แค็กตัส
“กระบองเพชร” เป็นพันธุ์ไม้ที่ไม่ตกยุคจะผ่านมากี่สมัย การเข้ามาของผู้เล่นหน้าใหม่มีอย่างต่อเนื่อง จากแรกๆ ทำเพราะใจรัก ต่อมาสิ่งเหล่านี้กลับกลายเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้กับผู้คนมากมาย เพราะทุกอย่างเมื่อมีความตั้งใจทำอย่างจริงจัง ล้วนสามารถสร้างเป็นธุรกิจที่เลี้ยงตัวเองได้เป็นอย่างดี คุณสิรวิชญ์ มากแก้ว หรือ คุณเจ เป็นอีกหนึ่งการขับเคลื่อนที่สำคัญของวงการกระบองเพชร โดยคุณเจจะเน้นผลิตลูกไม้ใหม่ที่ได้คุณภาพออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้สวนแห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมกระบองเพชรที่มีความหลากหลายและสวยงามเป็นที่ต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ จากเลี้ยงเล่นๆ ซื้อมาขายไป กลับกลายเป็นธุรกิจกระบองเพชร คุณเจ เล่าให้ฟังว่า ช่วงแรกทำงานประจำอยู่ที่กรุงเทพมหานครและชื่นชอบในเรื่องของการปลูกกระบองเพชรเป็นอย่างมาก คุณเจซื้อมาเพื่อสะสมเพียงอย่างเดียวในระหว่างที่ทำงานประจำ และเมื่อไม้มีจำนวนมากขึ้นเป็นยุคที่โควิด-19 เข้ามาระบาดใหม่ๆ ทำให้คุณเจนำกระบองเพชรที่มีอยู่มาทดลองทำตลาด ปรากฏว่าไม้ทั้งหมดสามารถขายได้ทำให้เห็นช่องทางการค้าขาย เวลาต่อมาได้รับต้นกระบองเพชรแบบซื้อมาขายไป พร้อมกับเรียนรู้การปลูกและพ
แค็กตัส ชนิดกระเป๋านั้น มีรูปร่างน่ารัก แปลกตา เพราะมีหลากหลายสายพันธุ์ อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาหรือการเลี้ยงดูก็ใช้วิธีการเหมือนกัน การจะปลูกแค็กตัสให้สวยงาม เริ่มจากการเลือกกระถางปลูกให้มีขนาดเหมาะสมกับต้นแค็กตัส อันดับต่อมา การปรุงดินสำหรับปลูก จัดเตรียมไว้เป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 ใช้ส่วนผสมจากดินใบก้ามปูที่บดและร่อนแล้ว 3 ส่วน ถ่านไม้ทุบพองาม 1 ส่วน ขุยมะพร้าว 1 ส่วน และปุ๋ยอินทรีย์ 1 ส่วน ดินส่วนที่ 2 ประกอบด้วย กรวดน้ำจืด 1 ส่วน ทรายหยาบน้ำจืดเช่นเดียวกันอีก 1 ส่วน หินภูเขาไฟชนิดเม็ดกลม 2 ส่วน กระดูกป่น 1 ส่วน และหินฟอสเฟต 1 ส่วน นำส่วนผสม ส่วนที่ 1 มาผสมกับ ส่วนที่ 2 ในอัตรา 1 : 4 โดยปริมาตร พรมน้ำเล็กน้อยแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ลงในกระถาง ที่รองก้นด้วยถ่าน หรือเศษอิฐหัก รดน้ำด้วยฝักบัว กระทั่งเห็นว่าน้ำไหลลงก้นกระถางจึงหยุดรด และปลูกต้นแค็กตัสที่ซื้อมาใหม่ หรือเปลี่ยนกระถางก็ตาม ปล่อยไว้จนดินแห้งสนิท ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ หรือทดสอบด้วยใช้ไม้เสียบลูกชิ้นแทงลงในดินปลูก ถ้าถอนไม้ขึ้นมาหากยังมีวัสดุปลูกติดขึ้นมาก็ยังไม่ต้องให้น้ำ รอจนแห้งสนิทดีจึงรดอีกครั้ง ไม่ควรรดน้ำทุกวันจะทำ
ใครที่เป็นสายแค็กตัสเลิฟเวอร์ ต้องรู้จัก สวน “แคคตัสลุงเหน่” พระราม 2 ของ คุณจิ๊บ-สุนทรียา ฮวบดี และสวน “แคคตัสป้าหนุ่ย คลอง 11” ปทุมธานี ของ คุณนิ่ม-ปฏิมา ศรีนวล 2 สาวอดีตพนักงานออฟฟิศที่หลงใหลในแค็กตัสตั้งแต่สมัยเรียน เริ่มสะสม เรียนรู้นิสัยของแต่ละสายพันธุ์ ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง สู่งานอดิเรกสร้างรายได้หลักหมื่น จนกลายเป็นอาชีพหลักสร้างรายได้หลักแสน โดยจุดเด่นของสวน “แคคตัสลุงเหน่” และสวน “แคคตัสป้าหนุ่ย คลอง 11” นอกจากจะขายแค็กตัสหลากหลายสายพันธุ์ในราคาย่อมเยาแล้วยังส่งต่อความจริงใจกับลูกค้า เพราะหากต้นไหนรากยังไม่แข็งแรง จะไม่นำออกมาขายให้ลูกค้าเด็ดขาด และนับเป็นโอกาสดีที่คุณจิ๊บและคุณนิ่มยินดีส่งต่อความรู้และประสบการณ์กว่า 20 ปี คุณจิ๊บ เล่าถึงที่มาที่ไปของการเข้าสู่วงการแค็กตัสว่า ด้วยความที่คุณปู่คุณย่าทำสวนส้มมาก่อน แต่พอมารุ่นคุณพ่อคุณแม่ก็เปลี่ยนอาชีพ แต่ด้วยความรักต้นไม้อยู่ในสายเลือด จึงทำให้ชอบปลูกต้นไม้โดยเฉพาะแค็กตัส ซื้อมาประดับบ้านตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมศึกษา ด้วยราคาที่หาซื้อได้ง่าย 5 บาท 10 บาท ก็เลยเลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ แต่พอเริ่มทำงานออฟฟิศก็นำแค็กตัสมาเลี้ยงที่โต๊
แค็กตัส หรือ กระบองเพชร นับเป็นพรรณไม้ที่ใครหลายคนให้ความสนใจด้วยขนาดไซซ์ที่ไม่ใหญ่มากนัก เหมาะกับการเพาะเลี้ยงในพื้นที่จำกัด ผนวกกับสายพันธุ์ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย พร้อมด้วยโทนสีสวยงามตอบโจทย์ความชื่นชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคลจนได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงไม้ประดับขนาดเล็กมาตราบถึงปัจจุบัน “41Cactus By Tiwa” ถือเป็นฟาร์มปลูกแค็กตัสคุณภาพอีกแห่งหนึ่ง โดยฟาร์มแห่งนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดชุมพร มีจุดเริ่มต้นมาจากความชื่นชอบส่วนตัว หันมาศึกษา เพาะเลี้ยง และสะสมสายพันธุ์แค็กตัส จนสามารถพัฒนามาสู่การเป็นเจ้าของฟาร์ม อีกทั้งยังได้รับเสียงการันตีไว้วางใจจากกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงแค็กตัสด้วยกันถึงคุณภาพและความสมบูรณ์ของต้นพันธุ์ รวมถึงการติดตามให้คำแนะนำเทคนิคในการเพาะเลี้ยงแก่ลูกค้าอยู่เสมอ คุณทิวา เชื่อมกลาง (คุณแอม) เกษตรกรเพาะเลี้ยงแค็กตัส อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 41/26 หมู่ที่ 7 ตำบลนาทุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เล่าว่า “ก่อนที่จะมายึดอาชีพเกษตรกรเพาะเลี้ยงแค็กตัสได้ประกอบอาชีพค้าขาย จำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดจำพวกเสื้อผ้า กิ๊ฟต์ช็อปทั่วไปไม่ได้มีความสนใจเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้มากนัก แต่ก็ได้มีโอกา
ถึงแม้รูปร่างจะมีหนามแหลมคมอยู่รอบตัว แต่ไม้ดอกไม้ประดับที่เรารู้จักและเรียกขานกันว่า แค็กตัส หรือกระบองเพชร ได้กลายมาเป็นไม้ดอกไม้ประดับที่มีการเพาะเลี้ยงปลูกจำหน่ายทำเป็นธุรกิจ ยึดทำเป็นอาชีพหลักและเสริม สร้างรายได้ปีละหลายล้านบาท เอกลักษณ์และความโดดเด่นของทรงต้น บวกกับความแปลกของหนามที่มีลวดลายและลักษณะของสีดอก ขนาดรูปร่าง ทรงต้น ที่แตกต่างกัน ทำให้แค็กตัสกลายเป็นไม้ดอกไม้ประดับที่ได้รับความนิยมอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งบรรดาเหล่านักสะสมต้นไม้ได้รวบรวมเก็บสะสมและปลูกไว้ดูเล่น ตลอดจนนำมาตกแต่งเพิ่มสีสันให้กับสวนในบ้านหรือหน่วยงานต่างๆ การปลูกเลี้ยงแค็กตัสเป็นสิ่งที่หลายคนต้องกังวล และจะตั้งคำถามว่าจะดูแลอย่างไรไม่ให้รากเน่า ปลูกอย่างไรให้เห็นดอกเร็ว รวมถึงแนวทางหรือคำแนะนำที่จะทำเป็นธุรกิจต้องเริ่มอย่างไร วันนี้เราจะพาผู้อ่านไปไขข้อสงสัยพร้อมกัน กับ อาจารย์วีรวุฒิ มุตโตเพลง อดีตข้าราชการครูเกษตร แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตบางพระ ยึดหลักเศรษฐศาสตร์ เพื่อการผลิตพืช อาจารย์วีรวุฒิ อดีตเป็นครูสอนเกษตร คลุกคลีกับอาชีพข้าราชการครูเกษตรมากว่า 45 ปี ตลอดระยะเวลาที่รับบทบาทครูซึ่ง
แค็กตัส ที่นิยมปลูกกันอยู่ทุกวันนี้มีหลากหลายสายพันธุ์ บ้างมีรูปทรงกลม มีกลีบซ้อน หรือกลมเกลี้ยง บ้างก็มีสีด่าง หรือสีสดใส บ้างก็มีขนอ่อนคล้ายขนนก หรือบางสายพันธุ์มีใบเรียงซ้อนสลับกันคล้ายกระทง มีให้เลือกซื้อหามาเลี้ยงดูกันได้ตามประสาของคนรักต้นไม้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเลี้ยงแค็กตัสได้งาม ดิน หรือวัสดุปลูก เป็นพื้นฐานสำคัญ ส่วนผสมง่ายๆ ที่มือสมัครเล่นใช้กันอยู่ ดินร่วนสะอาดบดและร่อน ถ่านไม้ใหม่ๆ ทับ บดให้เล็กพอดี ขุยมะพร้าว และปุ๋ยอินทรีย์ อัตรา 3 : 1 : 1 ส่วนผสมนี้มีประโยชน์ช่วยให้วัสดุปลูกโปร่ง ระบายน้ำได้ดี และมีธาตุอาหารบ้างพอประมาณ สำหรับมืออาชีพแล้วอาจเพิ่มเติมด้วยกระดูกป่น โดโลไมต์ และหินภูเขาไฟ แต่สำหรับมือสมัครเล่น ใช้สูตรที่ผมแนะนำให้ก็พอแล้วครับ แต่อย่าลืมปิดทับหน้าวัสดุปลูกด้วยหินเกล็ด เพิ่มความสวยงามขึ้นอีก กระถางสำหรับเลี้ยง เลือกตามความเหมาะสมของขนาดต้นแค็กตัส จะเหลี่ยม จะกลม ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจ ปัจจุบัน นิยมกระถางพลาสติกมากกว่า หากต้องการจัดสวนหย่อมสวยๆ ก็มีกระบะไม้ให้เลือก การให้น้ำ วิธีรดน้ำควรใช้ฝักบัวรด ให้น้ำจนเห็นว่าน้ำไหลหยดลงมาจากก้นกระถางให้หยุดทันที แล้วเว้
คุณณัฐนนท์ รัตนภรณ์ หรือ คุณกอล์ฟ อายุ 31 ปี เจ้าของร้าน GK Cactus ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน ว่า ก่อนหน้านี้เป็นพ่อครัวอยู่ที่กรุงเทพฯ และขายนกหงส์หยกเป็นอาชีพเสริม แต่ว่าค่าต้นทุนการเลี้ยงนกสูงมาก ค่าอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ และในช่วงหน้าร้อนทำให้ค่าน้ำเพิ่มขึ้นอย่างมาก การขนส่งลำบาก จึงยกเลิกขายนก และลาออกจากการเป็นพ่อครัว เพราะมีความฝันที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ เพื่อกลับมาอยู่กับครอบครัว ทำให้ได้มีโอกาสเปิดร้าน GK Cactus ศึกษาหาความรู้เอง จากโลกออนไลน์ เห็นช่องทางตลาดไปอีกไกล เริ่มจากงานอดิเรกในสมัยเด็กที่ชื่นชอบ แค็กตัส และไม้ประดับอยู่แล้ว ปลูกเก็บสะสมมาอยู่ตลอด หาข้อมูลศึกษาจาก ยูทูบ เว็บไซต์ และฟาร์มต่างๆ ได้รับความรู้จากแหล่งต่างๆ ที่แบ่งปันข้อมูลมาให้ในแบบฉบับของแต่ละฟาร์มที่ไม่เหมือนกัน จึงนำเอามาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการปลูก และเพาะแค็กตัสที่บ้าน เมื่อศึกษามาสักระยะ ทำให้มองเห็นว่าตลาดของแค็กตัสนั้นสามารถเข้าถึงและยังมีโอกาสเติบโตไปได้อีกไกล มีวิธีปลูก ในแบบของตัวเอง วิธีปลูกของคุณกอล์ฟ จะใช้ดินที่มีส่วนผสมจากแหล่งต่างๆ เพื่อให้มีแร่ธาตุสำหรับการเพาะที่มากพอ เพื่อให้แค
รู้สักนิด ก่อนเริ่มปลูกแค็กตัส มีถิ่นกำเนิดมาจาก อเมริกาใต้ และเอเชีย ลักษณะของกระบองเพชร หรือ แค็กตัส เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ แค็กตัสจะเก็บสะสมน้ำไว้ในลำต้นเป็นจำนวนมาก ในช่วงเวลาที่ฝนตกลงมา ความฉลาดของต้นไม้ประเภทนี้ คือมันจะเปลี่ยน “ใบ” ให้กลายเป็น “หนาม” เพื่อลดการคายน้ำได้อีกด้วย แค็กตัส จึงสามารถอยู่ได้ในทะเลทราย หรือที่ที่มีอากาศแล้งจัดได้ ข้อควรรู้เบื้องต้นสำหรับการดูแลแค็กตัส 1. การให้น้ำคือสิ่งที่ควรระวัง ไม่ควรฉีดน้ำไปที่ต้นโดยตรง ถ้าปลูกในกระถาง ให้วางภาชนะปลูกไว้ในอ่างน้ำตื้นๆ จนกระทั่งดินที่ปลูกชุ่มน้ำ จากนั้นจึงยกออกจากอ่างและทิ้งไว้ให้น้ำไหลออกจนหมด อันตรายที่สุดสำหรับแค็กตัสคือ ได้น้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้รากเน่าตายได้ ควรให้น้ำ 3 วัน/ครั้ง 2. เทคนิคการเปลี่ยนกระถาง งดให้น้ำแค็กตัสหลายวันก่อนเปลี่ยนกระถางใหม่ ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ปูรองพื้น จับที่ตัวกระถางและใช้ดินสอหรือตะเกียบค่อยๆ ดันผ่านรูระบายน้ำตรงก้นกระถางขึ้นมา ต้นแค็กตัสควรหลุดจากกระถางเก่าโดยที่รากยังติดอยู่ กำจัดเพลี้ยแป้ง เมื่อเห็นหย่อมขาวเป็นขุยขึ้นอยู่บนแค็กตัส นั่นคือ
ทุกวันนี้ผู้คนจำนวนไม่น้อยใช่จะประกอบอาชีพเพียงอาชีพเดียว บางคนนอกจากทำอาชีพหลักแล้ว ยังมีอาชีพเสริมอีกหลายอาชีพ ซึ่งหากสอบถามดูจะได้คำตอบตรงกันว่า อาชีพเสริมเหล่านั้นเป็นงานที่พวกเขารักและมีความสุขที่จะทำ และหลายคนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากอาชีพเสริมเหล่านั้น อย่าง คุณกีรติ กันยา อายุ 54 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่สวนสัตว์นครราชสีมา ซึ่งพักกับครอบครัวอยู่ที่บ้านส่วนตัวเลขที่ 65 หมู่ที่ 7 บ้านหนองเสาเดียว ตำบลท่าอ่าง อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ได้ปลูกกระบองเพชรไว้ดูเล่นที่บ้าน พอเลี้ยงสักพักก็หลงรัก เนื่องจากกระบองเพชรมีความสวยงาม โดยเฉพาะช่วงออกดอกจะสร้างสีสันให้กับบ้านได้อย่างดี แจงวิธีเพาะเมล็ด-แยกหน่อ จากนั้นค่อยๆ เรียนรู้การเพาะขยายพันธุ์ ซึ่งมีทั้งการแยกหน่อและเพาะเมล็ด กระทั่งได้รู้และได้ประสบการณ์จริงว่าในการขยายพันธุ์บางครั้งจะทำให้ได้ชนิดใหม่ๆ ที่มีลักษณะเฉพาะ จึงทำให้เกิดความท้าทายเพิ่มขึ้น ออกไปหาสายพันธุ์ใหม่มาเพิ่มเติมและเพาะเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น จากงานอดิเรกเมื่อ 20 กว่าปีก่อน บัดนี้ได้สร้างรายได้หลักหมื่นต่อเดือนให้กับเขาและครอบครัว อีกทั้งยังทำให้คนในครอบครัวทั้งภรรยาแล
“จะไปปลูกอะไรได้ แห้งแล้งอย่างนี้ ปลูกได้ก็แต่ตะบองเพชร” คุณเคยได้ยินเสียงพูดประชดประชันอย่างนี้ใช่ไหม “งั้นก็ปลูกเลย ตะบองเพชร ไม่ต้องใช้น้ำเยอะ อยู่กับความแห้งแล้งได้” ความฝันเป็นจริงได้เลยขอบอก…ตะบองเพชร หรือ แค็กตัส นี่แหละ มีผู้ทำได้มาแล้วค่ะ ขายแค็กตัสแบบออนไลน์ คุณ “อุษา เกษศรี” หรือ น้องเอ๋ เธอปลูกแค็กตัสขาย ขายทางไปรษณีย์ จับใส่กล่องแล้วส่งไปขาย จากความชอบพัฒนาเป็นอาชีพ จากปลูกเล่นๆ ปลูกให้เพื่อน จนเริ่มสร้างโรงเรือนสำหรับปลูกแค็กตัสสำหรับขาย เอ๋ เกิดและโตที่เชียงใหม่ เรียนจบพยาบาล เธอประกอบอาชีพพยาบาลแต่สนใจงานสิ่งแวดล้อม หลังจากประกอบอาชีพพยาบาลมาพักหนึ่งก็ลาออก เธอก็มาช่วยงานกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมในเมืองเชียงใหม่ “กลับมาอยู่บ้าน ดูแลพ่อแม่ ก็ต้องหาอะไรทำที่เป็นของตัวเอง พอทำต้นไม้ก็ชอบ คือชอบมาตั้งแต่เด็กแล้ว ปลูกต้นไม้ ดูแลให้มันออกดอกรู้สึกสบายใจ” เธอเล่าด้วยตาเปล่งประกายที่ดูเป็นสุขจริง ตอนนี้เธอก็ยังทำงานเป็นอาสาสมัครด้านงานสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับปลูกแค็กตัสขาย “เอ๋ทำกับเพื่อนสองคน เรามีความรักในไม้อวบน้ำเหมือนๆ กัน แค็กตัสเป็นส่วนหนึ่งของไม้อวบน้ำค่ะ ความตั้งใจเร