โรคไข้เลือดออก
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยอยู่ในฤดูฝน ทำให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ เกิดน้ำท่วมขังและในบางพื้นที่มีน้ำขังตามภาชนะต่างๆ อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลายได้ สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปีนี้ ตั้งแต่ 1 มกราคม-7 สิงหาคม 2561 มีผู้ป่วยแล้ว 41,094 ราย เสียชีวิต 48 ราย โดยผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 3,301 ราย และกลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ กลุ่มวัยเรียนถึงวัยทำงาน (อายุ 10-34 ปี) รวมกว่าร้อยละ 60 ของผู้ป่วยทั้งหมด “ในช่วงหน้าฝนปีนี้ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กันยายน จะพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกมากกว่า 10,000 รายต่อเดือน เห็นได้จากจำนวนผู้ป่วยในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม คือ จำนวน 13,233 และ 10,812 ราย ตามลำดับ เฉพาะเดือนพฤษภาคมก่อนเข้าฤดูฝน กับเดือนมิถุนายนที่เป็นฤดูฝนแล้ว พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว คือ 7,020 รายเพิ่มเป็น 13,233 ราย ของเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายน โดยในช่วงนี้ทุกภาคของประเทศไทยยังคงมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้เลือดออกได้” นพ.สุวรรณชัยกล่าว อธิบดี คร.กล่าวว่า ขอแนะนำให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู
ด้วยสถานการณ์โรคไข้เลือดออก (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ก.ค. 2560) พบว่า มีผู้ป่วยไข้เลือดออกสะสมรวม 24,259 ราย จำนวนผู้ป่วยเสียชีวิต 33 ราย ส่วนใหญ่พบในกลุ่ม อายุ 10-14 ปี และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น จึงขอความร่วมมือจังหวัดดังนี้ 1. ให้ผวจ.กำหนดเป็นวาระจังหวัดในการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคไข้เลือดออก (ไข้เด็งกี่) ไข้ปวดข้อยุงลาย ไข้มาลาเรีย ไข้สมองอักเสบชนิดญี่ปุ่น โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคเท้าช้าง 2. รณรงค์และดำเนินการเชิงรุกทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง 3. ให้ความรู้แก่ประชาชน เกี่ยวกับโรคที่มียุงเป็นพาหะ นำโรค 4. จัดกิจกรรม Big Cleaning Day พร้อมกันทุกหมู่บ้านในจังหวัด 5. แจ้ง ประสานอปท.ออกข้อบัญญัติท้องถิ่นเพื่อควบคุมลูกน้ำยุงลาย กรณีพบผู้ป่วยในชุมชน ให้ควบคุมการระบาดของโรคภายใน 24 ชั่วโมง ความร่วมมือ “ข่าวสด” – กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด