นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในงานแถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนมกราคม 2561 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคมที่ผ่านมามีแนวโน้มสดใส จากการส่งออกที่เป็นพระเอก เนื่องจากขยายตัวสูงที่ระดับ 16.7% หรือขยายตัวสูงสุดในรอบ 62 เดือน สอดคล้องกับตัวเลขที่กระทรวงพาณิชย์รายงาน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวขยายตัวดีอย่างต่อเนื่องที่ 10.9% เมื่อเทียบกับมกราคม 2560 การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวดีในทุกหมวดการใช้จ่าย ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวตาม ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐก็มีสัญญาณการขยายตัวดี เช่น การเบิกจ่ายของกรมทางหลวงในช่วงต้นปี ขณะเดียวกันการลงทุนภาคเอกชนก็ขยายตัวเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2560
นายดอน กล่าวว่า ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.68% ชะลอลงตามราคาพลังงานและอาหารสด อัตราการว่างงานอยู่ระดับต่ำ ขณะเดียวกันดุลบัญชีเดินสะพัดก็เกินดุลตามรายรับจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว และดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลจากทั้งด้านสินทรัพย์และหนี้สิน
“ความผันผวนของค่าเงินบาทเดือนมกราคมอยู่ที่ 4% และในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ประมาณ 6% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับภูมิภาค และสำหรับทิศทางของเศรษฐกิจของปีนี้จะต้องรอดูการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือนกุมภาพันธ์ก่อน เนื่องจากเดือนมกราคมที่ผ่านมาเทศกาลตรุษจีนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวดี นอกจากนี้ ในส่วนของการปรับเป้าตัวเลขส่งออกจะต้องรอการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในครั้งถัดไปหรือในเดือนมีนาคมนี้ก่อน แต่คาดว่าการส่งออกปีนี้จะขยายตัวได้มากกว่า 4% อยู่พอสมควร” นายดอน กล่าว
นายดอน กล่าวว่า ส่วนการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้ง ในปีนี้นั้น สำหรับมุมมองของ ธปท. จะต้องรอประชุม กนง. ก่อน ขณะนี้ยังคงมองว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะทำให้มีแรงกดดันเรื่องเงินทุนไหลเข้า แต่จะเป็นผลดีกับค่าเงินบาท เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน