ศ. เกียรติคุณ พล.ท.นพ. นพดล วรอุไร คณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) กล่าวในการสัมมนาการปฏิรูปสถาบันสู่การพัฒนาการเรียนการสอนสำหรับบุคลากรสุขภาพในศตวรรษที่ 21 ซึ่งสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มฟล. ร่วมกับองค์การอนามัยโลก และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาการศึกษาบุคลากรสุขภาพ จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ด้วยเจตนารมณ์ของ รศ.ดร. วันชัย ศิริชนะ อธิการบดี มฟล. ที่ต้องการสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในเรื่องปลูกป่า สร้างคน สร้างบุคลากรทุกระดับชั้น ทุกวิชาชีพ ให้เป็นคนดีมีคุณภาพ และต้องการยกระดับสุขภาวะของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ จึงจัดตั้งสำนักวิชาแพทยศาสตร์ขึ้น เพื่อผลิตบัณฑิตแพทย์ที่ช่วยเหลือชุมชนได้อย่างแท้จริง ส่งผลให้แนวทางการเรียนการสอนของทางสำนักแพทยศาสตร์ มฟล. เน้นความเป็นเวชศาสตร์ชุมชน พัฒนาสุขภาพชุมชน บัณฑิตแพทย์มีใจรักชุมชน ทั้งช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนแพทย์ในชนบท
คณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มฟล. กล่าวอีกว่า แนวทางต่อไปของสำนักแพทยศาสตร์ มฟล. คือการเปิดศูนย์การแพทย์ของมหาวิทยาลัยที่รับผู้ป่วยได้ 400 เตียง ในช่วงปลายปี 2560 โดยนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2-3 และกลุ่มสหวิชาชีพที่เกี่ยวข้องสามารถเรียนที่นี่ได้ทั้งหมด ทั้งนี้ ยังหวังให้เกิดความร่วมมือกับโรงพยาบาลชุมชนในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในจังหวัดเชียงราย รวมทั้งโรงพยาบาลในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบน ให้มาเป็นเครือข่ายกับมหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์และสหวิชาชีพที่เกี่ยวข้องให้เกิดการเรียนรู้ที่หลากหลาย นักศึกษามีโอกาสศึกษาและสัมผัสปัญหาสุขภาพประชาชนภาคเหนือตอนบนทั้งหมด
“จังหวัดเชียงรายมักมีกลุ่มชาติพันธุ์และคนต่างชาติข้ามพรมแดนเข้ามาพร้อมโรคที่เป็นปัญหา คนกลุ่มนี้จะมารักษาตัวที่อำเภอเชียงแสน และอำเภอแม่สาย บางโรคไม่เคยมีในประเทศไทย กลุ่มนักศึกษาแพทย์ของเราจะได้เรียนรู้ในเรื่องเหล่านี้ มฟล. จะมีบัณฑิตแพทย์จนเป็นรุ่นแรกในอีก 2 ปีข้างหน้า สำนักแพทยศาสตร์จะชักชวนให้มาทำงานต่อ ทำให้มีโอกาสย้อนไปเยี่ยมชุมชนที่เคยไปสมัยยังเป็นนักศึกษาและติดตามความก้าวหน้าในการดูแลผู้ป่วยในชุมชนหรือชาติพันธุ์ต่างๆ ได้ต่อเนื่อง” คณบดีสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มฟล. กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด