เป็นฟักทองพันธุ์ลูกผสม ผิวคางคก ผลขนาดเล็ก มีน้ำหนักประมาณ 0.8-1.2 กิโลกรัม เก็บเกี่ยวได้เร็ว ต้นแข็งแรง ผลดก เนื้อสีเหลืองสด รสชาติหวาน มันและยังมีเบต้าแคโรทีนสูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทำฟักทองสังขยา
แหล่งที่มา บริษัท เจียไต๋ จำกัด โทร. 02-0234990
MOST POPULAR
ใครจะคิดว่า “กะปิ” ของที่อยู่คู่ครัวไทย จะกลายเป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำ ไคโตซาน ธรรมชาติที่ใช้บำรุงพืช บำรุงดินได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ต้องเสียเงินซื้อไคโตซานราคาแพงอีกต่อไป วันนี้เราจะพาไปรู้จัก “ไคโตซานจากกะปิ” พร้อมสูตรทำเองง่ายๆ และวิธีใช้งานที่เห็นผลจริงในแปลงเกษตร ไคโตซาน (Chitosan) เป็นสารธรรมชาติที่ได้จากการสกัด “ไคติน” ซึ่งพบมากในเปลือกกุ้ง เปลือกปู หรือแม้แต่ใน “เคย” ที่ใช้ทำกะปิ เมื่อสกัดออกมาแล้วจะได้สารไคโตซานที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานของพืช ทำให้พืชแข็งแรง ต้านโรค ต้านแมลง และยังช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้ร่วนซุยอีกด้วย ประโยชน์ของไคโตซานจากกะปิ วิธีผลิตไคโตซานจากกะปิ ใช้ง่าย ทำเองได้ที่บ้าน วัสดุที่ต้องเตรียม ขั้นตอนการทำ วิธีใช้ไคโตซานจากกะปิ
หลายคนคงยังไม่รู้ว่าวานิลลาสามารถปลูกในประเทศไทยได้ เพราะวานิลลาเป็นไม้ร้อนชื้น โดยวานิลลาแปลงแรกๆ ที่ปลูกในไทยอยู่ที่ภาคเหนือ มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยโดยโครงการหลวง แต่ว่าเกษตรกรที่ปลูกและทำต่อมีน้อย สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากวานิลลาเป็นพืชที่ปลูกแล้วไม่สามารถนำมาทำกินได้ หรือขายเป็นฝักสดได้เลย แต่ต้องมีกระบวนการบ่มเป็นฝักแห้งก่อนถึงจะขายได้ จึงยังไม่เป็นที่นิยมสำหรับการปลูกสร้างรายได้ มีเพียงกลุ่มเฉพาะอย่างเช่นในวงการเชฟ ร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ ที่จะเข้าถึง คุณพาพร โตอินทร์ หรือ คุณกวาง เจ้าของสวนแม่หม่อน อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าเป็นแปลงแรกๆ ที่ปลูกวานิลลาในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว ที่ปลูกจนกระทั่งได้ผลผลิตเอง บ่มฝักเอง แปรรูปเอง จนสุดท้ายกลายเป็นไอศกรีมขาย มีที่นี่ที่เดียว คุณกวาง เล่าให้ฟังว่า ความตั้งใจแรกของสวนแม่หม่อน คือตั้งใจทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ย้อนไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว สวนแห่งนี้เริ่มต้นจากการปลูกหม่อน หรือมัลเบอร์รี่ แล้วตั้งใจทำเป็นสวนสำหรับการท่องเที่ยวไปในตัว เพราะด้วยพื้นที่ของสวนตั้งอยู่ในอำเภอวังน้ำเขียว ที่เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่อง
วานิลลา (Vanilla) เป็นหนึ่งในเครื่องเทศที่มีความหอมหวานและได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการผลิตน้ำหอมและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แม้ว่าในอดีตวานิลลาจะเป็นพืชที่พบมากในพื้นที่เขตร้อนของทวีปอเมริกา แต่ปัจจุบันวานิลลาสามารถปลูกได้ในประเทศไทย ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในสินค้าการเกษตรที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงและสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างมหาศาล เห็นฝักเล็กๆ แบบนี้ราคากิโลกรัมละ 20,000 บาท วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้าน จะพาไปทำความรู้จัก “เจ้าวานิลลา” ฝักจิ๋ว แต่ราคาไม่จิ๋ว เผลอๆ บางคนอาจจะไม่เคยเห็นด้วยซ้ำว่าแท้จริงแล้วหน้าตาของวานิลลานั้นเป็นยังไง ตามไปดูเรื่องราวกันได้เลย วานิลลาเป็นพืชในสกุลวานิลลา (Vanilla) ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับกล้วยไม้ (Orchidaceae) การได้ฝักวานิลลาต้องผ่านกระบวนการผลิตที่ใช้เวลานานเกือบหนึ่งปี ตั้งแต่ขั้นตอนการผสมเกสรไปจนถึงการบ่มฝักวานิลลา เพื่อให้เกิดสารวานิลลิน (Vanillin) ที่ให้กลิ่นหอม ซึ่งสารนี้มีการนำมาใช้ประโยชน์อย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม ความพิเศษของวานิลลาทำให้ราคาสูง ราคาของวานิลลาในท้องตลาดมักจะสูงกว่าพืชผลเกษตรอื่นๆ หลายเท่า ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยส
“ แรงบันดาลใจของเราคือ *การยกระดับแตงโมไทย* ให้กลายเป็นสินค้าหรูหรา (Luxury) ผ่านนวัตกรรมการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายที่ส่งตรงจากไร่สู่โต๊ะอาหาร (Farm to Table)เพื่อนำเสนอผ่าน Catering ระดับ High-End ตอบโจทย์ตลาดที่ต้องการสินค้าคุณภาพสูง และประสบการณ์ที่แตกต่าง ”คุณณิชชา แก้วสุริยา ประธานกรรมการ บริษัท ณิชชา ชามม์ จำกัดกล่าว “ ณิชชา ชามม์ (Nichcha Charm)”หนึ่งเดียวในประเทศไทยที่เป็นทั้งเกษตรกร ผู้ค้าส่ง และค้าปลีก โดยมีเครือข่ายเกษตรกรอยู่ทั่วประเทศไทยและเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม Watermelon Smart Farm ด้านการปลูกแตงโม ที่ผ่านดูแลอย่างใส่ใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ เพาะปลูก ด้วยนวัตกรรมที่ทำให้ผลผลิตได้คุณภาพ มาตรฐานตลอดฤดูกาล โดยไม่ใช้สารเคมีอันตรายทุกชนิด เก็บเกี่ยวด้วยความตั้งใจ เพื่อให้ได้ “แตงโมพรีเมียม คัดพิเศษ “ที่สด สะอาด ปลอดภัย และมีความหวานฉ่ำมากยิ่งขึ้นส่งตรงจากสวนถึงมือผู้บริโภคโดยตรง รวมทั้งสร้างแบรนด์แตงโมไทยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคคนไทยและต่างชาติได้อย่างมั่นคง เสิร์ฟความต่างด้วย แตงโมเกรดพรีเมียม ความสำเร็จของณิชชา ชามม์ ไม่ได้เกิดขึ้