“ขนุนทองประเสริฐ” เป็นขนุนกลายพันธุ์ ของ “คุณยงยุทธ วงษ์วิราษฎร์” เกษตรกรชาวอำเภอแกลง จังหวัดระยอง ประมาณปี 2529 คุณยงยุทธ ได้นำเมล็ดของขนุนเนื้อดีจากจังหวัดยะลา จำนวน 20 เมล็ด มาเพาะขยายพันธุ์จนแตกต้นนำไปปลูก ปรากฏว่า ต้นขนุน 1 ใน 20 ต้น ที่นำมาปลูกได้กลายพันธุ์ และมีลักษณะเด่นคือ สามารถติดผลดีได้เรื่อยๆ ตลอดทั้งปี ผลมีขนาดใหญ่ น้ำหนักเฉลี่ย 10-15 กิโลกรัม ต่อผล เนื้อสุก มีสีเหลืองทอง เนื้อหนา รสชาติหวานกรอบอร่อยมาก คุณยงยุทธตั้งชื่อพันธุ์ใหม่ว่า “ขนุนทองประเสริฐ” พร้อมจำหน่ายกิ่งพันธุ์ให้แก่ผู้สนใจ ปัจจุบัน เกษตรกรนิยมปลูก “ขนุนทองประเสริฐ” เพื่อแกะเนื้อขายในประเทศ และส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ ซึ่งผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชีย ที่ชื่นขอบการบริโภคขนุนทองประเสริฐอย่างมาก
แหล่งที่มา : คุณมานพ รื่นรมย์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โทร. 081-744-9992
MOST POPULAR
ต้นขนุนเป็นพืชที่ออกผลบริเวณโคนต้นและโคนกิ่ง “การตอกลิ่มไม้ฝาง” เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ใช้บังคับให้ต้นขนุนออกผลตามตำแหน่งที่ต้องการ เริ่มจากเลือกต้นขนุนอายุ 3-5 ปี ที่พร้อมให้ผลผลิต จากนั้นเหลาแก่นฝางให้มีขนาดและรูปร่างเช่นเดียวกับไม้จิ้มฟัน ตอกทำมุมฉากกับเปลือกต้นขนุน เมื่อถึงเนื้อไม้ตอกต่อไปไม่ได้แล้ว ให้หักก้านส่วนที่เหลือทิ้ง ทารอยแผลด้วยปูนแดง ป้องกันเชื้อโรคไม่ให้เข้าไปตามรอยแผล วิธีตอกลิ่มไม้ฝางสามารถบังคับให้ขนุนออกดอกติดผลบริเวณดังกล่าวได้ แต่ไม่สามารถบังคับให้ออกผลได้ในเวลาจำกัด ต้องคอยจนถึงฤดูที่ให้ผลคือ ครบรอบของการติดผลเท่านั้น บางครั้งต้องใช้เวลาหลายเดือนก็มี คุณลุงไสว ศรียา ปราชญ์ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่องค์ความรู้ดังกล่าว ได้บอกกับผู้คนที่สนใจว่า วิธีตอกลิ่มไม้ฝางบังคับให้ขนุนออกผลนั้นเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ ก่อนหน้านี้ คุณลุงไสวเคยทดลองนำไม้ไผ่เสียบลูกชิ้น และไม้ชนิดอื่นๆ มาทดลองตอกต้นขนุน แต่ก็ไม่ได้ผลเหมือนกับการใช้แก่นฝาง สาเหตุที่แก่นไม้ฝางช่วยให้ขนุนติดลูกได้นั้น เกิดจากในไม้แก่นไม้ฝางมีสารชนิดห
ชะอม เป็นไม้ยืนต้นตระกูลถั่ว ที่มีอายุยืนนาน เป็นไม้เถาเลื้อย มีฝักเหมือนกระถิน เมล็ดนำมาปลูกได้ กิ่งอ่อน ยอดอ่อน ใบอ่อน มีกลิ่นหอมฉุนเฉพาะตัว และมีวิตามินเอสูง ยอดชะอมจัดเป็นอาหารประเภทผักที่มีคุณค่าอาหารสูงยิ่ง ทั้งวิตามินเอ โปรตีน และเยื่อใยที่ร่างกายต้องการ ตามลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมหรือไม่มีหนาม ใบเป็นใบประกอบขนาดเล็ก มีก้านใบแยกเป็นใบอยู่ 2 ทาง ลักษณะคล้ายใบกระถิน หรือใบส้มป่อย ต้นชะอมหากถูกเด็ดยอดจะแตกกิ่งข้างต้นหนาแน่น คุณดอกไม้ อินอ้น หรือ ป้าดอกไม้ วัย 78 ปี ที่ถือเป็นเกษตรกรที่เริ่มปลูกชะอมไร้หนามรายแรกๆ ของ อ.ตะพานหิน และเป็นประธานกลุ่มผู้ปลูกชะอมไร้หนามบ้านคลองข่อย บ้านเลขที่ 31/6 หมู่ 6 บ้านคลองข่อย ซอย 13 ต.ไผ่หลวง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร แหล่งปลูกชะอมพื้นที่ใหญ่แห่งหนึ่งของจังหวัดพิจิตร อยู่ที่อำเภอตะพานหิน ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการปลูกชะอมพันธุ์ไร้หนาม ดังคำขวัญของ อ.ตะพานหิน “ถิ่นชะอมไร้หนาม งามหลวงพ่อโต งานประเพณีกำฟ้า ทอผ้าป่าแดง” “ชะอม” หลายคนจะต้องนึกถึงเมนูอาหารที่แสนอร่อยจากผักพื้นบ้านชนิดนี้ที่มีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว อาทิ ชะอมชุบไข่ทอดกับน้ำพริกกะปิ แกงแคไก่อา
ดินที่ดีถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำเกษตรที่มีคุณภาพ ซึ่ง “แกลบหมัก” เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่เกษตรกรหลายคนเลือกใช้ในการบำรุงดิน เพราะไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความร่วนซุย ยังเสริมสร้างโครงสร้างดินให้แข็งแรง เพิ่มสารอาหารและความชุ่มชื้นให้กับพืชอย่างยาวนานอีกด้วย ทำความรู้จัก “แกลบดิบ” คืออะไร เป็นวัสดุเหลือทิ้งที่ได้จากกระบวนการสีข้าวเปลือกซึ่งทำให้เกิดเศษของเปลือกข้าวออกมา มีลักษณะสีเหลืองทอง สีเหลืองอ่อน สีน้ำตาลแดงขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ข้าว ในแกลบจะประกอบด้วยสารอินทรีย์ และซิลิกา ปริมาณสารอินทรีย์จะประกอบด้วยธาตุคาร์บอนประมาณร้อยละ 51 ออกซิเจนร้อยละ 42 ส่วนที่เหลือจะเป็นไฮโดรเจน และไนโตรเจน ส่วนซิลิกาจะพบมากบริเวณผิวนอกของแกลบจึงทำให้แกลบมีความแข็งสูงสามารถนำมาใช้เป็นวัสดุขัดผิวได้ แกลบหมักช่วยบำรุงอะไร? แกลบหมักเป็นผลผลิตจากการนำแกลบที่เหลือจากการสีข้าวไปหมักกับสารอินทรีย์ต่างๆ เช่น ปุ๋ยคอก เศษใบไม้ หรือแม้กระทั่งน้ำหมักชีวภาพ กระบวนการหมักนี้จะช่วยย่อยสลายแกลบให้เป็นอินทรียวัตถุที่มีประโยชน์ต่อดินมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะดินที่มีความแข็งกระด้าง หรือดินที่ขาดสารอาหาร แกลบหมักมีธาตุอาหารสำคัญ เช่น ไนโ
เมื่อสิบกว่าปีก่อน “พี่จอบ” วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ คอลัมนิสต์ชื่อดัง และ “พี่อ้อย” ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวาณิชย์ สองสามีภรรยาเริ่มรู้สึกว่าเมืองกรุงไม่น่าอยู่แล้ว พืชอาหารในท้องตลาดปัจจุบันมีสารอาหารน้อยกว่าเมื่อ 70 ปีก่อนหลายเท่า เกิดจากความเสื่อม ดินที่ปุ๋ยเคมีทำลาย ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อาหาร ทำให้คุณภาพสารอาหารลดลง “พี่จอบ” และ “พี่อ้อย” ตัดสินใจซื้อผืนนาแปลงหนึ่งที่ทุ่งน้ำนูนีนอย ในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดภัยเลี้ยงตัวเอง และแบ่งปันให้คนรอบข้าง เมื่อตั้งใจทำเกษตรอินทรีย์ ภาระกิจแรกคือ การฟื้นฟูผืนดินให้ปลอดภัยจากสารเคมี ก่อนจะลงมือปลูกพืชผลทางการเกษตรแบบอินทรีย์อย่างจริงจังกับชาวบ้าน ทุ่งน้ำและไร่นาเกษตรอินทรีย์นูนีนอยเป็นศูนย์ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับธรรมชาติ มุ่งอนุรักษ์ธรรมชาติให้อยู่รอดต่อไปถึงลูกหลาน ทุ่งน้ำนูนีนอยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำสร้างขึ้นใหม่ในปี 2561 ท่ามกลางนาระบบเหมืองฝายโบราณและปล่อยให้ธรรมชาติและสัตว์ป่าฟื้นตัวขึ้นมาเอง เพื่ออนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ผลิตอาหารแล้ว ทุ่งน้ำนูนีนอย ใช้วิธีบำบัดน้ำตามธรรมชาติ ด้วยการขุดบ่อน้ำหล