แมงมุม
แมงมุมทารันทูล่า หลายคนอาจมองว่า แมงมุมเป็นสัตว์ที่น่ากลัว แต่รู้ไหมว่า ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ชื่นชอบและหลงใหลในสัตว์ชนิดนี้ ทำให้แมงมุมทารันทูล่ากลายเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรัก หากลองเปิดใจและทำความรู้จักกับเจ้าแมงมุมชนิดนี้ แมงมุมทารันทูล่ามีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 300 ปีมาแล้ว ซึ่งถ้าให้นับกันจริงๆ แมงมุมทารันทูล่ามีมากกว่า 900 สายพันธุ์ ทั้งสายพันธุ์ที่ถูกค้นพบมีการวิจัย และสายพันธุ์ที่ยังไม่ระบุ มีกระจายตัวอยู่ตามทวีปต่างๆ บนโลก ไม่ว่าจะเป็นทวีปอเมริกา ทวีปแอฟริกา ทวีปออสเตรเลีย และทวีปเอเชีย ซึ่งในประเทศไทยพบแมงมุมทารันทูล่าถึง 4 ชนิด และส่วนใหญ่ ถูกพบที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ภาษาอีสาน จะเรียกแมงมุมชนิดนี้ว่า “บึ้ง” แมงมุมทารันทูล่า 4 สายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย ได้แก่ 1. บึ้งดำ จะพบเห็นได้บ่อยที่สุด อาศัยอยู่ในดินที่มีลักษณะเป็นการขุดโพรง และในบางท้องถิ่นก็จะมีการนำมาประกอบอาหาร เพราะว่ากันว่า เนื้อมีลักษณะที่คล้ายๆ กับปู 2. บึ้งน้ำเงินมีสีสันที่สวยงามที่สุด นิยมนำไปเป็นสัตว์เลี้ยง เป็นอีกหนึ่งชนิดที่อาศัยอยู่ในดิน แต่ว่ามีนิสัยที่ค่อนข้างดุร้าย 3. บึ้งลายหรือจะเรียกอีก
06ตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยง ไม่ได้มีเฉพาะตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดสนามหลวง 2 หรือแม้กระทั่งตลาดนัดขายต้นไม้และสัตว์เลี้ยงที่ตั้งอยู่ตามชานเมืองมากมาย ก็ไม่ได้เป็นจุดศูนย์กลางของสัตว์เลี้ยงทุกชนิด เพราะบางชนิดเป็นสัตว์เลี้ยงเฉพาะที่มีความพิเศษ หรือที่เรียกว่า เอ็กโซติก เพ็ด (Exotic Pets) ซึ่งผู้เลี้ยงบางคนเข้าใจผิดว่า เป็นสัตว์ต้องห้าม หรือเลี้ยงแล้วมีความผิด แท้จริงแล้ว เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงที่มีความเฉพาะในตัวของสัตว์เลี้ยงเองเท่านั้น ถึงกับเคยมีผู้กล่าวไว้ว่า เอ็กโซติก เพ็ด เปรียบเสมือนสัตว์แปลกที่ไม่ใช่สัตว์ป่า ความสวยงามของสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิด ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้เลี้ยง ซึ่งผู้เลี้ยงเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า ความสวยงามของสัตว์เลี้ยงของเขาอยู่ตรงไหน เช่น คุณชฎายุ ใจโลกา หรือ คุณเจมส์ เป็นอีกหนึ่งคนที่เลี้ยงแมงมุมทารันทูลา หรือในประเทศไทย เรียกว่า “บึ้ง” ไว้หลายสิบตัว เพราะกลัวแมงมุม อาจมีข้อสงสัย ทำไมกลัวแล้วต้องเลี้ยง คุณชฎายุ บอกว่า ต้องเลี้ยง เพื่อให้หายกลัว เป็นเหตุผลที่น่ารับฟัง จากการนำมาเลี้ยงเพื่อให้หายกลัว ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทำให้ปัจจุบันคุณชฎายุ ไม่กลัวแมงมุม และเพาะแมงมุ
เราทุกคนต้องเคยไปพาดพันเข้ากับใยแมงมุมมาแล้ว ไม่ว่าจะเดินเข้าไปหามัน หรือมันหล่นใส่หัวโดยบังเอิญ คงจำได้ว่ามันพันแขนขาเราหนืดเหนียวขนาดไหน และคงจำได้ว่า วิธีเดียวที่จะเอามันออกไปคือ ค่อยๆ ลูบให้มันออกจากตัวทีละนิดละน้อย ค่อยๆ ลูบ ใจเย็นๆ เพราะยิ่งใจร้อนมันจะยิ่งพันหนักเข้าไปอีก เวลามันติดผมเรา จำได้ไหมว่า เอามันออกยากลำบากขนาดไหน ต้องค่อยๆ ไล่เลียงลูบออกทีละเส้น บางทีต้องไปสระผม กระนั้นมันก็ติดอยู่กับผมเราไปอีกหลายวัน เราไม่สามารถฉีกทึ้งมันได้ แม้ว่าจะพยายามขนาดไหน และแม้ว่าเส้นใยมันจะดูบอบบางขนาดไหน ลองกันมาแล้วหรือเปล่า ถ้าไม่ลองกลับไปลองได้ นักวิทยาศาสตร์บอกนานแล้วว่า ใยแมงมุม ที่บอบบางแทบจะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นนั้น มีความเหนียวกว่าเหล็ก 10 เท่า และทนทานกว่า Kevlar (เส้นใยประเภทหนึ่งเขาใช้ทำเกราะกันกระสุน ประกอบภายในรถยนต์ พวกคอหนังเขาว่าทำเสื้อเกราะมนุษย์ค้างคาวด้วย อันนี้เราไม่รู้ด้วยนะ) 10 เท่า เหมือนกัน หรือเรียกว่าทนทานที่สุดในโลก แต่ยืดหยุ่นกว่ามาก และยืดหยุ่นที่สุดในโลกเช่นกัน อันนี้คนผ่านประสบการณ์การถูกใยแมงมุมพันแข้งขาหน้าตามาแล้วคงไม่เถียง เขามีข้อยุติกันแล้วว่า ใยแมงมุม
เทรซีย์ แมริส ชาวนิวซีแลนด์ผู้ชื่นชอบธรรมชาติพบปรากฏการณ์ประหลาดโดยฝีมือธรรมชาติเข้าอย่างจัง เมื่อพบว่า เนินดินใกล้กับสนามฟุตบอลที่อยู่ในบริเวณ เขตสงวนกอร์ดอน สแปรตต์ ซึ่งทางการเพิ่งยกระดับขึ้นมาเป็นเนิน สำหรับเป็นที่อพยพชั่วคราวในกรณีที่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อไม่นานมานี้เขตชานเมืองปาปามัว ใกล้กับอ่าว เบย์ ออฟ เพลนตี้ ฝั่งทางตะวันออกของนิวซีแลนด์ ที่ปกติแล้วจะปกคลุมเต็มไปด้วยดอกไม้ป่าเต็มเนิน กลับถูกปกคลุมด้วยเส้นใยสีขาวแวววาว สะท้อนแสงเห็นได้ชัดแต่ไกลเต็มไปทั่วทั้งเนิน เมื่อโดนกระแสลมก็จะพลิ้วเป็นระลอก เหมือนคลื่นผ้าไหมถูกโบกสะบัดเลยทีเดียว ใยสีขาวดังกล่าวคะเนความยาวได้ราว 30 เมตร เป็นแถบยาวความกว้างระหว่าง 2-3 เมตร ทีแรก เทรซีย์ คาดว่าผืนใยที่ว่านั้นคงไม่มีเจ้าของ แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆก็พบแมงมุมสีดำขนาดเล็กยั้วเยี้ยไปหมด โทมาส ชีเบล นักวิชาการด้านวัสดุชีวภาพ (ไบโอแมททีเรียล) จากมหาวิทยาลัยเบย์รอยธ์ ในเยอรมนี ที่ศึกษาเส้นใยแมงมุมหลากหลายชนิด ระบุว่า ผืนเส้นใยดังกล่าวน่าจะเป็นผลงานของแมงมุม ชีท เว็บ ที่สามารถทอใยต่อเนื่องกันเป็นผืนได้ แมงมุม ชีทเว็บ ที่มีขนาดเล็กสามารถทอเส้นใยเป็นผืน
ตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยง ไม่ได้มีเฉพาะตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดสนามหลวง 2 หรือแม้กระทั่งตลาดนัดขายต้นไม้และสัตว์เลี้ยงที่ตั้งอยู่ตามชานเมืองมากมาย ก็ไม่ได้เป็นจุดศูนย์กลางของสัตว์เลี้ยงทุกชนิด เพราะบางชนิดเป็นสัตว์เลี้ยงเฉพาะที่มีความพิเศษ หรือที่เรียกว่า เอ็กโซติก เพ็ด (Exotic Pets) ซึ่งผู้เลี้ยงบางคนเข้าใจผิดว่า เป็นสัตว์ต้องห้าม หรือเลี้ยงแล้วมีความผิด แท้จริงแล้ว เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงที่มีความเฉพาะในตัวของสัตว์เลี้ยงเองเท่านั้น ถึงกับเคยมีผู้กล่าวไว้ ว่า เอ็กโซติก เพ็ด เปรียบเสมือนสัตว์แปลกที่ไม่ใช่สัตว์ป่า ความสวยงามของสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิด ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้เลี้ยง ซึ่งผู้เลี้ยงเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า ความสวยงามของสัตว์เลี้ยงของเขาอยู่ตรงไหน เช่น คุณชฎายุ ใจโลกา หรือ คุณเจมส์ เป็นอีกหนึ่งคนที่เลี้ยงแมงมุมทารันทูลา หรือในประเทศไทย เรียกว่า “บึ้ง” ไว้หลายสิบตัว เพราะกลัวแมงมุม อาจมีข้อสงสัย ทำไมกลัวแล้วต้องเลี้ยง คุณชฎายุ บอกว่า ต้องเลี้ยง เพื่อให้หายกลัว เป็นเหตุผลที่น่ารับฟัง จากการนำมาเลี้ยงเพื่อให้หายกลัว ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทำให้ปัจจุบันคุณชฎายุ ไม่กลัวแมงมุม และเพาะแมงมุม
แม้จะเป็นสัตว์ตัวจ้อยในโลกแมลง แต่ “แมงมุม” กลับขึ้นชื่อเป็นตัวอันตราย แถมยังเป็นต้นกำเนิดของอาการที่เรียกว่า “อะราคโนโฟเบีย” หรืออาการกลัวแมงมุมอีกด้วย อันที่จริง แมงมุมเป็นสัตว์น่าสนใจ ดูลึกลับน่าค้นหา และน่ามองไม่แพ้เพื่อนสัตว์ชนิดอื่นๆ ใช่แล้ว…อ่านไม่ผิดหรอก เพราะแมงมุมหลายสายพันธุ์มีรูปลักษณ์โดดเด่น และสวยงามมากๆ เริ่มต้นกันที่ “แอนทิลลีส พิงก์โท” เพื่อน 8 ขาตัวหนาที่มาพร้อมสีสันแปลกตา เมื่อยังเล็กลำตัวมีสีดำตัดกับขาสีฟ้าสดใส พอโตขึ้นลำตัวค่อยๆ กลายเป็นสีเขียวมรกต ส่วนขาเปลี่ยนเป็นสีแดงชมพู ตัวผู้จะมีสีเข้มชัดกว่า และขนาดเล็กกว่าตัวเมียค่อนข้างมาก มีถิ่นที่อยู่อาศัยบริเวณ เกาะกัวเดอลุปในทะเลแคริบเบียน และโดมินิกา ขณะที่ “แมงมุมฮันต์สแมน” หรือแมงมุมขายาว พบในออสเตรเลีย ดูผิวเผินเหมือนแมงมุมสีน้ำตาลทั่วไป แต่ฮันต์สแมนมีลวดลายสีขาวแต้มตามลำตัวและขา ทำให้ดูคล้ายเปลือกไม้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพรางตัวกับแหล่ง ที่อยู่อาศัย ตัวต่อมาชื่อ “ฮาร์เวสต์เมน” กับฉายาคุณพ่อขายาว ตามลักษณะขาที่ยาวม๊ากมาก พวกมันคล้ายแมงมุม แต่จริงๆ เป็นแมงย่องแย่ง มีส่วนหัว อก และท้องรวมเป็นส่วนเดียว ต่างจากแมงมุมท