“ต้น”ทรงศักดิ์ ชัยสมัคร ดาวดังร่างโย่งจากจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เริ่มต้นฝังวิถีฟุตบอลในเมืองหลวงกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ทีมดังย่านคลองเตยระดับตำนานของวงการฟุตบอล ความผูกพันหนึ่งทศวรรษในถิ่นคลองเตยจากการนำพาฝีมือตัวเองผ่านสายตาของ “สิงห์สนามศุภฯ” นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ ถูกขัดเกลาให้เป็นยอดนักเตะในเวลาต่อมาจนมีชื่อติดทีมชาติไทย 10ปี กับการเล่นฟุตบอลอาชีพพร้อมบรรจุงานในตำแหน่งพนักงานการสินค้าต่างประเทศยิ่งสร้างความเป็นปึกแผ่น

แต่เมื่อฟุตบอลอาชีพโตขึ้น สิ่งที่ทำให้ “ต้น”ทรงศักดิ์ ชัยสมัคร เลือกเดินคือความฝันของตัวเองนั่นคือการเล่นฟุตบอลอาชีพเต็มตัว เขาเลือกทิ้งเงินเดือนก้อนโตในอนาคตที่จะได้รับในหน้าที่การงานอันมั่นคงตกเดือนละ 6.5 หมื่นบาท แม้ว่าฟุตบอลอาชีพกับการก้าวออกไปจะการันตีรายได้เดือนละแสนเศษ แต่วิถีของนักฟุตบอลอาชีพอาจจะไม่มั่นคงเท่างานประจำ

เจ้าตัวเชื่อความฝันของตัวเอง ถนนแห่งความฝันของ ทรงศักดิ์ เปิดขึ้นอีกครั้ง แต่เส้นทางแห่งความวิบากในการต่อสู้เขารู้ด้วยตัวเขาเองว่าต้องเจอสารพัดสิ่งรอบตัวเองทั้งเรื่องของการแข่งขัน การดูแลสภาพร่างกายให้สมบูรณ์ ดาวเตะร่างโย่งรายนี้ประสบความสำเร็จกับการเลือกชีวิตด้วยการคว้าแชมป์กับสโมสร บุรีรัมย์ เอฟซี ด.1 ซึ่งก้าวต่อๆมาสโมสรฟุตบอลอาชีพก็หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสายทั้งการได้เซ็นสัญญากับ ปตท.ระยอง อุดรธานี เอฟซี และ จันทบุรี เอฟซี

เมื่อถึงโค้งสุดท้ายของการค้าแข้งการสูญเสียพี่ชายสุดที่รัก ทำให้ชีวิตฟุตบอลของเขาเปลี่ยนไปจากผู้เล่นเริ่มเรียนรู้การเป็นผู้ให้จากประสบการณ์ในวันวานทั้งการเป็นผู้เล่นระดับทีมชาติและการเล่นฟุตบอลอาชีพในสโมสร มันอาจจะเป็นโชคชะตาเล็กๆที่เกิดจากตัวเขาเองด้วยการหมั่นเพียรดูแลร่างกายตัวเองฝึกฝนให้เกิดความพร้อมอยู่เสมอ

ทุกเย็นจะไปฝึกซ้อมที่ ร.ร.บ้านสตึก มีเด็กๆเดินเข้ามาหาแต่ไม่รู้โปรไฟล์ในอดีตเขา สิ่งหนึ่งที่ทำให้เด็กเกิดความเชื่อมั่นในการเดินเข้ามาหาคือกรรมวิธีการฝึกซ้อมตอนนั้นทั้งเรื่องของการเดาะบอลเลี้ยงบอลพร้อมที่จะฝากอนาคตต่อยอดสู่ฟุตบอลอาชีพ ได้

จากสนามฟุตบอล ร.ร.บ้านสตึก ยุคแรกเริ่ม 3 คนกลายเป็น 10 คน ทรงศักดิ์ ชัยสมัคร เริ่มคิดในใจดังขึ้นว่าเขาอยากจะถ่ายทอดวิชาฟุตบอลที่เขามีให้เด็กๆต่างจังหวัดมีโอกาสได้เล่นฟุตบอลอาชีพและติดทีมชาติเพื่อเป็นโอกาสในการก้าวเดินของชีวิตรวมไปถึงความภาคภูมิใจของวงศ์ตระกูลอีกทั้งยังเป็นงานที่ท้าทายของตัวเองเมื่อกระโดดก้าวขึ้นมายืนในจุดนี้ สุดท้ายดาวเตะรายนี้เลือกที่จะเติมฝันของทุกคนด้วยการเปิดอะคาเดมี่สอนฟุตบอลเด็กๆภายใต้ชื่อ SC ACADEMY

แหล่งเพาะพันธุ์แข้งแห่งนี้เกิดจากความตั้งใจของเขาเอง ฝึกสอนที่สนามหญ้าเทียมฟาดแข้ง อ.พยัค สอนให้กับเด็กๆ 4 วัน ต่อสัปดาห์ พุธ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ นอกจากนั้นอีก 2 วัน อังคาร พฤหัสบดี ก็จะไปซ้อมสนามหญ้าจริงเพื่อให้เกิดความเคยชินกับสภาพต่างๆ โดยเจ้าตัวเน้นหนักในเรื่องของการสอนเทคนิคส่วนตัว การครองบอล เดาะบอล เคลื่อนที่ ที่สำคัญและเน้นที่สุดของการทำงานคือเรื่องของระเบียบวินัยทั้งในและนอกสนาม

แม้ว่าการฝึกสอนอาจจะมีมรมรสุมมาเล่นงานบ้างแต่ ทรงศักดิ์ และทีมงานสต๊าฟโค้ชก็ช่วยกันแก้ไขเพื่อให้ไอ้หนูนักเตะทั้ง 50 คน ก้าวเดินด้วยวิธีการของนักฟุตบอลที่ถูกต้อง รวมไปถึงการศึกษาเล่าเรียนงานด้านโค้ชอย่างจริงจัง ไล่ระดับตั้งแต่ระดับ Intro Course, Afc C-License อีกทั้งยังเสริมความเข้มข้นด้วยการเข้าอบรมจากหลักสูตรสโมสรต่างชาติชั้นนำในเมืองไทยอีกหลายรายการ

สิ่งที่ “ต้น”ทรงศักดิ์ ชัยสมัคร คาดหวังสำหรับการเดินบนถนนเส้นนี้คือการเดินหน้าสานฝันอนาคตของเด็กๆให้มีโอกาสก้าวสู่ถนนฟุตบอลสายอาชีพเลี้ยงดูตัวเองได้ รวมไปถึงการต่อยอดให้เด็กๆได้มีโอกาสก้าวไปรับใช้ทีมชาติ แต่สิ่งที่ไม่เคยลืมคือการสอนฟุตบอลให้กับเด็กๆด้วยวิธีการที่ถูกต้องเมื่อก้าวสู่เวทีสากลนักเตะทุกคนก็พร้อมที่จะเดินได้ต่อ ส่วนความฝันของตัวเองที่จะไม่ทิ้งและอยากเดินให้สุดคือการศึกษาวิชาโค้ชไปจนถึงระดับโปรไลเซนส์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน