เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
News พืชทำเงิน

“หว้า” ต้นไม้พยากรณ์อากาศ ปีไหนฝนฟ้าจะแล้งหรือน้ำจะมาก

หว้า ชาวฮินดู เรียกว่า จามาน หรือ จามูน ชื่อภาษาอังกฤษคือ จัมโบลาน (Jambolan) เป็นพันธุ์ไม้พวกต้นชมพู่ มีมากทั้งในอินเดีย พม่า ไทย มาเลเซีย ตลอดจนฟิลิปปินส์ โดยมากหว้ามีผลเล็กสีม่วงดำ แต่ในบางแห่ง เช่น ฟิลิปปินส์ มีลูกเท่าไข่นกพิราบ ในพม่านั้น ต้นหว้าถือว่าเป็นไม้มงคลในเรื่องความสำเร็จและชัยชนะ ด้วยชื่อว่าชมพูทวีป หรือดินแดนแห่งไม้หว้านั้น เป็นแผ่นดินอันเป็นแดนกำเนิดของพระพุทธศาสนาและพระบรมศาสดานั่นเอง

ต้นหว้า เป็นต้นไม้ที่บอกว่า ปีไหนฝนฟ้าจะแล้งหรือน้ำจะมาก

ชมพูทวีป หมายถึง ประเทศอินเดียในปัจจุบัน สมัยพุทธกาลเรียกดินแดนแถบนี้ว่า ชมพูทวีป ชมพู แปลว่า ไม้หว้า 

ชมพูทวีปคือ ดินแดนแห่งไม้หว้า ปีไหนลูกหว้าออกลูกดก แสดงว่าปีนั้นฝนดี ปีไหนลูกหว้าไม่ดก แสดงว่าปีนั้นแล้ง คนอินเดียใช้ “ต้นหว้า” ในการพยากรณ์ฝนฟ้าเรื่องการเพาะปลูกมาแต่ครั้งพุทธกาล

หว้าเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าคือ ต้นหว้าเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าอยู่  2 เหตุการณ์ ได้แก่

1. ตอนตามเสด็จพระราชบิดา ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เมื่อครั้นเจ้าชายสิทธัตถะมีพระชนมายุ 8 ปี ได้เสด็จไปพร้อมกับพระเจ้าสุทโธทนะ พระราชบิดาในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เจ้าชายประทับนั่งอยู่ใต้ร่มไม้หว้าที่บรรดาพี่เลี้ยงบริวารได้จัดถวาย เพราะเห็นว่าภายใต้ร่มหว้านี้มีความร่มรื่นและปลอดภัย

ขณะที่เจ้าชายประทับนั่งขัดสมาธิอยู่เพียงลำพังภายใต้ร่มไม้หว้านั้น ทรงเกิดความวิเวกขึ้น ทรงกำหนดลมหายใจเข้า-ออก เป็นอารมณ์และก็ทรงบรรลุปฐมฌาน แม้เวลาบ่ายคล้อยแล้วแต่เงาไม้หว้ายังคงอยู่ที่เดิมดุจเวลาเที่ยงวัน ผู้คนต่างเห็นเป็นอัศจรรย์ ครั้นพระเจ้าสุทโธทนะทรงทราบและทอดพระเนตรเห็นดังนั้นก็เกิดความอัศจรรย์ในพระทัยและเกิดความเลื่อมใสก้มลงกราบพระโอรส เพื่อบูชาคุณธรรมทางบุญฤทธิ์ปาฏิหาริย์

2. ตอนพระพุทธเจ้าทรงแสดงปาฏิหาริย์ปราบทิฐิมานะชฎิล ชื่ออุรุเวลกัสสปะ ดังข้อความตอนหนึ่งที่กล่าวถึงต้นหว้าไว้ดังนี้…

ครั้นเมื่อถึงเวลาฉัน อุรุเวลกัสสปะได้ไปทูลพระพุทธเจ้าว่า ถึงเวลาแล้วมหาสมณะ ภัตตาหารเสร็จแล้วลำดับนั้นพระพุทธเจ้าทรงถือเอาโอกาสนั้นที่จะทรงแสดงปาฏิหาริย์ แล้วตรัสกับอุรุกัสสปะว่า “ดูกรกัสสปะ ท่านไปก่อนเถิด เราจักตามไป” 

พระผู้มีพระภาคทรงส่งชฎิลอุรุเวลกัสสปะไปแล้ว เสด็จไปยังต้นหว้าประจำชมพูทวีป ทรงเก็บผลหว้าประจำชมพูทวีปนั้น แล้วเสด็จกลับมาประทับนั่งในโรงบูชาเพลิงก่อนอุรุเวลกัสสปะ อุรุเวลกัสสปะเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับนั่งในโรงบูชาเพลิงก่อน รู้สึกแปลกใจจึงทูลถามพระพุทธเจ้าว่า “ข้าแต่มหาสมณะท่านมาทางไหน ข้าพเจ้ามาก่อนท่าน แต่ท่านมานั่งในโรงบูชาเพลิงก่อน (ข้าพระเจ้า)”

ลำดับนั้น พระพุทธเจ้าตรัสอุรุเวลกัสสปะว่า “ดูกรกัสสปะ เราส่งท่านไปแล้วได้เก็บผลหว้าจากต้นหว้าประจำชมพูทวีปแล้ว จึงมานั่งในโรงบูชาเพลิงนี้ก่อน ดูกรกัสสปะ ผลหว้านี้แลสมบูรณ์ด้วยสี กลิ่น และรส ถ้าท่านต้องการเชิญบริโภคเถิด”

อุรุเวลกัสสปะตอบว่า “อย่าเลย มหาสมณะท่านเก็บผลไม้นี้มา ท่านนั่นแหละจงฉันผลหว้านี้เถิด”

อุรุเวลกัสสปะคิดว่า “พระมหาสมณะมีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมากแท้ เพราะส่งเรามาก่อนแล้วยังเก็บผลหว้าจากต้นหว้าประจำชมพูทวีปแล้วมานั่งในโรงเพลิงก่อน แต่ยังไม่เป็นพระอรหันต์ เหมือนอย่างเราแน่”

1397206202

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :

ลำต้น ไม้ต้นสูง 10-25 เมตร เปลือกต้นค่อนข้างเรียบ สีน้ำตาล

ใบ ใบเดี่ยว ออกตรงข้าม แผ่นใบรูปรีหรือรูปไข่กลับ กว้าง 5-9 เซนติเมตร ยาว 9-15 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนมน มีจุดน้ำมันที่บริเวณขอบใบ

ดอก สีขาว ออกเป็นช่อตามง่ามใบ ออกที่ซอกใบหรือปลายยอด ฐานรองดอกเป็นรูปกรวย กลีบดอก 4 กลีบ เกสรตัวผู้มีจำนวนมาก ออกดอกและติดผลราวเดือนธันวาคม-มิถุนายน ผลอ่อนสีเขียว พอเริ่มแก่ออกสีชมพู สีม่วงแดงแล้วเปลี่ยนเป็นสีม่วงดำ รูปรีแกมรูปไข่ หรือรูปกระสวย สีม่วงแดง ฉ่ำน้ำ ผิวเรียบมัน ผลแก่ราวเดือนพฤษภาคม มีเมล็ด 1 เมล็ด รูปไข่

การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด

นิเวศวิทยา ถิ่นกำเนิดในเอเชียเขตร้อน อินเดีย พม่า มาเลเซีย และไทย ในไทยพบได้ทั่วไป โดยเฉพาะตามพื้นที่ชุ่มน้ำ ดินอุดมสมบูรณ์หรือพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำ ลำธาร หนอง คลอง บึง สามารถขึ้นได้ตั้งแต่ป่าดิบใกล้ทะเลขึ้นไปถึงเขาสูงไม่น้อยกว่า 800 เมตร

 

สรรพคุณทางสมุนไพร:

เปลือกและใบ ใช้ทำยาอม ยากวาดคอ แก้ปากเปื่อย ลิ้นและคอมีเม็ด

ใบและเมล็ด ใช้แก้บิด มูกเลือด ท้องเสีย นำใบและเมล็ดมาต้มกับน้ำ แล้วนำน้ำที่ได้มาใช้ในการชะล้างแผลเน่าเปื่อย หรือนำใบและเมล็ดมาตำแล้วใช้ทาแก้โรคผิวหนัง

เมล็ด ต้มหรือบด ใช้แก้เบาหวาน แก้บิด แก้ท้องร่วง ลดน้ำตาลในเลือด และใช้ถอนพิษ

ผลดิบ แก้ท้องเสีย

ผลสุก สีม่วงดำและมีรสเปรี้ยวฝาดอมหวาน ใช้ทำไวน์ได้ดี

ประโยชน์อื่น เนื้อไม้ใช้ทำสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในร่ม เครื่องเรือนและเครื่องมือการเกษตร ผลสุก น้ำจากผลหว้า เป็น 1 ใน 8 น้ำปานะ ที่พระพุทธองค์ทรงมีพุทธานุญาตแก่พระภิกษุ ส่วนผลสุกรับประทานได้ ใช้ทำเครื่องดื่ม ทำไวน์ ยอดอ่อนรับประทานเป็นผัก 

Related Posts