เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดศูนย์สื่อมวลชนงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว

นายออมสิน กล่าวว่า คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้จัดตั้งศูนย์สื่อมวลชนประกอบด้วย ศูนย์สื่อมวลชนศูนย์ถ่ายทอดวิทยุกระจายเสียง โดยกรมประชาสัมพันธ์ จะเป็นแม่ข่ายวิทยุถ่ายทอดไปยัง 5,000 สถานีทั่วประเทศ และศูนย์ถ่ายทอดวิทยุโทรทัศน์ โดยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเป็นแม่ข่ายในการถ่ายทอดไปยังสถานีโทรทัศน์ทุกช่องรวม ไปถึงโทรทัศน์ภาคภาษาอังกฤษ ส่งสัญญาณเผยแพร่ภาพและเสียงถ่ายทอดสดไปยัง 177 ประเทศทั่วโลก รวมถึงถ่ายทอดสดผ่านเว็บไซต์ www.kingrama9.th และเฟซบุ๊กของศูนย์ข่าวงานพระบรมศพ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศ รับชมงานพระราชพิธีครั้งนี้ได้ทั่วโลก

โดยศูนย์ดังกล่าวจะสามารถจุสื่อมวลชน 1,500 คน การจัดตั้งศูนย์ เพื่อความสะดวกจากหลายหน่วยงานและศูนย์จะติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานพร้อมให้บริการอาหารว่างเครื่องดื่มสำหรับผู้ปฏิบัติงาน โดยวันนี้จะเปิดเป็นวันแรก และจะเปิดให้บริการให้เต็มรูปแบบในช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ให้แก่สื่อมวลชนที่ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ผู้ที่สามารถเข้ามาใช้ได้ ต้องเป็นผู้มีบัตรแสดงตนเป็นสื่อมวลชนที่กรมประชาสัมพันธ์ออกให้เท่านั้น

น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า สำหรับดำเนินการถ่ายทอดและเชื่อมต่อ สำหรับการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สาย ได้ร่วมกันหลายหน่วยงานทำโดยในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะมีความสมบูรณ์ที่สุด โดยผู้ที่อยู่ในงานจะสามารถส่งสัญญาณได้อย่างครบถ้วนและมีความสมบูรณ์ที่สุด ทั้งบริเวณสนามหลวงและบริเวณที่จัดงานทั่วประเทศ

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตรวจจราจร กล่าวว่า การดูแลความปลอดภัยในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะเข้มงวด หากเข้ามาในพื้นที่ภายนอกจะมีจุดคัดกรองทั้งหมด 20 จุด และส่วนในพื้นที่ภายในมณฑลพิธีท้องสนามหลวง และบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวังนั้น จะมีจุดคัดกรอง 9 จุด โดยนอกจากจะแต่งกายอย่างเหมาะสม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจเข้มในเรื่องสิ่งผิดกฎหมาย

สำหรับการเดินทางมาโดยรถยนต์ มีจุดจอดรถยนต์ไว้ 13 แห่ง บริเวณรอบนอกกรุงเทพมหานคร สามารถรองรับรถยนต์ได้ทั้งหมด 30,000 คัน ได้แก่ ทิศเหนือ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เมืองทองธานี ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ สนามธูปะเตมีย์ และสโมสรตำรวจ

ทิศใต้ จัดไว้ที่พุทธมณฑล เซ็นทรัลศาลายา และเซ็นทรัลพระราม 2 ทิศตะวันออก เมกะบางนา ไบเทคบางนา และอิเกีย บางนา และทิศตะวันตก บริเวณ เซ็นทรัลเวสเกต บางบัวทอง ซึ่งใน 13 จุด จะมีจุดรับ-ส่งประชาชน โดยรถชัตเตอร์บัส ของขสมก. มาส่งบริเวณโดยรอบท้องสนามหลวง 5 จุด ได้แก่ สนามม้านางเลิ้ง บ้านมนังคศิลา สน.พระราชวัง แยกอรุณอัมรินทร์ และแยกวิสุทธิกษัตริย์ สำหรับประชาชนที่มาเป็นหมู่คณะ โดยรถบัส หรือรถตู้ สามารถจอดรถรับ-ส่ง บริเวณจุดที่จัดไว้ให้ 7 จุด คือ พุทธมณฑลสาย 1, 2, 3, 4 ถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก และแยกไฟฉาย

ส่วนการเดินทางมาโดยรถไฟ ทิศเหนือ เริ่มที่สถานีรถไฟ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทิศตะวันออก เริ่มตั้งแต่สถานีรถไฟฉะเชิงเทรา และทิศใต้ เริ่มที่สถานีรถไฟจังหวัดนครปฐม โดยขบวนรถไฟที่มาจากทิศเหนือและทิศตะวันออก จะมาสิ้นสุดที่สถานีรถไฟยมราช ส่วนทิศใต้จะสิ้นสุดที่สถานีรถไฟธนบุรี จากนั้นให้ประชาชนต่อรถชัตเตอร์บัสที่จัดไว้ให้ หรือถ้าหากมาลงที่สถานีธนบุรี สามารถนั่งเรือข้ามฟากมาได้ ขณะที่การเดินทางโดยเรือ จะแบ่งเป็นเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา ทิศเหนือ สิ้นสุดที่ท่าเรือปิ่นเกล้า ทิศใต้สิ้นสุดที่ท่าเรือยอดพิมาน ส่วนเส้นทางคลองแสนแสบ สิ้นสุดที่ท่าเรือสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ส่วนคลองผดุงกรุงเกษม สิ้นสุดที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เดินเท้าเข้ามาภายในท้องสนามหลวง โดยร่วมกระทรวงคมนาคมจัดทำป้ายบ่งบอกเส้นทาง ให้ข้อมูลกับประชาชนด้วย

นายเกรียงไกร จงเจริญ ผู้ช่วยปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เบื้องต้นจัดทำสถานที่ประกอบอาหารรอบบริเวณท้องสนามหลวง 22 แห่ง มีผู้สนับสนุน 59 ราย มีจุดบริหารอาหาร น้ำดื่ม 119 จุด มีรถสุขา 70 คัน สุขาเคลื่อนที่ 150 แห่ง คอยให้บริการประชาชน และมีกล้องซีซีทีวี รอบสนามหลวง 1,177 ตัว และรอบกรุงเทพมหานคร ครอบคลุมพื้นที่ 50 เขต จำนวน 53,115 ตัว
โดยในวันที่ 26 ต.ค. กรุงเทพมหานคร เตรียมติดตั้งจอแอลอีดีที่พระเมรุมาศจำลอง 1 แห่ง ขนาด 6×12 นิ้ว ติดตั้งจอโทรทัศน์ในวัดอีกประมาณ 62 แห่ง มีซุ้มวางดอกไม้จันทน์ 16 ซุ้ม

สำหรับสถานที่พักและพักค้างของประชาชน กรุงเทพมหานครเตรียมไว้รองรับได้จำนวน 100,000 คน ทั้งบริเวณโดยรอบเกาะรัตนโกสินทร์ และเขตพื้นที่ต่างๆ 27 เขต เตรียมวัด โรงเรียนหลายแห่งไว้รองรับ ในพื้นที่เขตดุสิต รองรับได้มากกว่า 30,000 คน เขตปทุมวัน รองรับได้ประมาณ 20,000 คน ส่วนผู้ที่มาจากต่างจังหวัดและพื้นที่รอบนอก สามารถเข้าพักได้สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง รองรับได้ 600 คน อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก รองรับได้ 30,000 คน ซึ่งกทม.ได้เตรียมสถานที่ โรงเรียน 127 แห่ง วัด 56 แห่ง และศูนย์เยาวชน โดยประชาชนสามารถเข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. ถึง 27 ต.ค. และประชาชนสามารถแจ้งความจำนงได้ที่สำนักงานเขตนั้นนั้นที่ตั้งอยู่ ไปส่วนดอกไม้จันทน์นั้น จำนวน 13 ล้านดอก จะนำส่งยังสถานที่ต่างๆ ทั้ง ซุ้มขนาดใหญ่ 1.5 แสนดอก ซุ้มขนาดกลาง 120,000 วัด 62 แห่งละ 80,000 ดอก

นายออมสิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์ดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานในการอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ อาทิ คอมพิวเตอร์ สัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่รองรับผู้ใช้ได้กว่า 1,500 คน พร้อมให้บริการอาหารว่างเครื่องดื่มสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ขณะนี้มีสื่อมวลชนลงทะเบียนทำบัตรแล้วกว่า 1,690 คน เป็นสื่อไทย 1,372 คน สื่อต่างประเทศ 318 คน จาก 86 สำนักข่าวทั่วโลก
โดยวันนี้จะเปิดเป็นวันแรกและจะให้บริการเต็มรูปแบบในช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ทั้งนี้ ผู้ที่จะสามารถเข้ามาใช้ศูนย์สื่อมวลชนได้จะต้องมีบัตรพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ที่กรมประชาสัมพันธ์ออกให้ หากไม่มี สามารถใช้บัตรกรมประชาสัมพันธ์ (บัตรสีม่วง) มาลงทะเบียนรับบัตรแบบใช้วันเดียว

“ในวันที่ 21 ต.ค.นี้ ซึ่งซ้อมใหญ่ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเสมือนจริง ทางศูนย์สื่อมวลชนจะทดสอบทุกระบบ แต่ไม่ได้ออนแอร์ ไม่ว่าจะเป็นระบบวิทยุ โทรทัศน์ ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว รวมทั้ง ระบบเสียง เพราะต้องการทดสอบเหมือนจริงว่าจะมีข้อบกพร่องหรือไม่ แต่คิดว่าไม่น่ามี อย่างไรก็ตาม หากพบข้อบกพร่อง เจ้าหน้าที่ก็จะเร่งแก้ไข นอกจากนี้ ทางศูนย์ฯสำรองระบบต่างๆไว้ อาทิ ระบบไฟฟ้า ระบบแสงสว่าง ระบบสัญญาณ เชื่อว่าการทดสอบจะผ่านไปได้อย่างเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในศูนย์สื่อมวลชนได้ติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ พริ้นเตอร์ พร้อมจุดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง พื้นที่แถลงข่าว และให้บริการอาหารว่างพร้อมเครื่องดื่มอาหารกลางวันและอาหารค่ำ อำนวยความสะดวกแก่สื่อมวลชนไทยและสื่อมวลชนต่างประเทศ โดยรองรับสื่อมวลชนได้กว่า 1,500 คน ตั้งแต่วันที่ 16-31ต.ค. ระหว่างเวลา 08.30-17.00 น. สำหรับช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งในวันที่ 25-29 ต.ค. ศูนย์สื่อมวลชนจะเปิดให้บริการแก่สื่อมวลชนที่ปฏิบัติงานตามหมายกำหนดการพระราชพิธี

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน