นายวณิชย์ อ่วมศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยภายหลังติดตาม พล.อ. สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช. ศธ.) ไปประเทศอิสราเอล เพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกปฏิบัติงานของนักศึกษาสาขาเกษตร ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ในกลุ่มวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ จำนวน 110 คน ว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยเด็กในโครงการนี้จะเรียนและฝึกปฏิบัติงานในฟาร์มของประเทศอิสราเอล เป็นระยะเวลาประมาณ 10-11 เดือน ซึ่งตลอดระยะเวลานี้เด็กจะได้รับการพัฒนาทักษะเกษตรชั้นสูง พัฒนาตัวเองในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงได้เรียนรู้วิธีการบริหารจัดการผลผลิตภายใต้โรงเรือน มีระเบียบวินัย และได้พื้นฐานการสื่อภาษาอังกฤษ เมื่อกลับมาเรียนอีก 1 ภาคเรียน และจบการศึกษาแล้ว จะได้รับวุฒิ ปวส. และใบประกาศนียบัตรดที่ได้รับการรับรองจากอิสราเอล ซึ่งจากการติดตามเด็กในโครงการนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พบว่า กว่าร้อยละ 50 สามารถประกอบอาชีพ รวมทั้งเป็นเจ้าของฟาร์มเองได้
เบื้องต้น พล.อ. สุรเชษฐ์ มีข้อสังเกต 4 เรื่อง 1. อยากให้ สอศ. พัฒนาภาษาอังกฤษให้เด็กมากยิ่งขึ้น เพราะแม้เด็กกลุ่มนี้จะผ่านการวัดทักษะด้านภาษาอังกฤษจากการสอบ TOEIC (Test of English for International Communication) แล้ว แต่เมื่อเดินทางไปอิสราเอลแล้ว กลับต้องใช้เวลาถึง 3 สัปดาห์ ในการปรับตัว 2. อยากให้เด็กกลุ่มนี้ได้กลับมาถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ หรือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเกษตรกร 3. การจัดการศึกษาสาขาเกษตร จำเป็นต้องสร้างแรงจูงใจให้ผู้ปกครองที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีความเชื่อมั่นว่าเมื่อส่งบุตรหลานมาเรียนเกษตรแล้ว ในอนาคตเด็กจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และ 4. อยากให้ วษท. ที่มีความพร้อมนำร่องโครงการพิเศษเพื่อสร้างเด็กเกษตรให้มีคุณภาพอย่างแท้จริง เพื่อออกไปเป็นแกนหลักให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งข้อสังเกตทั้งหมดนี้ สอศ. จะรับมาดำเนินการต่อไป
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด