เพลี้ยไฟมังคุด
นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะประธานศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยแล้งด้านการเกษตร ปี 2563 กรมส่งเสริมการเกษตร เผยว่า ในช่วงเดือนเมษายนซึ่งมีสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง ทำให้เหมาะสมต่อการระบาดของเพลี้ยไฟมังคุด จากการติดตามสถานการณ์การระบาดของเพลี้ยไฟมังคุดของกรมส่งเสริมการเกษตร พบว่า มังคุดโดยเฉพาะในเขตจังหวัดจันทบุรี ระยอง ยะลา และระนอง อยู่ในระยะแตกใบอ่อน ออกดอก จนถึงระยะติดผลอ่อน มีการเข้าทำลายของเพลี้ยไฟ ทำให้คุณภาพผลมังคุดลดลงไม่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค และผลผลิตบางส่วนเสียหาย เพลี้ยไฟมังคุดจะมีลักษณะลำตัวสีเหลืองหรือน้ำตาลอ่อน เคลื่อนไหวรวดเร็ว ระยะตัวอ่อน 6-7 วัน จากนั้นเป็นระยะก่อนเข้าดักแด้ 1-2 วัน และตัวเต็มวัยอยู่ประมาณ 22 วัน ตัวเมียแต่ละตัววางไข่เฉลี่ย 60 ฟอง ตัวเต็มวัยเพศเมียมีความยาว 1.05 มิลลิเมตร กว้าง 0.19 มิลลิเมตร หนวดยาว 0.23 มิลลิเมตร ปีกยาว 0.54 มิลลิเมตร บริเวณปลายของปล้องท้องมีอวัยวะวางไข่เห็นได้ชัดเจน ขนาดยาว 0.70 มิลลิเมตร กว้าง 0.04 มิลลิเมตร ลำตัวสีเหลือง ตาสีแดง มีตาเดียว ตัวเต็มวัยเพศผู้มีความยาว 0.71 มิลิเมตร กว้าง 0.14 มิ
กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกรชาวสวนมังคุดในภาคตะวันออก ที่มังคุดอยู่ในระยะแตกใบอ่อน จนถึงระยะมังคุดออกดอกและติดผลอ่อน เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้ หนาวเย็น อากาศแห้ง และฝนเริ่มทิ้งช่วง เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเพิ่มประชากรและการระบาดของเพลี้ยไฟ เพลี้ยไฟเป็นแมลงปากเขี่ยดูด ทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยจะดูดกินน้ำเลี้ยงที่ยอดอ่อน ดอกอ่อนและผลอ่อน ทำให้ยอด ผิวของผล เป็นขี้กลาก หรือผิวลาย มียางไหลและอาจทำให้ผลร่วง ส่งผลให้ผลผลิตไม่ได้คุณภาพ ดังนั้นเกษตรกรจึงควรหมั่นสำรวจสวนมังคุดอย่างสม่ำเสมอ โดยสุ่มเคาะช่อดอกบนกระดาษขาว หากพบการเริ่มเข้าทำลายของเพลี้ยไฟ ให้แจ้งการระบาดและขอคำแนะนำในการป้องกันกำจัดได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟมังคุดด้วยวิธีการ ดังนี้ สำรวจสวนมังคุดอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 2. อนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ ได้แก่ เพลี้ยไฟตัวห้ำ และด้วงเต้าตัวห้ำ 3. ถ้าพบการระบาดไม่รุนแรงพ่นด้วยน้ำเปล่าเพื่อให้เกิดความชื้นในทรงพุ่ม หรือพ่นน้ำใน ระยะออกดอกจนกระทั่งถึงติดผลอ่อนทุก 2 – 3 วัน 4. ใช้กับดักกาวเหนียวขนาดใหญ่ติดตั้งในสวนม