ที่มีการระบาดของเพลี้ยแป้ง ห้ามเคลื่อนย้ายท่อนพันธุ์เพื่อไปปลูกแหล่งปลูกอื่น 2.เกษตรกรที่จะปลูกมันสำปะหลังให้เลือกท่อนพันธุ์จากแหล่งที่ไม่มีการระบาดของเพลี้ยแป้ง 3.ก่อนปลูกแช่ท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีไทอะมีโทแซม 25%WG อัตรา 4 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร นาน 10 นาที 4. ควรปลูกต้นฤดูฝน เพื่อให้มันสำปะหลัง 5.ก่อนปลูกควรไถและพรวนดินหลายครั้ง และตากดินอย่างน้อย 14 วัน แนวทางของการเฝ้าระวัง หมั่นสำรว