แอปพลิเคชั่น “เช็คแล้ง”
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) โดยเฉพาะภัยแล้ง ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรของประเทศรุนแรงขึ้น สร้างความเสียหายต่อผลิตผลทางการเกษตร เศรษฐกิจระดับครัวเรือนและเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง การให้ความรู้แก่เกษตรกร สร้างความพร้อมในการรับมือภัยแล้ง จะช่วยลดความสูญเสียได้อย่างมาก กรมส่งเสริมการเกษตรจึงร่วมกับ 6 หน่วยงานภาคี ได้แก่ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) สำนักปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ดำเนินการจัดทำโครงการวิจัย ประเมินพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยพัฒนาต่อยอดเป็นแพลตฟอร์มติดตามพืชเกษตรรายแปลงจากภัยแล้ง ด้วยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ หรือ แอปพลิเคชัน “เช็คแล้ง” ที่เกษตรกรสามารถติดตาม 1. สถานการณ์ภัยแล้ง ความเสียหายของพืช และความชื้นผิวดินรายแปลง และคาดการณ์สภาพอากาศล่วงหน้า 7 วัน 2. พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งรายจังหวัด รายลุ่มน้ำ และรายพื้นที่ชลประทาน 3. พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งรายเดือน และ 4. คาดการณ์ฝน/เสี่ยงภัยแล้งล
เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2566 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (สทอภ.) หรือ GISTDA ลงพื้นที่ไร่อ้อย และไร่มันสำปะหลัง โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ คณะผู้ทรงคุณวุฒิ วช. นำโดย ดร.สมชาย ใบม่วง และนักวิจัย GISTDA พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชน นำเทคโนโลยีโดรนสำรวจพื้นที่ภัยแล้งภาคการเกษตร ที่บ้านไผ่เขียว หมู่ที่ 20 ตำบลไผ่เขียว อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี ดร.สมชาย ใบม่วง ผู้ทรงคุณวุฒิ วช. เปิดเผยว่า วช. ได้สนับสนุนการวิจัยให้ GISTDA ดำเนินการทำแพลตฟอร์ม “การประเมินพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งและความเสียหายของพืชเกษตรรายแปลงจากแบบจำลอง ด้วยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ” เพื่อช่วยประเมินความเสี่ยงภัยแล้งเพื่อช่วยประเมินความเสี่ยงภัยแล้ง โดยเลือกพื้นที่อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี เป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องใช้แพลตฟอร์ม ประเมินความเสี่ยง เนื่องจากมีจำนวนประชากรร้องขอความช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งเป็นจำนวนมาก ด้านนายขวัญชัย วงษ์วิทยา ผู้ใหญ่บ้าน