ในหลวงเสด็จฯไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคตรัชกาลที่ 9 วันที่สอง ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายพสกนิกรที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จตลอด เส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน ต่างเปล่งเสียง ทรงพระเจริญดังกึกก้อง พร้อมหลั่งไหลร่วม ถวายพวงมาลัยดอกไม้เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ร.9 เป็นวันที่สี่ ข้าราชการชาวมหาสารคามและพสกนิกรชาวลำพูนตื้นตันใจที่ได้มากราบแม้จะเป็นเพียงด้านนอกกำแพงวัง สมเด็จพระเทพฯ ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศวันนี้ กอร.พระราชพิธี เผยจุดจัดแสดงมหรสพ 4 จุดรอบพระเมรุมาศในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ยึดตามแบบแผนประเพณีโบราณ อาทิ โขน หนังใหญ่ หุ่นหลวง หุ่นกระบอก 68 พระเมรุมาศจำลองแล้วเสร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ อีก 8 จังหวัดอยู่ระหว่างตกแต่งเล็กน้อย คาดเสร็จทันตามกำหนดวันนี้ ขณะที่ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ในทุกอำเภอแล้วเสร็จภายใน 20 ต.ค.

ร.10 โบกพระหัตถ์ทักทายปชช.

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. เวลา 10.33 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า สิริวัณณวรีนารีรัตน์ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันที่สอง โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ คุณพลอยไพลิน เจนเซน คุณสิริกิติยา เจนเซน พระธิดาใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระราชวงศ์ นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ผู้นำเหล่าทัพ เฝ้าฯ รับเสด็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า มีประชาชนมาจับจองพื้นที่รอเฝ้าฯ รับเสด็จ ที่หน้าประตูวิเศษไชยศรี ถนนหน้าพระลานจำนวนมาก แม้ว่าแดดจะร้อนประชาชนนำร่มมากางเพื่อให้ได้นั่งเฝ้าฯ รับเสด็จใกล้ที่สุด ระหว่างที่รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่านถนนหน้าพระลาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายพสกนิกรที่มารอเฝ้าฯ รับเสด็จ ขณะที่ประชาชนต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องด้วยความปลื้มปีติอย่างหาที่สุดมิได้

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมศพ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูปที่สวดพระพุทธมนต์แต่ วันก่อน ถวายพรพระจบ ทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ทั้งนั้นถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ออกจากพระที่นั่ง เจ้าพนักงานนิมนต์ พระสงฆ์อีก 89 รูปเท่าพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สวดมาติกา สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จพระราช ดำเนินกลับ

 

พสกนิกรหลั่งไหลถวายดอกไม้

ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาต ให้สำนักพระราชวังจัดทำซุ้มประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิเศษไชยศรี และประตูมณีนพรัตน์ เพื่อให้ประชาชนถวายสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นประจำ ทุกวัน เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้ามีประชาชนแต่งกายด้วยชุดสีดำสุภาพ เดินทางมาพร้อมพวงมาลัยดอกไม้กันอย่างต่อเนื่องและเพิ่มมากขึ้นตลอดทั้งวันเนื่องจากเป็น วันหยุดสุดสัปดาห์ โดยเป็นวันที่ 4 ที่เปิดให้ประชาชนถวายสักการะ เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเตรียมพานจำนวน 9 พาน เพื่อให้ประชาชนวางพวงมาลัยและดอกไม้สดถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์

ตื้นตันแม้กราบนอกกำแพงวัง

นายภาณุวัฒน์ โพนเงิน อายุ 59 ปี ข้าราชการ จ.มหาสารคาม เดินทางโดยรถโดยสารประจำทางมาเพียงลำพัง ด้วยความตั้งใจที่จะมาถวายพวงมาลัย เปิดเผยว่ายังไม่เคยมีโอกาสเข้ากราบสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังวันนี้นับเป็นความตื้นตันใจที่สุด ที่ได้เข้ามากราบพระองค์ แม้ว่าจะเป็นเพียงด้านนอกกำแพงวังก็ตาม ในวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงร.9 แล้ว ตั้งใจไว้ ว่าจะดูแลและช่วยเหลือประชาชนที่มาร่วม ในพระราชพิธีสำคัญที่พระเมรุมาศจำลอง หน้าศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม

ด้าน นางศรีพรรณ มาวินิจฉัย อายุ 62 ปี และนางสมจิต พงษ์สุราษฏร์ อายุ 69 ปี อาชีพค้าขาย พสกนิกรจาก จ.ลำพูน เดินทางมาถวายพวงมาลัยตั้งแต่เช้า นางศรีพรรณกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า ที่ผ่านมาร้องไห้ทุกวัน รู้สึกว้าเหว่ เพราะตั้งแต่เกิดมาก็เห็นในหลวง ร.9 มาตลอดพระชนม์ชีพ ยิ่งวันนี้มากราบใกล้ชิดก็รู้สึกตื้นตันใจมาก ในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ตั้งใจเป็นจิตอาสาด้วย

เผย 4 จุดมหรสพสมโภชราชพิธี

วันเดียวกัน เวลา 13.30 น. ที่กระทรวงกลาโหม กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (กอร.พระราชพิธีฯ) จัดแถลงเรื่องการแสดงมหรสพสมโภชในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และการดำเนินงานพระราชพิธีส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยมีนายเอนก อาจมังกร ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต และนายวิบูลย์ รัตนาภรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ร่วมแถลง

นายเอนกกล่าวว่า การแสดงมหรสพสมโภชในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สำนักงานสังคีต กรมศิลปากร ได้รับมอบหมายจากกรมศิลปากรให้จัดการแสดงตามแบบแผนประเพณีโบราณ โดย จัดขึ้น 4 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 เวทีบริเวณด้านทิศเหนือของสนามหลวง เป็นการแสดงหนังใหญ่ แบ่งออกเป็น 2 ชุดคือ หนังใหญ่เบิกหน้าพระ ชุดพากย์สามตระ และหนังใหญ่เบิกโรง ชุดจับลิงหัวค่ำ ต่อด้วยการแสดงโขนรามเกียรติ์ทั้ง 7 ชุด จุดที่ 2 เวทีการแสดงด้านทิศตะวันออกฝั่งศาลฎีกา เป็นการแสดงหุ่นหลวง หุ่นกระบอก การแสดงละครรำเรื่องพระมหาชนก ละครในเรื่องอิเหนาและละครเรื่องมโนห์รา จุดที่ 3 เวทีการแสดงด้าน ทิศตะวันตกฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นการแสดงของวงดุริยางค์สากล ?ธ คือ ดวงใจไทยทั่วหล้า? มีการขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รวมถึงการแสดงบัลเลต์ เรื่องมโนราห์ประกอบเพลงพระราชนิพนธ์ ทั้ง 3 เวทีจะแสดงรอบนอกพระเมรุมาศ เริ่มแสดงในช่วงเวลา 19.00 น. หลังจากถวายพระเพลิงในพระเมรุมาศเรียบร้อยแล้ว และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯกลับ ส่วนเวทีที่ 4 เป็นการแสดงในบริเวณพระเมรุมาศ จะเป็นการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระรามข้ามสมุทร และชุดตอนยกรบ รวมถึงการแสดงรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เริ่มเวลา 20.00 น. เมื่อการแสดงเวทีที่ 4 เริ่ม การแสดงด้านนอกทั้ง 3 เวทีจะหยุด การแสดงทันที ก่อนจะกลับมาแสดงอีกครั้งในเวลา 24.00 น.

เมรุมาศจำลองแล้วเสร็จ68จังหวัด

ด้านนายวิบูลย์กล่าวว่า การเตรียมงานพิธีถวายดอกไม้จันทน์ในส่วนภูมิภาค พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนาย ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กำชับมาโดยตลอด ในส่วนภูมิภาคจัดถูกต้องเรียบร้อยสวยงามสมพระเกียรติ สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลองทั้ง 76 แห่งเสร็จสมบูรณ์แล้ว 68 จังหวัด ส่วนที่เหลือ 8 จังหวัดอยู่ระหว่างการตกแต่งเพียงเล็กน้อย คาดว่าจะเสร็จทันตามกำหนดเวลาคือวันที่ 15 ต.ค. ขณะที่ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ขนาดกลาง 649 แห่ง และซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ขนาดเล็ก 153 แห่ง ที่กระจายอยู่ในทุกอำเภอ จะเสร็จภายในวันที่ 15 ต.ค. เช่นเดียวกัน ส่วนสถานที่เผาดอกไม้จันทน์หรือที่เรียกว่าพระจิตกาธานในส่วนภูมิภาค กำลังดำเนินการ 878 แห่ง แบ่งเป็นที่อยู่ใกล้พระเมรุมาศจำลอง 76 แห่ง พระจิตกาธานที่อยู่ตามซุ้มดอกไม้จันทน์อีก 802 แห่ง จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ต.ค.นี้

นายวิบูลย์กล่าวด้วยว่า การใช้โดรนในส่วนภูมิภาคจะต้องเป็นไปตามมติสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประกาศกระทรวงคมนาคม โดยจะต้องปฏิบัติเหมือนกับส่วนกลางทุกประการ โดรนจะต้องถูกต้องตามกฎหมาย ขึ้นทะเบียนถูกต้องและได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ ให้ทำการบิน ต่อข้อถามว่าในภูมิภาคจะใช้ หลักเกณฑ์เดียวกันกับส่วนกลางหรือไม่ที่ห้ามโดรนบินเข้าใกล้พระเมรุมาศจำลอง นายวิบูลย์กล่าวว่าในที่ประชุมใหญ่ให้ใช้ หลักการเดียวกัน แต่การซักซ้อมจะขอชี้แจงรายละเอียดก่อน จะแจ้งให้ทราบภายหลัง

ปิดถนน18สาย-ซ้อมริ้วขบวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ แจ้งปิดการจราจรเพื่อซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ริ้วขบวนที่ 1-3 ในวันที่ 15 ต.ค. โดยจะเริ่มปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 22.00 น. วันที่ 14 ต.ค. ใน 18 เส้นทาง ดังนี้ ถนนราชดำเนินใน ถนนสนามไชย ถนนหลักเมือง ถนนกัลยาณไมตรี ถนนเจริญกรุง ถนนพระพิพิธ ถนนท้ายวัง ถนนมหาราช (ข้างพระบรมมหาราชวัง) ถนนมหาราช (ข้างวัดพระมหาธาตุ) ถนนพระจันทร์ ถนนเศรษฐการ ถนนเชตุพน ถนนพระยาเพชร ถนนหน้าพระลาน ถนนหน้าพระธาตุ ถนนราชินี ถนนพระอาทิตย์ ซอยสราญรมย์ และเปิด ให้ประชาชนเข้าชื่นชมพระบารมีและแสดง ความจงรักภักดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 15 ต.ค. เวลา 05.00 น. โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงเพื่อผ่านจุดคัดกรอง เข้าบริเวณท้องสนามหลวง บริเวณท่าช้าง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พระแม่ธรณี บีบมวยผม ถนนกัลยาณไมตรี และถนนเจริญกรุง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1441

พระเทพฯเสด็จร่วมซ้อมริ้วขบวน

สำหรับการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระบรมศพ ในวันที่ 15 ต.ค. เป็นการซ้อมริ้วขบวนที่ 1-3 โดยริ้วขบวนที่ 1 เชิญพระบรมโกศพระบรมศพโดยพระยานมาศสามลำคานจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ไปยังพระมหาพิชัยราชรถหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ริ้วขบวนที่ 2 เชิญพระบรมโกศโดยพระมหาพิชัยราชรถไปยังพระเมรุมาศ และริ้วขบวนที่ 3 เชิญพระบรมโกศโดย ราชรถปืนใหญ่ เวียนรอบพระเมรุมาศ โดย อุตราวัฏ (เวียนซ้าย) 3 รอบแล้วเชิญพระบรมโกศประดิษฐานบนพระเมรุมาศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ มา ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระบรมศพ ในเวลา 07.00 น. ในวันที่ 15 ต.ค. และ วันที่ 21 ต.ค.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน