เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณท้องสนามหลวง มีเจ้าหน้าที่จาก กทม.เข้ารื้อเต็นท์โดยรอบท้องสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง เพื่อเตรียมพื้นที่ในการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งดำเนินการรื้อตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ภายหลังปิดการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

นอกจากนี้ ได้ปิดจุดคัดกรองทุกจุดและไม่ให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงรถยนต์สัญจรผ่าน ยกเว้นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน โดยยังคงปิดถนนบริเวณถนนราชดำเนินใน ตั้งแต่จุดคัดกรองพระแม่ธรณีบีบมวยผมจนถึงวงเวียน รด. และถนนหน้าพระธาตุ ตั้งแต่จุดคัดกรองหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนถึงถนนหน้าพระลานตลอดเส้น แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางมากราบพระบรมศพอยู่ด้านนอก โดยเฉพาะบริเวณข้างกำแพงพระบรมมหาราชวัง ฝั่งถนนมหาราช พบว่ามีดอกไม้และพวงมาลัยมาวางแสดงความอาลัยจำนวนมาก

นายวิบูลย์ การุณกิจ อายุ 65 ปี อดีตข้าราชการครู ซึ่งเดินทางมาจากย่านหนองแขม กล่าวว่า น้องสาวและครอบครัวเดินทางมาจาก จ.พัทลุง เพื่อขึ้นกราบพระบรมศพตั้งแต่เช้าเมื่อวาน แต่เมื่อมาถึงแถวยาวมาก ประกอบกับอดนอนเพื่อขับรถมาตลอดคืน คิดว่าคงไม่ได้เข้าแล้ว จึงพากันไปกราบถวายความอาลัยข้างกำแพงวัง และไปกราบพระเมรุมาศจำลองที่พระลานพระราชวังดุสิต แม้จะเสียดายมาก แต่ก็รู้สึกว่าหากใจมาแล้วเราก็ถือว่าได้กราบพระองค์แล้ว

นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ ตั้งใจไว้แล้วว่าจะตื่นมาใส่บาตรตอนเช้า ส่วนวันที่ 26 ต.ค. จะไปวางดอกไม้จันทน์ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม เพราะอายุมากแล้ว คงจะมาที่สนามหลวงไม่ไหว แต่ในการซ้อมใหญ่ริ้วบวนพระบรมราชอิสริยยศฯ ที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 21 ต.ค.นี้ คิดว่าจะมาชมให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะเราเป็นคนไทยเกิดในแผ่นดินรัชกาลที่ 9 ซึ่งตนได้เคยรับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของพระองค์ด้วย หากไม่มีก็คงไม่มีประเทศไทยในวันนี้ เราจึงต้องแสดงออกถึงความรัก และทำเป็นแบบอย่างให้ลูกหลานได้เห็น เพื่อให้เขาซึมซับ

ต่อมาเวลา 08.20 น. ที่บริเวณสนามหลวงฝั่งทิศเหนือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมปล่อยแถวจิตอาสาเราทำความดี ด้วยหัวใจ จำนวน 2,660 คน ที่มาร่วมทำความสะอาดและเก็บขยะโดยรอบบริเวณสนามหลวง ประกอบด้วย โรงเรียนวชิราวุธ โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย โรงเรียนจิตรลดา โรงเรียนนายร้อยตำรวจ โรงเรียนนายเรืออากาศ โรงเรียนนายร้อย จปร. รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนทั่วไป

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวกับจิตอาสาว่า ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ทำภารกิจอันสำคัญ ซึ่งตนก็เป็นหนึ่งในสมาชิกจิตอาสา อยากขอบคุณทุกคนที่มีจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยทำความดีด้วยหัวใจ ตามพระราชปณิธานของ ในหลวง รัชกาลที่ 10 ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนทำด้วยหัวใจบริสุทธิ์จริงๆ สิ่งที่เราทำในวันนี้ก็เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ขอให้ทุกคนสำนึกอยู่ตลอดเวลาว่า สิ่งที่เราทำเป็นการตอบแทนบุญคุณประเทศและทำเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ตั้งใจในการทำความดีครั้งนี้

ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ภายหลังอีกว่า วันนี้จิตอาสามาร่วมกันทำความวามสะอาดบริเวณรอบสนามหลวง ก่อนวันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งตนก็ได้มาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ สำหรับการรักษาความปลอดภัยก็ได้กำชับเป็นพิเศษมาโดยตลอด ตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่วนการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเป็นการซ้อมในพื้นที่จริงเป็นครั้งแรก เพื่อให้แม่นยำและถูกต้อง ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนว่าจะต้องปิดถนน เพื่อความสะดวกในการสัญจร หากพี่น้องประชาชนต้องการมาร่วมชมการซ้อม ขอให้อยู่ในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่จัดให้และฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

จากนั้นเวลา 09.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมาตรวจการทำความสะอาดบริเวณโดยรอบมณฑลพิธีท้องสนามหลวง หลังจากเสร็จสิ้นการเปิดให้กราบถวายบังคมพระบรมศพเบื้องหน้าพระโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเมื่อวานนี้

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า หลังจากที่ประชาชนคนสุดท้ายได้ออกจากประตูวังในเวลา 02.18 น. โดยมียอดประชาชนจำนวนมาก ทางกรุงเทพฯ ก็ได้เริ่มปรับปรุงพื้นที่ทันที โดยเริ่มรื้อถอนเต็นท์ที่ตั้งอยู่บนถนนก่อน จากนั้นทำความสะอาดพื้นที่ นำรถน้ำฉีดและกวาดพื้น เพื่อปรับพื้นที่สำหรับซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 7 ต.ค. เวลา 07.00 น.

หลังจากนั้นจึงเป็นการรื้อถอนตัวหนอนบทางเท้าไปไว้ที่พุทธมณฑลสาย 3 ก่อนที่สำนักสิ่งแวดล้อมจะปูหญ้าที่โคนต้นไม้ และประดับดอกไม้ต่อไป รวมถึงการเก็บรั้วและแผงต่างๆ ทั้งนี้การทำความสะอาดพื้นที่นั้น จะต้องทำให้เสร็จเรียบร้อยภายในคืนนี้ เพื่อรองรับการซ้อมริ้วขบวนฯ อาจจะยังเหลือส่วนของเต็นท์อาหารที่บริเวณหลังพระแม่ธรณีบีบหมวยผม ซึ่งเคยเป็นโรงทานบ้างเล็กน้อย โดยจะใช้เจ้าหน้าที่วันละ 2 ผลัด รวม 1,200 คน

“ในส่วนของการดูแลประชาชนนั้น พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา นับได้ว่าเจ้าหน้าที่ทั้งกรุงเทพฯ และตำรวจ ถือว่ามีประสบการณ์ในการดูแลประชาชนได้ดี เมื่อค่ำวานนี้จึงไม่มีปัญหาในการจัดการประชาชน สำหรับวันพรุ่งนี้ที่จะมีการซ้อมริ้วขบวนฯ นั้น อาจจะมีพื้นที่ให้ประชาชนได้เข้าชมไม่มากนัก อาจจะไม่สะดวกสำหรับประชาชน แต่หากอยากจะมาก็ขอประชาสัมพันธ์ให้แต่งกายสุภาพ และนำบัตรประชาชนติดตัวมาด้วย โดยเจ้าหน้าที่กทม.จะช่วยดูแลตลอด และมีรถสุขาคอยบริการ” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าว

ผู้ว่าฯกทม.กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา จากข่าวที่ว่ามีการโค่นต้นไม้ที่ป้อมมหากาฬนั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจดูแล้วพบว่าต้นไม้มีลักษณะผุเป็นโพรงด้านใน จึงได้โค่นทิ้งเนื่องจากอาจเป็นอันตราย และในพื้นที่ดังกล่าวได้ปรับเป็นพื้นที่โล่งสำหรับเป็นโรงครัว เพื่อประกอบอาหารให้กับเหล่าจิตอาสาในช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

ขณะที่สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 00.01 น. จนถึงเวลา 02.18 น. ของวันที่ 6 ต.ค. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 110,889 คน รวม 337 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.59 มีจำนวนทั้งสิ้น 12,739,531 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 7,016,818 บาท รวม 337 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 889,545,100.01 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน