“เดอะ แรบบิท” บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมแกร่งใน ศึกลูกหนัง ไทย ลีก ซึ่งกลายเป็น 1 ใน 4 สโมสรลูกหนังโลก ร่วมกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในลีก เอิง ฝรั่งเศส เชลซี แชมป์พรีเมียร์ลีกปีล่าสุด และ บาเยิร์น มิวนิค แชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี ที่จะได้ใช้เครื่อง GPS รุ่น “จีพี สปอร์ต อีโว”

ซึ่งเป็นเครื่องจีพีเอส รุ่นใหม่ล็อตแรกของโลก ในการวัดสมรรถภาพผู้เล่น เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกขุนพลลงสนาม โดยเป็นการอัพเกรดความไฮเทคของเครื่องมือวัดความฟิตนักเตะ ที่เป็นกำลังนิยมในบรรดาทีมฟุตบอลชั้นแนวหน้าของโลก

โดย บีจีเอฟซี จะเริ่มใช้ “จีพี สปอร์ต อีโว” ครั้งแรกในวันนี้ (27 มิ.ย.) ก่อนทีมจะยกพลไปเยือน ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ในศึกไทยลีก 2017 นัดกลางสัปดาห์ วันที่ 28 มิ.ย. ที่สนามมิตรผล สเตเดี้ยม

สำหรับเครื่อง GPS รุ่น “จีพี สปอร์ต อีโว” จัดนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ออกมาเป็นล็อตแรกของโลก มีคุณสมบัติแจ้งผลเร็วขึ้น พร้อมทั้งประมวลตัวแปรข้อมูลระดับแอดวานซ์แบบเรียลไทม์ ด้วยตัวโปรเซสเซอร์พลังสูงสุด และไม่มีผลต่อนักเตะเนื่องจากมีขนาดเล็กกว่าเดิมถึง 15 เปอร์เซนต์ และยังน้ำหนักเบาอีก 20 เปอร์เซนต์

ทั้งยังแสดงข้อมูลส่วนตัวผู้เล่นเพื่อช่วยในการวิเคราะห์โซนการเล่นแบบเรียลไทม์ และยังสามารถใช้เป็นเสื้อกล้ามติดตามการเต้นของหัวใจเชื่อมต่อเข้ากับตัวเสื้อได้อีกด้วย เนื่องจากตัวเครื่องมีความยืดหยุ่นเพื่อใหเข้ากับนักเตะมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่รวมโปรแกรม เดสก์ท็อป, เรียลไทม์ และ คลาวด์ ไว้ในตัวซอฟต์แวร์เดียวกัน อีกทั้งกำหนดหน้าแสดงข้อมูลที่ต้องการได้ล่วงหน้า รวมถึงแสดงข้อมูลทั้งแบบแมคโครและไมโครของทีมและนักเตะในหน้าเดียวกัน เพื่อหาความสัมพันธ์ของข้อมูลในแต่ละการซ้อม อีกทั้งยังค้นข้อมูลในอดีตได้อีกด้วย โดย แอนดริว ยัง โค้ชฟิตเนส บีจีเอฟซี เผยถึงเครื่องจีพีเอส รุ่น “จีพี สปอร์ต อีโว” ว่า

“เราเป็น 1 ใน 4 สโมสรฟุตบอล ที่มีโอกาสได้ใช้อุปกรณ์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ซึ่งอีก 3 สโมสรที่ใช้เครื่องมือนี้ได้แก่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, เชลซี และ บาเยิร์น มิวนิค โดยเป็น 4 ทีมที่ได้ใช้ล็อตแรกของโลก

ซึ่งรุ่นล่าสุดจะดีกว่ารุ่นเดิมตรงที่ขนาดเล็กกว่าเดิม สามารถวัดข้อมูลได้มากขึ้น และเมื่อเราทำการวิเคราะห์ข้อมูล จะใช้เวลาประมวลผลเร็วกว่าเดิม ซึ่งผู้เล่นแต่ละคนจะมีอุปกรณ์ GPS ติดอยู่ที่หลัง และตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะได้นำข้อมูลที่ได้มาดูว่าผู้เล่นวิ่งได้ระยะทางเท่าใด วิ่งสปรินท์กี่ครั้ง รวมถึงจังหวะการเร่งสปีดของแต่ละคน โดยที่สำคัญสุดคือ เครื่องมือนี้ จะช่วยสร้างความฟิตของนักกีฬาได้อย่างเต็มที่ในช่วงการฝึกซ้อม และช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บอีกด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน