เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาต ให้สำนักพระราชวังจัดทำซุ้มประดิษฐาน พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ระหว่างประตูวิเศษไชยศรี และประตูมณีนพรัตน์ ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ประชาชนได้ถวายสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตลอดทั้งวันมีประชาชนแต่งกายด้วยชุดสีดำสุภาพ เดินทางมาพร้อมกับพวงมาลัยดอกไม้อย่างต่อเนื่องและเพิ่มมากขึ้น นับเป็นวันที่ 9 หลังจากเปิดให้ประชาชนได้ถวายสักการะ โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้เตรียมพานจำนวน 9 พานวางไว้เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อใช้สำหรับถวายพวงมาลัยและดอกไม้สด

นางประไพ สานุสันต์ และลูกชาย

โดยเจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กมากั้นตั้งแต่จุดคัดกรองบริเวณประตูท่าช้างจนถึงถนนหน้าศาลหลักเมือง เพื่อแบ่งเลนถนนให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เปิดจุดคัดกรองทั้ง 2 จุด ที่บริเวณ ประตูท่าช้าง และประตูคัดกรองริมคลองหลอดระหว่างถนนศาลหลักเมืองและกระทรวงกลาโหม

นายศุภชัย ศรีสวัสดิ์

นางประไพ สานุสันต์ อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาบุคคล พร้อมด้วยลูกชาย ด.ช.ศุภวิชญ์ สานุสันต์ อายุ 6 ปี ประชาชนย่านคลองเตย กรุงเทพฯ เดินทางมาพร้อมพวงมาลัยดอกไม้ ด้วยความตั้งใจที่จะมาถวายสักการะที่ซุ้มประดิษฐาน พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร.9 เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยลูกชายเคยเข้ากราบสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทมาแล้ว 1 ครั้ง และเมื่อทราบว่าทางสำนักพระราชวังเปิดให้ถวายสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ก็ตั้งใจมาใกล้พระองค์อีกครั้ง แม้จะเป็นเพียงกำแพงวัง ก็รู้สึกตื้นตันใจแล้ว

“ที่ผ่านมาบอกกับลูกเสมอว่า ในหลวง ร.9 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่คิดถึงประชาชน ช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน ทำให้มีคนรักและเทิดทูนพระองค์มาก และอยากให้ลูกได้รับรู้ในสิ่งที่พระองค์ท่านทำมาตลอด จึงได้พามาสัมผัสบรรยากาศในวันนี้ ส่วนตัวทำงานด้านช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ซึ่งในหลวง ร.9 ทรงส่งเสริมให้คนมีความเท่าเทียมกันในด้านการศึกษา ซึ่งเป็นต้นทุนเพื่อให้อยู่ในสังคมต่อไป และเราในฐานะประชาชนขอน้อมนำในสิ่งที่พระองค์ทำ ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองให้ดี ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ก็ตาม” นางประไพ เผยด้วยความตื้นตันใจ

นายศุภชัย ศรีสวัสดิ์ อายุ 53 ปี อาชีพนักธุรกิจ เดินทางมาพร้อมกับลูกสาวจากจังหวัดนนทบุรี กล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า เพิ่งจะมีโอกาสได้มาถวายสักการะเป็นครั้งแรก รู้สึกปีติมาก เพราะในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นต้นแบบในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านพระจริยวัตรและแนวทางการทรงงาน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่พสกนิกรชาวไทยทั่วทุกหัวระแหงบนแผ่นดินไทย ส่วนตัว ชื่นชอบและนำแนวทางเรื่องความอุตสาหะและความตั้งใจในการพัฒนาประเทศชาติของพระองค์ท่านมาใช้ในการดำเนินชีวิต ขณะเดียวกันในแง่ของการดำเนินธุรกิจนั้น ก็ยังคงยึดในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นต้นแบบอีกด้วย โดยเฉพาะในเรื่องความซื่อสัตย์ และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้ที่ด้อยกว่า รวมถึงการไม่เอาเปรียบคู่ค้า

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน