ไก่ประกวด
จากประสบการณ์การเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง ที่ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานเกษตรจังหวัด ทำให้ คุณปัญญา ตาพล หรือที่รู้จักกันดีในกลุ่มคนเลี้ยงไก่แจ้ ว่า “ป้อม วัดไร่ขิง” มีประสบการณ์การเลี้ยงสัตว์ปีกมาพอสมควร แต่ก็เป็นการเลี้ยงสัตว์หาเลี้ยงชีพเป็นรายได้ประจำ ยังไม่มองเรื่องความสวยงามเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน ต่อเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็ดไล่ทุ่งที่เคยสร้างรายได้ มีเกษตรกรจำนวนมากได้รับการส่งเสริมเช่นกัน ทำให้ราคาซื้อขายและความต้องการของตลาดลดน้อยลง คุณปัญญาจึงเลิกการเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งไปโดยปริยาย และหันมาประกอบอาชีพค้าขาย ระหว่างค้าขายเสื้อผ้ากับพี่สาว ทำให้มีเวลาว่าง จึงหันกลับมามองงานอดิเรกทำตามความต้องการของตนเอง ก็เล็งเห็นสัตว์ปีกสวยงามที่อยากเลี้ยงมานาน เมื่อได้โอกาสจึงซื้อไก่แจ้มาเลี้ยง และตั้งใจเลี้ยงเพื่อส่งเข้าประกวดเพียงอย่างเดียว “ที่ผมสนใจการประกวดไก่แจ้ และเริ่มเลี้ยงไก่แจ้เพื่อการประกวด เพราะเห็นว่าไก่แจ้มีความสวยงาม ทั้งรูปร่าง สี และขน จึงเริ่มต้นด้วยการไปตามงานประกวดสัตว์ปีก (ไก่แจ้) และซื้อไก่แจ้มาเริ่มเลี้ยงและตั้งใจเพาะ เพื่อให้ได้ไก่แจ้ที่มีลักษณะเหมาะแก่การประกวด” ก่อนเลี้ยง คุ
ในวงการประกวดไก่แจ้ เป็นที่รู้กันดีว่า ไก่ที่ขึ้นแท่นประกวดหรือผ่านการประกวด ยิ่งได้รับรางวัลจากการประกวด ค่าตัวของไก่หรือมูลค่าเมื่อได้ลูกไก่จากไก่นั้นๆ จะสูงขึ้น ส่วนหนึ่งไก่ถูกเปลี่ยนมือทันทีหลังการประกวดสิ้นสุดลง อีกส่วนหนึ่งเจ้าของเดิมนำกลับไปพัฒนาสายพันธุ์ และอีกส่วนนำไปเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เพื่อผลิตลูกไว้จำหน่าย คุณวิชัย สิงห์เทียน เจ้าของ Lena Farm ฟาร์มไก่ย่านคลองสิบ คนรักไก่เช่นเดียวกับนักเลี้ยงไก่ หรือนักประกวดอีกหลายๆ ท่าน คุณวิชัย เปิดฟาร์มให้ชมทุกซอกทุกมุม สังเกตได้ว่า พื้นที่ที่คุณวิชัยเรียกว่าฟาร์ม ไม่ได้กว้างขวางหรือใหญ่โตมากนัก จัดอยู่ในพื้นที่กะทัดรัด แต่แบ่งเป็นสัดส่วน ระหว่างไก่สวยงามและไก่แจ้ Lena Farm ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองสามวัง อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี คุณวิชัย เป็นเจ้าของฟาร์มที่อยู่ในวัยทำงาน เพราะก่อนหน้านี้ทำงานประจำ แต่สนใจไก่สวยงาม จึงลองศึกษาข้อมูล และที่สุดก็ได้ไก่แจ้สวยงามมา 1 คู่ คุณวิชัยเลือกไก่แจ้ไทยและเลือกสีเบญจรงค์ เพราะเป็นสีที่เขาเองรู้สึกว่า มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์ที่สุดในกลุ่มไก่แจ้ไทย ทั้งยังเป็นไก่ที่นิยมเลี้ยง เนื่องจากเสริมบารมี ซึ่
ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาตั้งแต่เด็ก ทำให้ คุณเกรียงศักดิ์ วิไลวรรณ หรือที่รู้จักกันดีในวงการไก่แจ้ ว่า “บังเกรียง” มีความรู้ความชำนาญในการเลี้ยงไก่แจ้ เพื่อการประกวด เป็นอย่างดี ตั้งแต่เล็ก คุณเกรียงศักดิ์มีหน้าที่ดูแลไก่แจ้ของพี่ชายที่ทำงานอยู่ต่างถิ่น แม้จะดูเหมือนเป็นหน้าที่ที่มากเกินไปสำหรับเด็ก แต่คุณเกรียงศักดิ์รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องยาก เพราะไก่แจ้เป็นสัตว์ดูแลง่าย เพียงให้อาหาร น้ำ และทำความสะอาดกรงอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ไก่แจ้ก็สามารถอยู่ได้อย่างเป็นสุข เพราะหน้าที่ก่อให้เกิดเป็นความรักและส่งผลให้เกิดความผูกพันตามมา จนเมื่อคุณเกรียงศักดิ์ก้าวเข้าสู่วัยรุ่นก็เริ่มรู้จักการประกวดไก่แจ้ และเป็นครั้งแรกที่คุณเกรียงศักดิ์จุดประกายให้ตนเอง เริ่มเลี้ยงไก่แจ้ของตัวเองจริงๆ “ตอนแรกไม่รู้จักอะไร คิดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ ที่เด็กๆ เลี้ยง แต่เริ่มโต เห็นมีการจัดประกวดไก่แจ้ เลยเข้าไปดู แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมได้เริ่มมีไก่แจ้ของตัวเอง” ไก่แจ้คู่แรกของคุณเกรียงศักดิ์ที่ได้มาครอบครองก็มาจากสนามประกวดแรกที่คุณเกรียงศักดิ์เริ่มรู้จัก และได้มาในราคา 1,500 บาท เป็นไก่แจ้ที่ผ่านการประกวด