กําลังเป็นประเด็นร้อนแรงสำหรับการล็อกผลการแข่งขัน หรือการ “ล้มบอล” ที่ทาง “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมมือกับ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงจับกุม 12 ผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการล้มบอลไปเมื่อ วันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา
โดยทั้งหมดเป็นผู้เล่น ผู้ตัดสิน นายทุน และผู้บริหารจากสโมสรในลีกสูงสุดทั้งสิ้น
ถือเป็นการ “เชือดไก่ให้ลิงดู” ชุดแรกที่นำความเสื่อมเสียมาสู่วงการฟุตบอลไทย นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าจะมี ผู้ร่วมขบวนการมากกว่าที่มีการกล่าวถึง
ในส่วนของลีกรองลงมาอย่างศึกยูโร่ โปรลีก ไทยลีก 3 และยูโร่เค้ก ไทยลีก 4 ตามที่ พล.ต.อ.สมยศ ระบุว่า อาจจะไม่มีเรื่องของการพนันเข้ามาเกี่ยวข้องมากนัก เนื่องจากบริษัทการพนัน หรือเว็บการพนันส่วนใหญ่ไม่มีการเปิดลีกล่างของไทยให้เสี่ยงโชคกัน แต่ก็ยังมีผลประโยชน์อื่นๆ อยู่อย่างเช่นอันดับในตาราง ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการที่สปอนเซอร์ต่างๆ จะเข้ามาสนับสนุน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวรงค์ ทิวทัศน์ เลขานุการฝ่ายจัดการแข่งขันไทยลีก เล่าให้ฟังว่า “เรื่องการพนัน และการล้มบอลในไทยลีก 3 และไทยลีก 4 ส่วนตัวเคยพบเหตุการณ์น่าสงสัย เป็นการแข่งขันเกมหนึ่งในไทยลีก 3 พบเห็นชายต่างชาติชาวฟิลิปปินส์ กำลังนั่งใช้สมอลทอล์กคล้ายบรรยายเกมการแข่งขันอยู่ข้างสนาม
ซึ่งมันผิดปกติตรงที่ศึกไทยลีก 3 ไม่น่าจะได้รับความสนใจขนาดต้องติดตามเกมตลอดทุกนาทีขนาดนี้ ยิ่งสำหรับแฟนบอลในต่างประเทศด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่
จึงได้ให้ตำรวจเรียกมาสอบสวน ซึ่งได้รับคำตอบว่าเป็นสื่อด้านสถิติของบริษัทหนึ่ง แต่เมื่อขอดูบัตรพนักงานก็ไม่มี ซึ่งถือว่าน่าสงสัยมาก อย่างไรก็ตามเรายังไม่มีหลักฐานว่าเขาทำแบบนั้นเพื่ออะไร จึงทำได้เพียงปล่อยตัวกลับไป
แต่ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ในสนามนั้นถ่ายรูป พร้อมสำเนาพาสปอร์ตไว้เป็นบุคคลที่พึงระวัง ซึ่งภายหลังก็ยังพบว่าบุคคลดังกล่าวยังกลับมาที่สนามเดิม และทำพฤติกรรมเดิมด้วย แต่ก็ทำได้แค่เชิญตัวมาสอบสวนและให้กลับไปเท่านั้น”
“หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้กลับไปหาข้อมูลและสืบทราบว่าปัจจุบันนี้เริ่มมีบางเว็บการพนันที่เปิดรับราคาต่อรองฟุตบอลไทยลีก 3 แล้ว จึงส่งเรื่องไปให้ พล.ต.อ.สมยศ ไว้เป็นข้อมูลว่าอาจจะมีผู้ที่ต้องการเข้ามาหาผลประโยชน์กับฟุตบอลไทยลีก 3 ในขณะนี้
ส่วนการล้มบอลเชิงกำหนดตารางคะแนนนั้นยังไม่มีการพบเจอ เพียงแต่มีหลายสโมสรร่วมกันร้องเรียนเข้ามา ว่ามีอยู่ทีมหนึ่งที่มักได้รับการตัดสินเข้าข้างแต่ก็ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน จึงแก้ปัญหาโดยการคัดเลือกผู้ตัดสินที่มีมาตรฐาน และผลงานดีที่สุดลงไปทำหน้าที่”
นายวรงค์ปิดท้ายด้วยว่า ถึงตรงนี้เหล่านักเตะ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มบอลทั้งที่ถูกจับและยังไม่ถูกจับคงอยู่ไม่สุขเป็นแน่ เรามีทั้งสปอร์ตเรดาร์ ของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ คอยสอดส่องและช่วยปราบปราม เชื่อว่าจากนี้วงการฟุตบอลไทย ไม่ว่าจะไทยลีก 3 ไทยลีก 4 หรือลีกอื่นๆ คงพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นโดยปราศจากสิ่งเลวร้ายพวกนี้
หวังว่าการแถลงจับกุมครั้งนี้จะสื่อไปถึงผู้ที่เคยกระทำ และคนที่กำลังคิดจะยุ่งเกี่ยวกับการล้มบอล หรือพนันบอลได้ตระหนักถึงผลลัพธ์ว่าสิ่งที่ได้มันไม่คุ้มกับอนาคตที่เสียไป
หากยังนึกภาพไม่ออก ก็ลองหันไปมอง “ไก่” ทั้ง 12 ตัวที่สมาคมและตำรวจเชือดให้ “ลิง” ดูเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน
