"หินโคน อคาเดมี่" ศูนย์ฝึกรากหญ้า พลิกดินสู่ดาว

จากแนวคิดของกลุ่มคนไม่กี่คน ที่อยากเห็นลูกหลานในบ้านเกิด อย่าง บ้านหินโคน หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดสุรินทร์ร่วม 50 กิโลเมตร และห่างจากชายแดนไทย – กัมพูชา เพียง 23 กิโลเมตร ได้ฝึกทักษะฟุตบอลอย่างถูกต้อง ปัจจุบัน ฝันลมๆ แล้งๆ นั้นก่อให้เกิด ศูนย์ฝึกฟุตบอลหินโคน อคาเดมี่ ที่เริ่มส่งผลผลิตเข้าสู่ทำเนียบเยาวชนทีมชาติไทย โดยเฉพาะแข้งเยาวชนหญิงที่กลายเป็นสินค้าโอท็อปของศูนย์ฝึกรากหญ้าแห่งนี้

แม้จะอยู่ห่างไกล แต่ ศูนย์ฝึกฟุตบอลหินโคน อะคาเดมี่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ไม่เคยหยุดหวัง จากผืนนาของคุณพ่อ-คุณแม่ ว่าที่ร้อยตรีประเสริฐ ดาทอง ชายผู้อุทิศตนเพื่อเด็กๆ ได้แปรเปลี่ยนที่นาให้กลายมาเป็นสนามฟุตบอลเล็กๆ เพื่อเด็กๆ

“หินโคน อะคาเดมี่” มีจุดเริ่มต้นจากฝันของ ประเสริฐ ดาทอง ที่มีใจรักกีฬาตั้งแต่เด็ก แต่จำต้องเลือกเรียนวิชาช่าง ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ ตามทุนคุรุทายาทที่สอบได้ รวมถึงพวกพ้อง อย่าง “พี่ยุทธ” นายประยุทธ คงแรงดี อดีตสมาชิกอบต. และ นายฉันทพัฒน์ อินทรกำแหง อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหินโคน ที่ต่างมีหัวใจรักฟุตบอล จึงร่วมพูดคุยปรึกษาเมื่อราว 5 ปีที่แล้ว และเกิดเป็นศูนย์ฝึกแห่งนี้ เมื่อ 15 ธันวาคม 2555

จากสนามกีฬาโรงเรียนบ้านถนนชัย ที่รับผิดชอบพื้นที่ บ้านหินโคน, บ้านถนนชัย และ บ้านปะปูล กลุ่มผู้ร่วมก่อตั้ง ศูนย์ฝึกฟุตบอลหินโคน อคาเดมี่ ร่วมแรงร่วมใจ ผู้นำชุมชน และ พ.อ.อ.ประสิทธิ์ แดงดา บิดาของสองนักฟุตบอลทีมชาติไทย ธีรศิลป์ และ ธนีกาญจน์ แดงดา ปรับปรุงสนามให้เป็นฐานเริ่มแรกมาถึงปัจจุบัน

ถึงวันนี้ อะคาเดมี่บ้านนาแห่งนี้ ฝ่าฝันอุปสรรคและยืนหยัดส่งเด็กในคาถาเข้าสู่ทำเนียบทีมชาติ “มน” นิภาภรณ์ พันธ์ศรี และ “แน็ต” วราภรณ์ จงเกิดดี สองนักเรียนชั้น ม.6 ร.ร.โคกตะเคียนวิทยา ติดทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชุดชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. – 6 พ.ย. 59

ด้าน “ตอง” นันทนา สีละสาร นักเรียนชั้น ม.3 อีกหนึ่งเพชรเม็ดงาม ของ ครูเสริฐ ก้าวสู่ทำเนียบทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี แม้จะหลุดโผจาก 25 คนสุดท้าย แต่ก็ได้แสดงให้เห็นว่า พวกเธอมีศักยภาพ และพร้อมสู้ต่อเพื่ออนาคต ขณะที่แข้งเยาวชนชาย อย่าง “เจ้าทีม” ณรงค์วิทย์ ดาทอง ติดสโมสรไทยลีก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รุ่นยู-15 และ “เจ้าเทิด” เทิดศักดิ์ อิสระเสรี รุ่นยู-13 ศรีสะเกษ เอฟซี

ส่วนผลงานล่าสุดของ หินโคน อะคาเดมี่ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ร.ร.โคกตะเคียนวิทยา ภายใต้การบริหารงาน อย่างมีวิสัยทัศน์ของ ผอ.สุคนธ์ โสกรรณิตย์ ที่ส่งเสริมให้เด็กๆ ได้เล่าเรียนควบคู่การกีฬา ฝึกมารยาท และจริยธรรม จนเป็นที่ประทับใจของผู้คนที่พบเห็น นั่นคือ การคว้าแชมป์ ฟุตบอล นักเรียน นักศึกษาฯ จ.สุรินทร์ ประจำปี 2559 ทั้ง รุ่น 15 ปี ชาย และ รุ่น 18 ปี หญิง

ครูเสริฐ วัย 40 ปี ผู้เป็นแบบอย่างให้เด็ก ทั้ง 65 ชีวิตในแคมป์ เปิดใจว่า หินโคน อคาเดมี่ สามารถยืนหยัดมาเป็นเวลาเกือบ 5 ปี เพราะมี ผอ.ปรีชา สุทธิโฉม ที่ให้เด็กๆ ได้ใช้สนามโรงเรียนบ้านถนนชัย เป็นหนึ่งในสถานที่ฝึกซ้อม และผู้ใหญ่ใจดี อย่าง นายประภาส ศรีจันทร์เวียง นายอำเภอกาบเชิง, นายปภพ ขอไชย ปลัดอาวุโสอำเภอกาบเชิง, นายสิทธิชัย ทวีชัย หัวหน้าจัดการต้นน้ำห้วยโต่ง-ห้วยด่าน, “หมอเซน” นพ.สราวุธ เหล่าเจริญรักษ์ คุณหมอจิตอาสา รพ.อำเภอปราสาท และ นายประชม ทองนำ ประธานสภาเทศบาล ต.โคกตะเคียน คอยสนับสนุน

นอกจากนี้ยังมี พ.อ.จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ รองผบ.กรมทหารราบที่ 23 ที่รับหน้าเสื่อประธานกิตติมาศักดิ์ คอยดูแลทุก-สุขของทุกคน รวมถึง โครงการ “ช้าง ฟุตบอล ชุมชน” ที่นำโดย คุณสุวิทย์ ปรางจันทร์ ผู้จัดการโครงการ ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาฟุตบอลระดับรากหญ้าอย่างแท้จริง

จากครูสอนวิชาช่าง ร.ร.โคกตะเคียนวิทยา ปัจุจบัน อ.ประเสริฐ ดาทอง ผันตัวเองมาเป็นโค้ชสอนฟุตบอล จนผ่านการอบรม โค้ชระดับ ซีไลน์เซนส์ ของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) และจบหลักสูตร เอฟเวอร์ตัน เวย์ ที่ปลุกปั้น เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ นำความรู้มาถ่ายทอดให้ลูกศิษย์อย่างมีระบบ และเปิดคอร์สพิเศษ ทุกเสาร์-อาทิตย์ ให้เด็กจากทุกสาระทิศได้ฝึกฟุตบอล ตั้งแต่ 10.00-12.00 น. แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย

การเดินทางของ หินโคน อคาเดมี่ ยังอีกยาวไกล และยากจะบอกว่า พวกเขาจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่ ตอนนี้ สิ่งที่แสดงให้เห็นคือ การเป็นแหล่งเรียนรู้ และเป็นแหล่งฝึกศาสตร์ลูกหนังเมืองแขมร์ ที่พร้อมเป็นหิ่งห้อยใต้แสงจันทร์ ส่องแสงอันน้อยนิดนำทางลูกหลาน รวมถึงยังเป็นต้นแบบของการร่วมมือระดับชุมชน และหน่วยงานภาครัฐ ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคี ของผู้คนในพื้นที่

ก้าวต่อไปภายใต้การนำของ นายศักดิ์ศรี กองพร นักธุระกิจหนุ่มใหญ่ เจ้าของ บริษัท เอส เค ที 2012 เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้ประกอบและดูแลระบบโรงสีข้าว ที่เข้ามารับตำแหน่งประธานศูนย์ฝึกลูกหนังรากหญ้าแห่งนี้ พร้อมชาวบ้าน พ่อแม่ผู้ปกครอง ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงใดๆ นอกเหนือจากหัวใจ จำต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า “หินโคน อคาเดมี่” ดีพอที่จะยืนหยัดเพื่อลูกหลานต่อไป