www.เยียวยาเกษตรกร.com
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม – 21 กันยายน 2563 ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกร รวมทั้งสิ้น 113,106.495 ล้านบาท แบ่งเป็น งวดที่ 1 (เดือนพ.ค.) จำนวน 7,486,705 ราย จำนวนเงิน 37,433.525 ล้านบาท งวดที่ 2 (เดือนมิ.ย.) จำนวน 7,472,114 ราย จำนวนเงิน 37,360.570 ล้านบาท และ งวดที่ 3 (เดือนก.ค.) จำนวน 7,466,527 ราย จำนวนเงิน 37,322.635 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 ธ.ก.ส. ได้โอนเงินให้กลุ่มเกษตรกรที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้อย่างสมบูรณ์ เกษตรกรที่อุทธรณ์ รวมถึงกลุ่มเกษตรกรที่ไม่ได้รับสิทธิ์เงินช่วยเหลือภายใต้โครงการฯ งวดเดียว 15,000 บาท กลุ่มที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งสิ้น 979.765 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังมีเกษตรกรที่ไม่สามารถโอนเงินได้จำนวน 2,482 ราย เนื่องจากเกษตรกรยังไม่ได้มาแจ้งเลขบัญชีรับเงินโอน และกลุ่มเกษตรกรชุดที่ 2 อีกจำนวน 80,717 ราย หากเกษตร
ธ.ก.ส. แจ้งด่วน! ให้ผู้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์และแต่ยังไม่แจ้งเลขที่บัญชีอีกกว่า 139,000 ราย รีบเช็คข้อมูลและแจ้งเลขบัญชีผ่านเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com ภายในวันที่ 25 ก.ค. 63 เพื่อรับเงินโอนภายในเดือนกรกฎาคม 2563 นี้ โดยแจ้งบัญชีธนาคารใดก็ได้ ดีที่สุดคือบัญชีที่ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ด้วยขณะนี้ยังมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร รายละ 15,000 บาท จ่ายเดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน จากรัฐบาล ตามรายชื่อที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ส่งมาให้กับ ธ.ก.ส. ยังไม่พบบัญชีที่จะรับโอนเงินจํานวน 139,271 ราย ทําให้ ธ.ก.ส. ไม่สามารถโอนเงินเยียวยาให้ได้ ดังนั้น จึงขอให้เกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยา รีบแจ้งเลขที่บัญชีเงินฝากผ่านทาง เว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com ภายในวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 ทั้งนี้ จะเป็นบัญชีธนาคารใดก็ได้ ไม่จําเป็นต้องมาเปิดบัญชีใหม่กับ ธ.ก.ส. ซึ่งวิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดคือควรเป็นบัญชีที่ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชน ในส่วนของเด