โรบัสต้า
นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตกาแฟไทย ปีการผลิต 2567/68 (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2568) พบว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกกาแฟกว่า 220,053 ไร่ (กาแฟอาราบิกา 139,998 ไร่ และโรบัสตา 80,055 ไร่) เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีพื้นที่ปลูก 216,517 ไร่ (กาแฟอาราบิกา 129,778 ไร่ และโรบัสตา 86,739 ไร่) ผลผลิตรวม 15,651 ตัน (อาราบิกา 10,682 ตัน และโรบัสตา 4,969 ตัน) ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มีผลผลิต 16,623 ตัน (กาแฟอาราบิกา 10,690 ตัน และโรบัสตา 5,933 ตัน) อย่างไรก็ตาม พบว่า ปริมาณการผลิตรวมยังคงน้อยกว่าปริมาณความต้องการใช้ที่ต้องการมากกว่า 95,500 ตัน ทำให้ประเทศไทยต้องนำเข้ากาแฟทั้งในรูปเมล็ดกาแฟดิบ เมล็ดกาแฟคั่ว กาแฟสำเร็จรูป และรูปแบบอื่นๆ มากกว่า 80,000 ตัน จากปริมาณผลผลิตที่ไม่เพียงพอ จึงส่งผลให้ราคากาแฟมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหากพิจารณาราคาที่เกษตรกรขายได้พบว่า เมล็ดกาแฟอาราบิกา (กะลา) เฉลี่ยราคา ณ เดือนมีนาคม 2568 อยู่ที่ 163 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับราคาเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา กาแฟอ
“วริศ มันตาวลี” หนุ่มอาข่า วัย 39 ปี เจ้าของธุรกิจ “เฮราโมน คอฟฟี่ ฟาร์ม” หมู่บ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวด “สุดยอดกาแฟไทย” ถึง 2 ปีซ้อน ในประเภทกาแฟอาราบิก้า Semi-Dry กระบวนการแปรรูป Honey Process ปี 2564 และประเภทกาแฟโรบัสต้า ปี 2565 มฟล. ร่วมพัฒนาอาชีพ ชาวสวนกาแฟเชียงราย เบื้องหลังความสำเร็จของ “เฮราโมน คอฟฟี่ ฟาร์ม” เกิดจากโครงการการพัฒนาขีดความสามารถของเกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟอาราบิก้าในชุมชนจังหวัดเชียงรายตลอดห่วงโซ่อุปทาน ของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) ที่มี ดร.ชลิดา ธนินกุลภรณ์ หัวหน้าส่วนจัดการทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม มฟล. เป็นหัวหน้าโครงการและคณะนักวิจัย ประกอบด้วย ผศ.ดร.สิทธิ ดวงเพชร ดร.กิติพงษ์ คงพินิจบรรจง อาจารย์ประจำสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ โครงการฯ ของ มฟล.มุ่งพัฒนาเกษตรกรให้มีองค์ความรู้ในการยกระดับผลผลิตกาแฟอาราบิก้าที่มีคุณภาพตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันทางด้านธุรกิจของผู้ประกอบการกาแฟอาราบิก้าในชุมชนจังหวัดเชียงรายให้ดีขึ้นกว่าเดิม คุณวริศ มันตาวลี เจ้าของเฮราโมน คอฟฟี่ ฟาร์ม เป็นหนึ่งในเกษ
“กาแฟ” (Coffee) เป็นเครื่องดื่มเคียงคู่กับวิถีชีวิตคนไทย และคนไทยรู้จักกันดี กาแฟ ไม่เฉพาะการผลิตผลสดจากเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการสร้างอาชีพให้แก่กิจการขายกาแฟในรูปแบบต่างๆ และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องจากกาแฟทั้งในเมืองและชนบทเข้าไปถึงหมู่บ้าน จึงเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ที่เริ่มจากฐานการผลิตของเกษตรกร แม้ประเทศไทยจะผลิตกาแฟส่งไปขายต่างประเทศ รวมทั้งบริโภคภายในประเทศแต่ปริมาณการผลิตก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ประเทศไทยผลิตเมล็ดกาแฟได้กว่าปีละ 26,000 ตัน แต่ความต้องการใช้กาแฟมีถึง 90,000 ตัน จึงต้องนำเข้าปีละกว่า 60,000 ตัน จากต่างประเทศเช่น เวียดนาม มาเลเซีย ฯลฯ ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยได้ให้การสนับสนุนธุรกิจกาแฟเป็นยุทธศาสตร์กาแฟ ปี 2560-2564 ให้เป็นผู้นำการผลิตและการค้ากาแฟคุณภาพในอาเซียนก้าวสู่ตลาดโลก ต้นกาแฟในประเทศไทยที่นิยมปลูก และเป็นพืชเศรษฐกิจมีด้วยกัน 2 สายพันธุ์ คือ กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า (Arabica) มีพื้นที่ปลูกและปริมาณผลผลิตประมาณ ร้อยละ 5 และสายพันธุ์โรบัสต้า (Robusta) มีประมาณ ร้อยละ 95 ตั้งแต่อดีตแต่ไหนแต่ไรมาเราจะเคยได้ยินหรือรับรู้ข้อมูลว่ากาแฟอาราบิก้า ต้องปล
นายนิกร แสงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 สุราษฎร์ธานี (สศท.8) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันจังหวัดชุมพรนับเป็นแหล่งผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสต้า อันดับ 1 ของประเทศไทย ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ณ เดือนตุลาคม 2564 มีพื้นที่ปลูกทั้งหมด 81,929 ไร่ ให้ผลผลิตรวมทั้งจังหวัด 8,322 ตัน/ปี เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกแซม หรือผสมผสานในสวนผลไม้ เนื่องจากกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างมูลค่าให้กับจังหวัดปีละ 573.71 ล้านบาท กาแฟพันธุ์โรบัสต้าที่ได้รับความนิยมของจังหวัดชุมพรมีหลายกลุ่ม เช่น กาแฟเขาทะลุ เอสที กาแฟชุมพร และกาแฟถ้ำสิงห์ชุมพร สำหรับกาแฟถ้ำสิงห์ชุมพรของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ตำบลถ้ำสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ซึ่งมีจุดเด่นเฉพาะ พื้นที่ปลูกเป็นพื้นที่ราบเชิงเขาหินปูนระดับความสูง 85-120 เมตร จากระดับน้ำทะเล สามารถนำกาแฟผลสดมาบ่มแล้วคัดด้วยกรรมวิธีเฉพาะที่มีมาตรฐานเป็นกาแฟสาร และแปรรูปเป็นกาแฟคั่ว กาแฟคั่วบด มีรสชาติเข้มกลมกล่อม มีกลิ่นหอม ซึ่งนอกจากจุดเด่นด้านรสชาติแล้ว กาแฟถ้ำสิงห์ชุมพรยังได้รับการ ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indica
แม่สอด นับว่าเป็นเมืองสำคัญกำลังพัฒนา ถูกจัดให้เป็นอำเภอขยายเขตเศรษฐกิจแห่งแรกของพื้นที่ของภาคเหนือตอนล่างของประเทศไทยที่มีโรงงานอุตสาหกรรมควบคู่สู่ความเจริญในด้านเศรษฐกิจ สังคมในอนาคต เพราะเป็นอำเภอชายแดน ติดต่อกับประเทศเมียนมา ดังนั้น ซึ่งไม่แปลกที่แม่สอดจะถูกพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อธุรกิจ ติดต่อธุรกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน และเชื่อมโยงต่ออีกหลายประเทศ จนยับยั้งไม่อยู่ ที่จะได้เป็นจังหวัดใหม่ก็ว่าได้ ในอนาคต เพื่อสะดวกในการบริหารจัดการภายในอย่างแน่นอน กล่าวถึงการท่องเที่ยวของคนไทยที่จะมาแม่สอดได้ตกทอดกันมาช้านาน สถานที่ท่องเที่ยวตามบริเวณชายแดน ริมแม่น้ำเมยของเมืองเมียวดี ฝั่งตรงข้ามไทยที่คนไทยชอบจับจ่ายซื้อของที่ระลึกบริเวณริมแม่น้ำฝั่งไทย ที่มีของจำหน่ายหลากหลาย โดยชาวไทยและชาวเมียนมานำมาจำหน่ายค้าขายที่คนไทยนิยมมาเที่ยวซื้อของกลับไป โดยเฉพาะวันหยุดสัปดาห์ และในอนาคตไม่ไกล แม่สอดมีสถานีรถไฟไปถึงจังหวัดมุกดาหาร สร้างความเจริญให้กับชาวไทยที่จะมีการเดินทางอย่างสะดวก ปลอดภัย ที่สร้างงานให้คนไทยมีอาชีพอย่างหลากหลายในการค้าขาย สำหรับนักท่องเที่ยวหากจะมาเที่ยวอำเภอแม่สอดที่อยากจะเปลี่ยนบรร
กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า เป็นกาแฟที่นิยมปลูกในพื้นที่ราบ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่มากนัก ในประเทศไทยเรานิยมปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้ามากในภาคใต้ โดยร้อยละ 98 กระจุกตัวอยู่ในภาคใต้ มีเพียงร้อยละ 2 เป็นกาแฟอาราบิก้า ที่นิยมปลูกในภาคเหนือ ในอดีต กาแฟโรบัสต้า ปลูกมากที่สุดในจังหวัดชุมพร ระนอง กระบี่ และสุราฎร์ธานี แต่ปัจจุบันเมื่อราคาซื้อขายปาล์มน้ำมันและยางพาราสูงขึ้น เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟส่วนใหญ่จึงพากันโค่นต้นกาแฟ และลงยางพาราหรือปาล์มน้ำมันแทน พื้นที่ปลูกกาแฟจึงลดลงตามลำดับ ประกอบกับราคาซื้อขายเมล็ดกาแฟสดลดลงเรื่อยๆ ทำให้การทำไร่กาแฟถูกละเลย ข้อมูลจากกรมวิชาการเกษตร พบว่า สถานการณ์พื้นที่ปลูกกาแฟไทยปัจจุบันลดลงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกาแฟโรบัสต้าในภาคใต้ ที่ลดลงสูงมากถึงปีละประมาณ 20,000 ไร่ เนื่องจากเกษตรกรนำพื้นที่ไปปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมันแทน กาแฟคลองท่อม หรือกาแฟกระบี่ เป็นกาแฟที่ได้รับการยอมรับเรื่องคุณภาพระดับหนึ่ง เนื่องจากบริเวณพื้นที่ปลูกมีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ ตำแหน่งพื้นที่และสภาพอากาศเหมาะสม ผลผลิตเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสต้าของอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ จึงกลายเป็นพืชเศรษฐกิจประจำท้องถิ่
การทำการเกษตรเชิงเดี่ยว จะมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะความเสี่ยงทางด้านการตลาด เพราะหากราคาตกต่ำ เกษตรกรต้องประสบกับการขาดทุน ไม่มีรายได้จากกิจกรรมอื่นมาชดเชย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ณ เวลานี้ ได้แก่อ้อย ตันละ 400-500 บาท ยางพารา 4-5 กิโลกรัม ต่อ 100 บาท เป็นต้น แต่หากทำการเกษตรหลายอย่าง โดยเลือกผลิตพืชหลายชนิด ที่ตลาดต้องการ บางชนิดอาจราคาตกต่ำไม่เป็นไร แต่ยังได้ราคาดีจากสินค้าตัวอื่นอีกหลายตัว ดังนั้น การผลิตพืชหลากหลายจึงเป็นแนวทางหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรอยู่ได้อย่างสบาย อย่างเช่น คุณเนรมิตร-คุณอดุลย์ พิทักษ์พงษ์ สองสามีภรรยา อยู่ที่บ้านเลขที่ 54 หมู่ที่ 7 บ้านโคกนกพัฒนา ตำบลบุญทัน อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู โทร. 063-021-9508, 093-397-1493 บริเวณดังกล่าวชาวบ้านเรียกว่า ภูซางใหญ่ เป็นภูเขารอยต่อ 3 จังหวัด อันได้แก่ หนองบัวลำภู อุดรธานี และ เลย ทั้งสองคนร่วมให้ข้อมูลว่า ได้ทำการเกษตรหลายอย่าง ดังนี้ สะตอ 30 ต้น อายุ 7-8 ปี พันธุ์ที่ปลูกคือ สะตอดาน (กลิ่นฉุน ฝักโต) ที่ปักษ์ใต้ส่วนใหญ่จะประมาณ 8-10 เมล็ด ต่อฝัก แต่ที่นี่ฝักยาวมาก คือ 10-18 เมล็ด ต่อฝัก สดกว่า อร่อยกว่า และที่สำคัญผลิตแ
หากเอ่ยถึงระนอง หลายคนอาจนึกถึงความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งเกาะกลางทะเล บ่อน้ำพุร้อน และอ่าวต่างๆ มากมาย แต่จะมีกี่คนที่รู้ว่าที่นี่คือแหล่งผลิตเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยมแห่งหนึ่งของโลก และเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะที่อำเภอกระบุรีที่รายล้อมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีกระแสน้ำพุร้อนไหลผ่าน พร้อมด้วยภูเขาสูงทางทิศตะวันออกที่อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกกาแฟโรบัสต้า ที่คอกาแฟต่างติดใจในรสชาติเข้มข้น หอมกลมกล่อม สุดพิเศษ เนสกาแฟ แบรนด์กาแฟระดับโลกและแบรนด์กาแฟอันดับหนึ่งของคนไทย ร่วมมือกับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟจังหวัดระนอง ยกระดับเมล็ดกาแฟคุณภาพเยี่ยมจากท้องถิ่นระนองสู่คอลเล็กชั่นกาแฟระดับโลกกับ “เนสกาแฟ เรดคัพ ออริจิน ซีเล็คชั่น” ใหม่ รุ่นลิมิเต็ด กาแฟผงสำเร็จรูปผสมกาแฟคั่วบดละเอียดที่สร้างสรรค์ขึ้นจากเมล็ดกาแฟโรบัสต้า 100% จากศูนย์รับซื้อเมล็ดกาแฟกระบุรี จังหวัดระนอง ซึ่งเป็นผลผลิตจากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในจังหวัดระนองกว่า 500 ราย ที่ผ่านการอบรมและติดตามโดยนักวิชาการเกษตรของเนสกาแฟ เพื่อพัฒนาคุณภาพของเมล็ดกาแฟตั้งแต่การปลูก จนถึงการดูแลรักษาและเก็บเกี่ยว
จากสถิติของกรมส่งเสริมการเกษตร ปัจจุบัน ประเทศไทยผลิตกาแฟได้ประมาณ 3 หมื่นตัน ลดลงจากในอดีตที่เคยผลิตได้ 7 หมื่นตัน ทั้งนี้ เนื่องจากทางภาคใต้ได้ตัดโค่นกาแฟลง เพื่อปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมันทดแทน ทั้งนี้ กาแฟที่ปลูกในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ อะราบิก้า และ โรบัสต้า ชนิดแรกไทยเราผลิตได้เพียง 5 เปอร์เซ็นต์ ของทั้งหมด ส่วนโรบัสต้าผลิตได้มากถึง 95 เปอร์เซ็นต์ กาแฟอะราบิก้า ให้กลิ่นและรสชาติ ต้องปลูกบนที่สูงอากาศเย็นในบางช่วง จึงปลูกกันมากที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ตาก และแม่ฮ่องสอน ลักษณะอะราบิก้า มีทรงต้นเล็ก พุ่มเตี้ย สูงประมาณ 2-5 เมตร ใบมีขนาดเล็กเขียว ผิวบนเป็นมัน มีความสามารถต้านทานโรคศัตรูต่ำ ตั้งแต่เริ่มผลิดอกถึงระยะเก็บเกี่ยว ประมาณ 5-9 เดือน กาแฟโรบัสต้า มีทรงต้นใหญ่กว่าอะราบิก้า มีความสูง 3-6 เมตร มีข้อปล้องยาว ใบมีขนาดใหญ่สีเขียว แต่ไม่เป็นมัน ชอบอากาศร้อนชื้น ฝนตกสม่ำเสมอ มีปลูกกันมากที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ระนอง และพังงา จากรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ประเทศไทยต้องเปิดตลาดนำเข้ากาแฟตามข้อตกลงของ WTO ระหว่างปี พ.ศ. 2555-2557 เป็นเมล็ดกาแฟในปริมาณ