สัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีข่าวไหนใหญ่ไปกว่าเรื่องที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬา ฟุตบอลฯออกมาเปิดโปงขบวนการล็อกผลบอลในศึกไทยลีกฤดูกาลที่ผ่านมา

แฉสิ้นไส้ ทั้งวิธีการ จำนวนเงิน และผู้เข้าร่วมกระบวนการ อย่างที่รู้กันว่ามีทั้งนักเตะ ผู้บริหารสโมสร และผู้ตัดสินซึ่งกลุ่มหลังถูกมองว่าทำหน้าที่บกพร่องโดยไม่สุจริตมานานแล้ว

ผมติดตามจากโซเชี่ยล มีเดีย เห็นหลายคนที่อยู่ในวงการบอกว่ามันไม่น่าจะมีแค่นี้ และที่เอ่ยชื่อออกมาน่าจะเป็นเพียงแค่ปลาซิวปลาสร้อยมากกว่า ตัวใหญ่เป้งกว่านี้มีแน่ อยู่ที่ว่าจะสาวไปถึงแค่ไหน

เรื่องการเล่นแบบมีงานจะเรียกว่าล้มบอล หรือล็อกผลบอลมีอยู่คู่กับวงการฟุตบอลมานานแล้ว อยู่ที่ว่าจะจับได้ไล่ทันหรือเปล่าเท่านั้น

บางคนบอกไม่น่าออกมาให้ข่าวแบบนี้ เพราะทำให้ภาพลักษณ์ฟุตบอลไทยลีกที่เส้นกราฟความนิยมเริ่มหัวทิ่มลง มันจะกลายเป็นดำดิ่งจนกู่ไม่กลับ

มองกันว่า อนาคตฟุตบอลไทยก็จะย้อนไปเหมือนเมื่อสิบ-ยี่สิบปีก่อนหน้าโน้นที่คนเล่นมีมากกว่าคนดู สปอนเซอร์เมินหน้าหนี ไม่อยากเข้ามาร่วมสังฆกรรม ต้องเอาตลกมาเล่นก่อนบอลเตะเพื่อเรียกคนดู

ผมขอมองต่างซักนิดในเรื่องนี้ แน่นอนว่ามันกระทบกับภาพลักษณ์ของวงการฟุตบอลบ้านเราแน่ แต่ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ โดยไม่ทำอะไร มันก็จะยิ่งทำให้ตกต่ำลง พวกที่คิดไม่ซื่อก็จะกล้าทำไปเรื่อยๆ

มีข่าวออกมาอย่างนี้ ผมว่าเป็นการดีซะอีก ที่จะได้ทำให้คนพวกนี้ไม่กล้ามากไปกว่าเดิม ถ้าตัดวงจรอุบาทว์นี้ออกไปจากสังคมบอลไทยได้ ยิ่งต้องออกข่าวให้มาก

เพื่ออะไร? เพื่อให้ผู้สนับสนุนกล้า และมั่นใจว่าวงการนี้สะอาดพอในการที่จะเข้าไปหนุนหลังอย่างเต็มที่ เผลอๆ เม็ดเงินในการที่จะเข้ามาเป็นสปอนเซอร์อาจมากขึ้นกว่าเดิมก็ได้

บางคนบอกว่าต่างประเทศไม่เห็นต้องออกข่าวใหญ่โตซะขนาดนี้ เขาสืบทางลับแล้วก็แจ้งสโมสรต้นสังกัดเขี่ยออกไปให้พ้นทาง ซึ่งก็เห็นด้วยส่วนหนึ่ง แต่อยากให้เป็นหลังจากนี้ หลังจากบอลไทยกลับมาตั้งลำได้เต็มตัว

นาทีนี้มันต้องทำให้ภาพพจน์บอลไทยใสสะอาดเป็นที่ยอมรับก่อน แล้วหลังจากนั้นสิ่งดีๆ ก็จะตามมา…ย้ำว่าต้องลากตัวใหญ่มาประจานให้ได้ ความเชื่อมั่น ศรัทธา ในบอลไทยจึงจะร้อยเปอร์เซ็นต์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน