ไก่ต๊อก
“ไก่ต๊อก” ถือเป็นสัตว์ปีกชนิดหนึ่ง ที่สามารถเลี้ยงแบบปล่อยให้หากินเองได้ภายในสวน อาหารทางธรรมชาติของไก่ต๊อกคือหญ้าอ่อน และไก่ต๊อกมีการออกไข่ที่มากเลยทีเดียว ลักษณะโดยทั่วไปของไก่ต๊อกจะจัดอยู่ในไก่ขนาดกลาง มีจะงอยปากสั้นและหนา โคนจะงอยปากมีสีแดง ส่วนใหญ่จะมีขนลำตัวสีเทาอมดำและแต้มด้วยจุดสีขาวเล็กๆ ส่วนของหัวและคอจะไม่มีขน บริเวณใบหน้าเป็นเนื้อสีขาวและมีปีกสั้น เดิมทีไก่ต๊อกเป็นสัตว์พื้นเมืองแถวทวีปแอฟฟิกา แต่ในปัจจุบันมีการเลี้ยงแพร่กระจายไปทั่วโลก มีทั้งเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม เลี้ยงเพื่อกินไข่ และเลี้ยงไว้เพื่อกินเนื้อ โดยธรรมชาติของไก่ต๊อกจะเป็นสัตว์ที่มีพฤติกรรมการจับคู่เพียงคู่เดียวตลอดชีวิต มักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงจำนวน 10-100 ตัว มักจะเดินหากินอยู่ตามพื้นมากกว่าบนต้นไม้ ยกเว้นเวลาที่ตกใจจะบินได้เตี้ยๆ เท่านั้น คุณอิทธิพล ดลจำรัส หรือ คุณมี่ อายุ 29 ปี อาศัยอยู่ บ้านแสนสำราญ ตำบลสามขา อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ปัจจุบัน คุณอิทธิพลประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร เจ้าของ ฟาร์มลุงมี่ Farm LungMee คุณอิทธิพล เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้จักไก่ต๊อก คือวันหนึ่งได้ไปกินก๋วยเตี๋ยวใ
ไก่ที่เราเห็นหรือรู้จักกันทั่วไป มักจะเป็นไก่สายพันธุ์พื้นบ้าน ไก่ชน ที่หาดูได้ง่าย แต่กับไก่แปลกๆ ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากต่างประเทศ อาจจะหาชมได้ยากหน่อย วันนี้เราจึงมานำเสนอไก่สวยงามนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น ไก่ตีนโตเวียดนาม ไก่ต๊อก ไก่โปแลนด์ ไก่มินิโคชิน ไก่ดำ และไก่หัวเราะ คุณสุธน สังจันทร์ อยู่บ้านเลขที่ 62/2 หมู่ที่ 14 ตำบลไกรใน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย บัณฑิตมหาวิทยาลัยแม้โจ้ รุ่น 73 ที่จบทางด้านพืชสวนมา แต่มีอาชีพดูแลความปลอดภัยเกี่ยวกับระบบไอทีให้บริษัทเอกชน ในจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าของไก่สวยงามนานาชาติอาเซียน มีข้อสงสัยว่า ทำไมถึงเลือกเลี้ยงไก่สวยงาม ไม่เลี้ยงเป็นพวก ไก่ชน ไก่พื้นบ้านทั่วๆ ไป คุณสุธน บอกว่า เลี้ยงเพราะความน่ารัก มันไม่เหมือนพวกไก่ชนที่จะต้องดูชั้นเชิง ดูสายพันธุ์ แต่ไก่สวยงามไม่ต้อง อย่างไก่มินิโคชิน มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศจีน แต่ในเมืองไทยมีการนำเข้ามาอย่างแพร่หลาย มีจุดเด่นที่ ตัวเล็กกลมๆ ไซซ์มินิ โตเต็มที่น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัมเศษๆ เราจะเห็นว่าตรงขามีขนงอกออกมา ดูเผินๆ ขาสั้นคล้ายไก่แจ้ เหมาะสำหรับคนที่อยากเลี้ยงไก่ แต่พื้นที่ไม่มาก อย่างหมู่บ้านจัดสรร ออกไข
ไก่ต๊อก เป็นสัตว์ปีกจำพวกไก่ชนิดหนึ่ง หากินตามพื้นดิน อาศัยอยู่ตามป่าโปร่งและทุ่งหญ้า เดิมทีแพร่กระจายพันธุ์ทั่วไปในทวีปแอฟริกา มีลักษณะจะงอยปากสั้นและหนา มีเหนียงสีเทาอมดำห้อยอยู่ที่จะงอยปากล่างแผ่ไปทั้ง 2 ข้างของคาง และมีเหนียงสีขาวประแดงบริเวณใต้ขากรรไกรทั้ง 2 ข้าง ลำตัวป้อม ขนหางสั้น ปลายชี้ลง ขาแข็งแรง อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง เมื่อเจอศัตรูจะบินขึ้นต้นไม้ คนเรานิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงามและเลี้ยงกินเนื้อกินไข่ ไก่งวง เป็นนกประเภทหนึ่งที่บินไม่ได้ พบในสหรัฐอเมริกา จัดอยู่ในวงศ์ไก่ฟ้าและนกกระทา มีปากสั้นเรียวบาง บริเวณหัวบางส่วนและลำคอไม่มีขน มีหนังย่นๆ และตุ่มคล้ายหูด แพนหางชี้ตั้งขึ้น ขายาว ขนตามลำตัวเป็นเงา ในการประกอบอาหาร นิยมยัดไส้หลากหลายชนิด แล้วนำไปปรุงแต่งเป็นอาหาร ในปัจจุบัน พบว่า ผู้คนนิยมกินเนื้อไก่งวงกันมากขึ้น ทั้งทางยุโรปและแถบเอเชียบ้านเรา ทั้งลาว เวียดนาม รวมทั้งในประเทศไทยของเรา ไก่งวงจึงเป็นสัตว์ปีกเศรษฐกิจตัวใหม่ที่สร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงอย่างงดงาม เหมือนกับสัตว์ปีกชนิดอื่นๆ เช่นเดียวกับไก่ต๊อก ที่เมื่อก่อนคนเราจะเลี้ยงไว้ดูเล่นเพื่อความสวยงาม แต่ต่อมามีผู้
คุณพณิชย์ สังหาร อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ที่ 6 ตำบลสันโค้ง อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา เป็นเกษตรกรที่เพาะเลี้ยงไก่ต๊อกจนประสบผลสำเร็จ ทำให้เขาถึงกับลาออกจากงานออฟฟิศ มาหาความสุขกับการเลี้ยงไก่ต๊อกและสัตว์ปีกชนิดอื่นๆ เป็นอาชีพสร้างรายได้ให้กับเขาได้เป็นอย่างดี คุณพณิชย์ ชายหน้าหวาน มากด้วยรอยยิ้ม เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนมีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ต่อมาประมาณปี 2557 ได้นำไก่ต๊อกมาทดลองเลี้ยงที่บ้านเพื่อเป็นอาชีพเสริม เมื่อเลี้ยงมาได้สักระยะผลปรากฏว่าไก่ต๊อกออกไข่และสามารถจำหน่ายลูกไก่ต๊อกเป็นรายได้พอได้เงินเป็นค่าใช้จ่าย จึงเริ่มเลี้ยงมาเรื่อยๆ พร้อมทั้งหาสัตว์ปีกชนิดอื่นมาเลี้ยงภายในบริเวณบ้านอีกด้วย “ช่วงแรกผมเลี้ยงไก่ต๊อก ควบคู่ไปกับทำงานประจำ มาเลี้ยงสัตว์อย่างเต็มตัว ช่วงนั้นไก่ต๊อกผมหาซื้อมาเลี้ยงประมาณ 5 คู่ เลี้ยงไปเลี้ยงมาก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมก็เริ่มสนใจไก่ชนิดอื่นด้วยก็หาซื้อมาเลี้ยง พอทำแล้วเริ่มรู้สึกสนุก มันมีอิสระในการทำ ก็ลาออกจากงานออฟฟิศมาเลี้ยงไก่อยู่ที่บ้านอย่างเต็มตัว” คุณพณิชย์ เล่าถึงการดำเนินชีวิตในสมัยก่อนให้ฟัง สาเหตุที่เลือกทดลองเลี้ยงไก่ต๊อกในช่วงแรก
ถนนสายพิษณุโลก-สุโขทัย มีระยะทางราว 60 กิโลเมตร ไปจากพิษณุโลก ก่อนถึงตัวเมืองสุโขทัย คือพื้นที่ของอำเภอกงไกรลาศ อำเภอนี้มีชื่อเสียงทางด้านปลาร้า นาข้าว กล้วยทอดกรอบ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านไปทำสารคดีมาแล้ว ครอบครัว “สังข์จันทร์” อยู่บ้านเลขที่ 62/2 หมู่ที่ 14 ตำบลไกรใน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย เดิมทีทำนาอย่างเดียว กระทั่งลูกชายไปเรียนเกษตร ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุโขทัย และไปจบปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กิจกรรมทางการเกษตรจึงหลากหลายมากขึ้น ลูกชายของครอบครัวคือ คุณสุธน สังข์จันทร์ หลังเรียนจบคุณสุธนไปทำงานกับบริษัทเอกชนที่ในเมือง เขาไปพบไก่ดำอินโดนีเซีย มีความสวยงามมาก ตามประสาคนที่เรียนจบมาทางด้านการเกษตร เขาอยากเลี้ยง แต่มีจำนวนน้อย อีกทั้งสนนราคาค่อนข้างแพง เมื่อเก็บเงินได้จำนวนหนึ่ง เขาจึงสั่งซื้อพันธุ์ไก่ดำอินโดนีเซียมาเลี้ยงที่บ้าน เป็นที่น่ายินดีว่า คุณพ่อคุณแม่ของคุณสุธนให้การสนับสนุน ตั้งแต่ช่วยทำคอก โดยไปตัดไม้ไผ่ริมนามาช่วยปลูกสร้าง เมื่อคุณสุธนติดงาน ก็เป็นธุระเรื่องการให้อาหาร การฟักไข่ ยามให้วัคซีนก็ลงแรงกันทั้งบ้าน ใช้เวลาไม่นานนัก งานเลี้ยงไก่ดำอินโดนีเซียและ
ไก่ต๊อก เป็นสัตว์ปีกที่มีลักษณะโดยทั่วไปคือ มีจะงอยปากสั้นและหนา ปากมีสีน้ำตาลหรือแดงอมส้ม มีเหนียงสีเทาอมดำห้อยอยู่ที่จะงอยปากล่าง แผ่ไปทั้ง 2 ข้างของคาง ส่วนหัวถึงสันคอมีขนอยู่เล็กน้อย ลักษณะลำตัวป้อม มีขนหางหลายเส้นสั้นๆ ปลายหางชี้ลงข้างล่าง ไก่ต๊อกมีนิสัยชอบหากินในพื้นราบมากกว่าจะปีนป่ายบนต้นไม้ เป็นสัตว์ปีกที่มีนิสัยชอบอาศัยอยู่ตามป่าโปร่งและทุ่งหญ้า นิยมนำไก่ต๊อกมาเลี้ยงเพื่อความสวยงาม ซึ่งเนื้อและไข่ของไก่ต๊อกสามารถนำมาประกอบอาหารได้ คุณพณิชย์ สังหาร อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ที่ 6 ตำบลสันโค้ง อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา เป็นเกษตรกรที่เพาะเลี้ยงไก่ต๊อกจนประสบผลสำเร็จ ทำให้เขาถึงกับลาออกจากงานออฟฟิศ มาหาความสุขกับการเลี้ยงไก่ต๊อกและสัตว์ปีกชนิดอื่นๆ เป็นอาชีพสร้างรายได้ให้กับเขาได้เป็นอย่างดี จากหนุ่มออฟฟิศ ผันชีวิตสู่เกษตรกรเลี้ยงสัตว์ คุณพณิชย์ ชายหน้าหวาน มากด้วยรอยยิ้ม เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนมีอาชีพเป็นพนักงานบริษัทเอกชน ต่อมาประมาณปี 2557 ได้นำไก่ต๊อกมาทดลองเลี้ยงที่บ้านเพื่อเป็นอาชีพเสริม เมื่อเลี้ยงมาได้สักระยะผลปรากฏว่าไก่ต๊อกออกไข่และสามารถจำหน่ายลูกไก่ต๊อกเป็นรายได้พอได้เง