โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน
ตลอด 35 ปีที่ผ่านมา “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ที่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนและเกษตรกรในชนบทห่างไกลทั่วประเทศ กลายเป็นหนึ่งในโครงการที่ร่วมบรรเทาปัญหาขาดแคลนโปรตีน สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตแก่เยาวชนในชนบทได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการที่ดีแก่เด็กนักเรียน และยังคงเดินหน้าสู่เป้าหมายโรงเรียน 1,000 แห่ง ภายในปี 2568 เพื่อผลักดันสู่ “การสร้างคลังอาหารในโรงเรียน” เกิดห้องเรียนอาชีพจากการเรียนรู้การเลี้ยงไก่ไข่ ขยายผลสู่ชุมชนเป็นคลังเสบียงในชุมชน คุณสมคิด วรรณลุกขี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ เล่าว่า เครือซีพี ซีพีเอฟ ร่วมกับมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตาม “โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน” สานต่อเป็น “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” มาตั้งแต่ ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมให้เด
ตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษ ที่ผ่านมา “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ร่วมกันดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนและเกษตรกรในชนบทห่างไกลทั่วประเทศ กลายเป็นหนึ่งในโครงการที่ร่วมบรรเทาปัญหาขาดแคลนโปรตีน สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต ทั้งร่างกายและสมองของเยาวชนในชนบทได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยสนับสนุนความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการที่ดีแก่เด็กนักเรียน และเดินหน้าสู่เป้าหมายโรงเรือน 1,000 แห่งในโรงเรียนในพื้นที่ชนบทห่างไกลทั่วประเทศ เพื่อผลักดันสู่ห้องเรียนอาชีพจากการเรียนรู้การเลี้ยงไก่ไข่ ขยายผลสู่ชุมชนเป็นคลังเสบียงในวิกฤตโควิด-19 นายสมคิด วรรณลุกขี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ เล่าว่า เครือซีพี ซีพีเอฟ ร่วมกับมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตาม “โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน” สานต่อเป็น “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” มาต
“ยังจำภาพวันแรกที่ก้าวมาในโรงเรียนบ้านแสนสุขแห่งนี้ เมื่อ 5 ปีก่อนได้ดี จากโรงเรียนที่เกือบร้าง ใกล้ปิดตัว มีนักเรียนเพียง 39 คน เป็นเด็กไทย 7 คน นอกนั้นเป็นเด็กกัมพูชา มีครูแค่ 4 คน สภาพอาคารถูกทิ้งร้าง พื้นที่รกร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์ โรงเรียนถูกลืมจากผู้คนในหมู่บ้าน เพราะคนในพื้นที่ไม่มีใครเรียน มีแต่เด็กกัมพูชา ขนาดโรงเรียนอยู่ปากซอยแท้ๆ แต่ไม่มีคนรู้จัก ทุกคนบอกว่าโรงเรียนยุบไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้หมดกำลังใจ กลับยิ่งอยากพัฒนาที่นี่ให้ดีขึ้น จากวันนั้นถึงวันนี้โรงเรียนบ้านแสนสุขได้พัฒนาแบบพลิกฝ่ามือ ทั้งระบบการเรียนการสอน การเรียนรู้นอกห้องเรียน และการฝึกอาชีพ จากความตั้งใจที่จะให้ที่นี่กลายเป็นโรงเรียนในใจชุมชน” นายบรรจรงค์ วรเศรษฐสุขศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแสนสุข ตำบลคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว บอกอย่างภูมิใจ เมื่อย้อนกลับไปต้นปี 2560 โรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชาแห่งนี้ กำลังนับวันรอที่จะปิดตัวลง เพราะนักเรียนเหลือน้อยด้วยผู้ปกครองเลือกที่จะให้ลูกหลานไปเรียนในโรงเรียนใหญ่ๆ ในตัวอำเภอ ภารกิจอันยิ่งใหญ่จึงตกเป็นของ ผอ.บรรจรงค์ ที่ต่อสู้ทุกวิถีทางเพื่อไม
การส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงอาหารโปรตีนคุณภาพอย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในสถานการณ์ระบาดของโควิด -19 เป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะการได้บริโภคโปรตีนที่ดีอย่าง “ไข่ไก่” ช่วยหนุนการเติบโตอย่างสมวัยทั้งทางร่างกายและสมอง ซึ่งที่ผ่านมา “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน” เป็นแหล่งอาหารที่ยั่งยืนของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ 880 แห่ง ครอบคลุมจำนวนนักเรียนประมาณ 160,000 คน มีผลผลิตไข่ไก่บริโภคอย่างสม่ำเสมอ ที่โรงเรียน ตชด.การบินไทย ต.ไทรเดี่ยว อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ซึ่งปีนี้ร่วมโครงกาฯมาเป็นปีที่ 18 แล้ว ด.ต.หญิงรุ่งอรุน ค่ำชู ครูผู้ดูแลโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เล่าว่า โรงเรียนเปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล-ประถมศึกษาปีที่ 6 มีเด็กนักเรียน 140 คน ในพื้นที่บริการ 3 หมู่บ้าน เด็กๆ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่กับปู่ ย่า ตา ยาย ที่ทำอาชีพทำนา ทำไร่ และรับจ้าง เพราะพ่อแม่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด โรงเรียนเลี้ยงไก่ไข่ 150 ตัว จากการสนับสนุนของซีพีเอฟ หรือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ให้พันธุ์ไก่ อาหารสัตว์ พร้อมโรงเรือนแบ
สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ส่งผลกระทบให้โรงเรียนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ มีมาตรการให้นักเรียนงดเดินทางมาที่โรงเรียน โดยให้เรียนผ่านระบบออนไลน์ เพื่อหลีกเลี่ยงและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่สำหรับ “โรงเรียนบ้านแม่ระเมิง” ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ซึ่งนักเรียนเกือบ 100% ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 957 คน เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าปะกาเกอะญอ ต้องหยุดเรียนอยู่ที่บ้านเช่นกัน น้องๆ ไม่มีโอกาสเรียนผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ อาศัยพลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์และเครื่องปั่นไฟ ใช้ระบบน้ำประปาภูเขาต่อจากแหล่งต้นน้ำ ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล โรงเรียนบ้านแม่ระเมิง ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นการสร้างทักษะด้านอาชีพให้กับนักเรียน เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน หนึ่งในกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียน คือ โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 คุณครูต้องเดินทางขึ้นไปบนดอย เพื่อติดตามดูแลนักเรียนและนำใบงานออกไปแจกให้นักเรียน เพื่อเป็นการทบทวนบทเรียน ซึ่งบ้านของนักเรียนบ
เปิดเทอมใหม่หลังโควิด 19 น้องๆ โรงเรียนบ้านแสนสุข ตำบลคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว กลับมาเรียนและทำกิจกรรมตามวิถีปกติใหม่ (New Normal) โดยที่โรงเรียนยังระมัดระวังการเว้นระยะห่างในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ขณะที่ เช้าวันนี้ เด็กๆ ชวนกันไปที่โรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ที่พวกเขาช่วยกันเลี้ยง ดูแล และช่วยกันเก็บผลผลิตไข่ไก่เพื่อมาเป็นอาหารกลางวัน โรงเรียนบ้านแสนสุข เป็นโรงเรียนอีกแห่งหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน และยังเป็นตัวอย่างของการบริหารจัดการผลผลิตไข่ไก่จากโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนและถ่ายทอดความรู้การเลี้ยงไก่ไข่ จาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ และ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ส่งเสริมนักเรียนเลี้ยงไก่ไข่เพื่อนำผลผลิตไข่ไก่ส่งเข้าโครงการอาหารกลางวัน และผลผลิตไข่ไก่อีกส่วนหนึ่งจำหน่ายให้กับชุมชน โดยซีพีเอฟสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่และปัจจัยการผลิต ทั้งพันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ ให้แก่โรงเรียน ผ่านระบบสมาชิกโครงการ รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่สัตวบาลให้ความรู้ คำปรึกษาในการเลี้ยงและการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ
23 ธันวาคม 2562 จ. เชียงราย — บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมกับ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เดินหน้าส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนต่อเนื่องสู่ปีที่ 30 มุ่งมั่นสร้างเสริมสุขภาพอนามัยแข็งแรงของเด็กและเยาวชนไทยอย่างยั่งยืนกว่า 150,000 คน ใน 824 โรงเรียนทั่วประเทศ ตลอด “3 ทศวรรษ” ของโครงการฯ (ปี 2532 – ปัจจุบัน) นอกจากจะเป็นแหล่งผลิตไข่ไก่เพื่ออาหารกลางวันให้นักเรียนอย่างเพียงพอแล้ว ยังช่วยพัฒนาให้โรงเรียนเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และส่งเสริมทักษะด้านการเกษตร สร้างความมั่นคงทางอาหารในโรงเรียนและชุมชน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ปีนี้ โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน พร้อมมอบโรงเรือนไก่ไข่และอุปกรณ์การเลี้ยงให้กับโรงเรียนบ้านดู่ (สหราษฎร์พัฒนาคาร) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นโรงเรียนลำดับที่ 779 และอีก 45 โรงเรียน โดยมี นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธี และ นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร ซีพีเอฟ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และพนักงานบริษัทฯ ร่วมมอบโครงการ นายภาษเด
วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2562 เวลา 10.00 น. นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ประจำปี 2562 ในโอกาสดำเนินงานครบรอบ 3 ทศวรรษ ให้กับโรงเรียนบ้านดู่ (สหราษฏร์พัฒนาคาร) และอีก 45 โรงเรียน โดย นายสมบูรณ์ ธรรมลังกา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 เป็นตัวแทนรับมอบฯ ร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู และนักเรียน โดยมี นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ คณะผู้บริหารและพนักงานบริษัท มอบโครงการฯ ณ โรงเรียนบ้านดู่(สหราษฎร์พัฒนาคาร) อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซีพีเอฟ ร่วมกับ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน มาตั้งแต่ปี 2532 มี เป้าหมายเพื่อร่วมแก้ปัญหาทุพโภชนาการของเด็กเและเยาวชนในชนบทและถิ่นทุรกันดาร จนถึงปี 2562 มีจำนวนโรงเรียนที่ร่วมโครงการทั้งสิ้น 824 แห่ง ส่งผลโดยตรงต่อเด็กและเยาวชนมากกว่า 150,000 คน
วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2562 เวลา 10.00 น. นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จะเป็นเป็นประธานในพิธีมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ประจำปี 2562 ในโอกาสดำเนินงานครบรอบ 3 ทศวรรษ ให้กับโรงเรียนบ้านดู่ (สหราษฏร์พัฒนาคาร) และอีก 45 โรงเรียน โดยนายสมบูรณ์ ธรรมลังการ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 1 เป็นตัวแทนรับมอบฯ ร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู และนักเรียน โดยมี นายอดิเรก ศรีประทักษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ คณะผู้บริหารและพนักงานบริษัท มอบโครงการฯ ณ โรงเรียนบ้านดู่ (สหราษฎร์พัฒนาคาร) อ.เมือง จ.เชียงราย ซีพีเอฟ ร่วมกับมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน มาตั้งแต่ปี 2532 มีเป้าหมายเพื่อร่วมแก้ปัญหาทุพโภชนาการของเด็กเและเยาวชนในชนบทและถิ่นทุรกันดาร จนถึงปี 2562 มีจำนวนโรงเรียนที่ร่วมโครงการทั้งสิ้น 824 แห่ง ส่งผลโดยตรงต่อเด็กและเยาวชนมากกว่า 150,000 คน
(จังหวัดนครพนม) บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมกับ หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพ (Japanese Chamber of Commerce : JCC) มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน (สพฐ.) ส่งเสริมเด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน ส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เป็นปีที่ 20 พร้อมฝึกทักษะเลี้ยงไก่ไข่เพื่อเป็นทางเลือกในการประกอบอาชีพ โดยในวันนี้ (8 พ.ย. 62) นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว ปลัดจังหวัดนครพนม เป็นประธานในพิธีส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนให้กับ 5 โรงเรียนในจังหวัดนครพนม ณ โรงเรียนชุมชนบ้านหนองย่างซี้น อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปัจจุบัน มีจำนวนนักเรียน 166 คน นายนิติพัฒน์ กล่าวว่า ภาครัฐตระหนักถึงปัญหาทุพโภชนาการของนักเรียนในถิ่นทุรกันดารและในพื้นที่ห่างไกล ที่ต้องการการสนับสนุน ในโอกาสนี้ขอขอบคุณที่ภาคเอกชนโดย JCC ซีพีเอฟ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ให้ความสำคัญและห่วงใยในสุขภาพของเ