ไม้ไผ่
อาชีพเกษตรกรรม ถือได้ว่าเป็นอาชีพหลักของคนไทยที่สืบทอดกันมาช้านาน จนทำให้เกิดงานอาชีพที่ใกล้เคียงและเสริมสร้างงานทางการเกษตรเกิดขึ้นมากมาย เช่น การทำปุ๋ย การทำเครื่องมืออุปกรณ์เพื่อใช้ในการเกษตร รวมถึงการทำภาชนะบรรจุผลผลิตทางการเกษตร เช่น “ก๋วย” หรือภาคกลางเรียกว่า “เข่ง” พบมากทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งผลิตก๋วยที่ใหญ่อีกแห่งหนึ่งในภาคเหนือ คุณวรรณ ยามเมาะ ชาวบ้านใหม่สามัคคี อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนยึดการสานก๋วยเป็นอาชีพเสริมภายหลังทำการเกษตร มากว่า 10 ปี โดยไม้ไผ่ที่นำมาสานก๋วยปลูกไว้เอง มีพันธุ์ไผ่บ้าน ไผ่ป่า และไผ่ซางป่า “ไม้ไผ่ ที่นำมาสานใช้ไม้ไผ่อายุประมาณ 1–5 ปี ขึ้นไป ที่สำคัญต้องเป็นไม้ไผ่สดเท่านั้น เนื่องจากถ้าเป็นไม้ไผ่แห้งจะหักง่าย จากนั้นนำไม้ไผ่มาตัดให้ได้ความยาว 1.62 เมตร หลังจากนั้น ใช้มือหรือเครื่องจักรผ่าไม้ไผ่ให้เป็นซีกๆ แล้วตัดส่วนที่เรียกว่า ตาไม้ทั้งตานอกและตาในให้หมด นำเข้าสู่เครื่องจักรเพื่อผ่าเป็นซีกให้เล็กๆ บางๆ เรียกว่า “ตอก” แล้วนำไปตากแดดประมาณ 1 วัน เพื่อให้ตอกแห้ง และป้องกันการเ
ภูมิปัญญาชาวบ้านใช้เศษไม้ไผ่เหลือใช้ ประดิษฐ์เป็นถ้วยใส่กาแฟร้อนเย็น รวมทั้งทำเป็นแก้วน้ำดื่ม ลดการใช้แก้วพลาสติก พร้อมช่วยลดขยะตกค้างย่อยสลายยาก จนกลายเป็นปัญหาในการกำจัดอยู่ในขณะนี้ ตำบลบุ่งหวาย อําเภอวารินชําราบ จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นแหล่งผลิตเฟอร์นิเจอร์จากไม้ไผ่ โดยชาวบ้านในตำบลนี้คุ้นเคยกับการนำไม้ไผ่มาผลิตเฟอร์นิเจอร์ ทั้งโต๊ะกินข้าว เก้าอี้ไม้ไผ่ แคร่ไม้ไผ่ใช้นอน จนเป็นที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักของผู้ต้องการได้เฟอร์นิเจอร์จากไม้ไผ่ในจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงมาสั่งซื้อไปใช้มานานหลายสิบปี ทำให้แต่ละปี มีเศษไม้ไผ่ที่ถูกนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์จำหน่ายถูกทิ้ง และนำไปทำเป็นถ่านจากไม้ไผ่ แต่เนื่องจากเนื้อไม้ของไม้ไผ่มีความเปราะบาง เนื้อไม่แน่นเท่ากับไม้ชนิดที่นำไปทำเป็นถ่าน ถ่านไม้ไผ่จึงไม่เป็นที่นิยมของตลาดเท่าไรนัก กระทั่ง คุณไพร ดาวประสงค์ อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้านวังยางนอก ตำบลบุ่งหวาย คิดนำเอาเศษไม้ไผ่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ถูกผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ทิ้งมาสร้างมูลค่า โดยประดิษฐ์เป็นถ้วยกาแฟร้อน-เย็น รวมทั้งแก้วน้ำใช้ดื่ม แทนการใช้แก้วพลาสติก หรือแก้วกระเบื้องที่มีราคาแ
แม้เวลาจะผ่านยุคสมัยมานานนับร้อยปีก็ตาม แต่การนำไม้ไผ่มาประดิษฐ์หรือแปรรูปเป็นสิ่งของเครื่องใช้ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ยังเป็นที่นิยมไม่เสื่อมคลาย ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะไผ่บางชนิดมีความแข็งแรงทนทาน มีรูปทรงสวยงามจึงเหมาะกับการนำไปใช้ประโยชน์ดังกล่าว อย่างที่หมู่บ้านดอนชาด ตำบลบุ่งหวาย อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นับเป็นแหล่งใหญ่ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์จากไผ่ รวมถึงยังเป็นแหล่งที่ริเริ่มการผลิตแปรรูปไม้ไผ่เป็นเฟอร์นิเจอร์มาเป็นเวลายาวนาน ทั้งนี้ ชื่อเสียงด้านคุณภาพการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่ของหมู่บ้านดอนชาดต่างเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายจนมีพ่อค้าเดินทางเข้ามาซื้อไปขาย ขณะเดียวกัน ด้วยฝีมืออันประณีต ไร้ตำหนิ จึงทำให้เจ้าของธุรกิจหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร รีสอร์ตต่างว่าจ้างให้ผลิตสิ่งของเครื่องใช้ จนทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหมู่บ้านโอท็อป ชาวบ้านในหมู่บ้านนี้มีรายได้หลักจากการทำเฟอร์นิเจอร์ไผ่กันทุกครัวเรือน คุณปวีณา คำเคนบัง หรือ คุณปลา เจ้าของร้าน “ปุ๊บปั๊บ เฟอร์นิเจอร์” หนึ่งในหลายร้านผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่ที่มีคุณภาพของหมู่บ้านดอนชาด เปิดเผยว่า เดิมอาชีพนี้พ่อ
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะประธานภาคีเครือข่ายกรุงเทพมหานครเพื่อดำเนินการฟื้นฟูและบำรุงรักษาทะเลกรุงเทพฯ เป็นประธานเปิด “โครงการปลูกป่าในใจคน ตามศาสตร์พระราชา” และเปิดเส้นทางศึกษาและชมธรรมชาติป่าชายเลนชายทะเลบางขุนเทียน พร้อมนำคณะผู้บริหาร กทม. ภาคีเครือข่าย ประชาชน และสื่อมวลชน ร่วมปลูกป่าชายเลนบนพื้นที่นำร่อง 10 ไร่ พล.ต.อ.อัศวินเปิดเผยว่า กทม.ได้เริ่มปลูกป่าชายเลนและปักไม้ไผ่เพื่อทำหลักกันคลื่นลมทะเลกัดเซาะมาเป็นระยะเวลา 5 เดือนแล้ว โดยปักไม้ไผ่ในลักษณะสลับสับหว่างคล้ายฟันปลา เพื่อให้น้ำทะเลพัดทรายเข้าไปอยู่ในแนวไม้ไผ่ ตามวิธีการที่เรียกว่า “ที-กรอยน์ธรรมชาติ” ต่อมาพบว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน บริเวณดังกล่าวมีพื้นดินหรือทรายสูงขึ้นประมาณ 30 เซนติเมตร (ซม.) และเชื่อว่าในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า จะมีพื้นดินเพิ่มขึ้นอีก 50 ซม. และในส่วนของการปลูกป่าชายเลนก็จะขยายบริเวณการปลูกต้นไม้ให้ได้ 1,000 ไร่ ในปีนี้ “ที่ผ่านมา ได้รับบริจาคต้นไม้จากทุกภาคส่วน ทั้งภาคีเครือข่ายรัฐและเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป ซึ่ง กทม.ไม่ได้บังคับว่าต้องบริ
คุณอาจจะเคยนั่งบนเก้าอี้ไม้ไผ่ สร้างสิ่งของจากไม้ไผ่ และอาจเคยกิน แต่รู้หรือไม่ว่า รถยนต์ของคุณอาจจะเป็นสิ่งต่อไปที่ได้รับประโยชน์จากไม้ไผ่ ถือเป็นหนึ่งในวัสดุธรรมชาติที่แข็งแกร่งที่สุด ในขณะที่การลงทุนในการวิจัยช่วยให้เราคิดค้นวัสดุใหม่ๆ เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ที่ทนทานเป็นพิเศษ และอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา วัสดุธรรมชาติก็เติบโตไปในเวลาเดียวกัน ในสวนหลังบ้านของเรานี่เอง “ไม้ไผ่เป็นสิ่งมหัศจรรย์” เจเน็ต ยิน หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมวัสดุ ศูนย์วิจัยและวิศวกรรมฟอร์ดหนานจิง กล่าว “มันแข็งแกร่งแต่ยืดหยุ่น สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และยังมีอยู่มากทั้งในประเทศจีน และพื้นที่อื่นๆ ในเอเชีย” ประโยชน์ของไม้ไผ่เป็นที่ยอมรับมานานกว่าศตวรรษ แม้แต่โธมัส เอดิสัน ก็ยังเคยทดลองใช้ไม้ไผ่ระหว่างการประดิษฐ์หลอดไฟหลอดแรกของโลกสำหรับภายในอาคาร ความทนทานจากแรงดึงของไม้ไผ่นั้น เทียบเท่าหรือเหนือกว่าเหล็กบางชนิดเสียอีก และเนื่องจากไม้ไผ่สามารถเติบโตถึงจุดเจริญเติบโตเต็มที่ได้ในระยะเวลาเพียง 2 ถึง 5 ปีเท่านั้น จึงถือว่าเติบโตใหม่ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับต้นไม้ชนิดอื่นที่ใช้เวลาหลายสิบปี ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เจเน็ตและที