ไฟฟ้า
พ.ต.อ.สมพงษ์ ตั้งตัว ผกก สภ.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ร.ต.อ.รุ่งเรืองชัย อุปการะ รองสว.(สอบสวน) สภ.ห้างฉัตร รับแจ้งว่ามีคนถูกไฟฟ้าดูดตายกลางทุ่งนา ในหมู่บ้านโฮ้งทะล้า ม.11 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง จึงพร้อมด้วยแพทย์ รพ.ห้างฉัตร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลปงยางคก รุดเข้าตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.บัวผัด อุตมา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.11 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง สภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่ข้างนาข้าว ที่เสื้อของผู้ตายมีร่องรอยถูกไฟไหม้และในตัวยังมีข้องสำหรับใส่กบใส่เขียดห้อยติดอยู่ลำตัวอยู่ โดยพบว่ารอบนาข้าวมีสายลวดราวตากผ้าล้อมรอบนายาวกว่า 30 เมตรตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบถามเพื่อนบ้านทราบว่า เมื่อคืนฝนตกผู้ตายออกจากบ้านพร้อมไฟฉาย และอุปกรณ์จับกบ จับเขียด เพื่อไปหากบ หาเขียด มาทำอาหาร เพราะว่าฝนตกน่าจะมีกบมีเขียดจำนวนมาก กระทั่งรุ่งเช้าผู้ตายก็ยังไม่กลับบ้าน ชาวบ้านจึงช่วยกันออกตามหา จนมาพบนอนเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนาดังกล่าว สภาพที่ถูกไฟฟ้าดูดตายและมีสายลวดติดลำตัวอยู่ นายอินทร ศรีคำวัง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 หมู่ 11 ต. ปงยางคก อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง กล่าวว่า ต
เมียนมาตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า 2 เท่า ภายในปี 2021 แก้ปัญหาขาดแคลนพลังงาน หลังมีเพียง 1 ใน 3 ของประชาชนทั้งประเทศที่มีไฟฟ้าใช้ เพิ่มดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมียนมากำลังวางแผนเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าเป็นอีก 2 เท่า ภายในปีค.ศ.2021 (พ.ศ.2534) ด้วยการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นมาตรการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพลังงานในประเทศ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงไฟฟ้าและพลังงานเปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าที่จะสร้างขึ้นใหม่ทั้ง 4 แห่งนี้ จะถูกสร้างขึ้นภายในปี 2021 ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 5.16 พันล้านดอลลาร์ โดยจะสามรถผลิตไฟฟ้าได้ 3,100 เมกะวัตต์ และเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 2 เท่า ที่ 3,000 เมกะวัตต์ โดย Zaw Win Naing รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการไฟฟ้าและพลังงานเปิดเผยว่า รัฐบาลเมียนมาได้ลงนามข้อตกลงในการเริ่มงานวิศวกรรมเบื้องต้น เช่นเรื่องของการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมกับ 6 บริษัท ประกอบไปด้วย TOTAL, Siemens AG , Zhefu Holding, TTCL Public Company Ltd , Sinohydro Corporation and Myanmar-based Supreme Trading. ทั้งนี้โรงไฟฟ้าทั้ง 4 แห่งนี้จะสร้างขึ้นบริเวฯทางตะวันตกของรัฐยะไข่ และใน
เอกชนจี้ พพ.เดินหน้าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในหน่วยงานรัฐ หลังค้างกว่า 100 แห่ง เพราะรอแก้ไข พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯใหม่เปิดทางให้บริษัทจัดการพลังงานเข้ามาดำเนินการแทน พพ. ที่ต้องตั้งของบประมาณทุกปี คาดการลงทุนไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ประหยัดพลังงานได้ 3,000 ล้านบาท แหล่งข่าวจากภาคเอกชนเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตามที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้ดำเนินการโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์หรือติดตั้งเครื่องมืออื่น ๆ โดยใช้งบประมาณจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานในรูปแบบเงินให้เปล่านั้น ขณะนี้โครงการดังกล่าวได้หยุดดำเนินการชั่วคราว เนื่องจากการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างเดิม ทำให้ดำเนินการได้ล่าช้าเพราะติดขัดในเรื่องของกฎระเบียบต่าง ๆ โดยเฉพาะขั้นตอนการตั้งของบประมาณ ส่งผลให้มีโครงการค้างกว่า 100 แห่ง จากปัญหาดังกล่าว พพ.จึงว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อหาแนวทางแก้ไขให้โครงการเดินหน้าเร็ว ๆ ขึ้น ซึ่งแนวทางที่ได้มีการนำเสนอคือ ให้ภาคเอกชนอย่างเช่น บริษัทจัดการพลังงาน หรือ ESCO เข้ามาดำเนินการลงทุนแทน พพ.ตามแนวทา
รัฐกดราคาซื้อไฟ “โซลาร์รูฟท็อป” จากบ้านอยู่อาศัยต่ำสุดๆ 2.30-2.50 บาท/หน่วย เคาะซื้อโรงงานไม่ถึงบาท สวนทางราคาขายโขกไป 4.30 บาท/หน่วย สมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทยร้อง “ไม่แฟร์” ขอ “บิ๊กโย่ง” ทบทวนอัตราใหม่ ให้โซลาร์รูฟท็อปเสรีเป็นจริง ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ถึงความคืบหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาหรือ “โซลาร์รูฟท็อปเสรี” ว่า ในการประชุมร่วมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) ล่าสุดได้ข้อสรุปสำคัญของโครงการโซลาร์รูฟท็อปเสรีจะเน้นให้ผู้ติดตั้งใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้เอง เมื่อมีส่วนที่เหลือจึงจะจำหน่ายเข้าระบบ เมื่อที่ประชุมกำหนด “หลักการ” ข้างต้น ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าที่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)-การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) จะรับซื้อจากโครงการโซลาร์รูฟท็อปค่อนข้างมีราคาต่ำ โดยส่วนหนึ่งของการคำนวณราคารับซื้อได้อิงกับราคาค่าไฟฟ้าขายส่งของ กฟผ. และมีการแยกกลุ่มผู้ใช้ออกเป็น 3 กลุ่ม กำหนดราคารับซื้อแตกต่างกันคือ 1) บ้านอาศัยทั่วไปรับซื
บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการปี 2559 มีกำไรสุทธิ 4,138 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 2,075 ล้านบาท สะท้อนสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมย้ำแผนการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหลากหลายรูปแบบทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อขยายกำลังการผลิตให้ได้ถึง 4,300 เมกะวัตต์เทียบเท่า โดยมีพลังงานหมุนเวียนในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ภายในปี 2568 นายวรวุฒิ ลีนานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลประกอบการในปี 2559 ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของบ้านปู เพาเวอร์ฯ โดยกำไรสุทธิในปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากมีส่วนแบ่งกำไร เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าหงสาใน สปป.ลาว ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ครบทั้ง 3 หน่วย ตั้งแต่ช่วงปลาย ไตรมาสที่ 1 ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในประเทศจีนและญี่ปุ่นก็มีการดำเนินงานตามแผน โดยโครงการในประเทศจีนเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปทั้งหมด 3 โครงการ ในไตรมาสที่ 3 และเมื่อไตรมาสที่ 4 เราก็ประสบความส