เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนนับแสนคนหลั่งไหลเดินทางมาร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยทยอยผ่านจุดคัดกรอง 9 จุด คือแยกสะพานมอญ, ท่าช้าง, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, พระแม่ธรณีบีบมวยผม, ถนนกัลญาณไมตรี, แยกสะพานช้างโรงสี, แยกพระเชตุพน, แยกท่าพระจันทร์ และใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปิดจุดคัดกรองในเวลา 06.00 น. โดยมีประชาชนเข้าพื้นที่แล้วประมาณ 110,000 คน

ส่วนบรรยากาศที่บริเวณถนนราชดำเนินกลาง ประชาชนยังคงทยอยเดินทางเข้ามาในพื้นที่สนามหลวงอย่างเนืองแน่น เพื่อจับจองพื้นที่ที่ใกล้ที่สุดแม้จะเข้าไปในส่วนพระราชพิธีไม่ได้ก็ตาม โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมงในการเดินเข้ามาพื้นที่ด้านใน แม้จะไม่สามารถหาที่นั่งได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่ย่อท้อ โดยระบุว่าขอพยายามเดินเข้าไปให้ใกล้สนามหลวงมากที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศก่อนริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเคลื่อนผ่าน มีประชาชนมาเฝ้าชมตลอด 2 ข้างฝั่งบริเวณฟุตปาธเป็นจำนวนมาก ทั้งถนนมหาราช ถนนท้ายวัง ถนนสนามไชย หน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ถนนสนามไชย เข้าสู่ถนนราชดำเนินใน โดยประชาชนทุกต่างใส่เสื้อสีดำสุภาพ อยู่ในอาการสำรวม มีใบหน้าที่เศร้าหมอง แต่มีกำลังใจที่มุ่งมั่นเพื่อจะเข้าร่วมในพิธีประวัติศาสตร์เพื่อส่งเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้ออกมา แม้แดดจะร้อนแต่ก็ไม่ย้อท้อ ขอเพียงให้ได้อยู่ใกล้ชิดริ้วขบวน และเมื่อริ้วขบวนเคลื่อนผ่านหรือใกล้เข้ามาต่างชูภาพพระบรมฉายาลักษณ์ไว้เหนือศีรษะ บ้างถือไว้แนบอก บางคนก้มกราบแนบพื้นน้ำตาคลอ และยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพประวัติศาสตร์ที่ทุกคนจะไม่มีวันลืมเก็บไว้

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวขอบคุณประชาชน ที่เข้ามายังพื้นที่ชั้นในพระราชพิธีฯ ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนทำให้ทุกอย่างผ่านไปเรียบร้อยด้วยดี โดยมีประชาชนเข้าอยู่ในพื้นที่ฉันในจุดคัดกรองถึง 150,000 คน และยังมีประชาชนที่ไม่สามารถเข้ามายังจุดคัดกรองได้จำนวน 200,000 คน ซึ่งอาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวก สบายเท่าใดนัก และบางอาจใองเห็นพระราชพิธีไม่ชัดเจน แต่ทุกคนก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางมาส่งเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน