เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศโดยรอบท้องสนามหลวง บริเวณจุดวางดอกไม้จันทน์ หน้ากองสลากเก่า มีประชาชนบางส่วนปักหลักและทยอยเดินทางมาชมชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 4 เชิญพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยาน และเชิญพระบรมราชสรีรางคารโดยพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย จากพระเมรุมาศเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง โดยมีเจ้าหน้าที่และจิตอาสาคอยอำนวยความสะดวกและดูแลประชาชนอยู่ตลอด
ทั้งนี้ ประชาชนบางส่วนได้รับชมการถ่ายทอดสดพระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิ ผ่านจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ โดยนางประยูล บำรุงรัตน์ อายุ 63 ปี ซึ่งกำลังนั่งชมการถ่ายทอดสดพระราชพิธี อยู่กับสามีชื่อนายอุดม บำรุงรัตน์ อายุ 70 ปี เปิดเผยว่า ตนและสามีเป็นคนชุมพร เดินทางมาท้องสนามหลวงเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ด้วยรถไฟ พร้อมทั้งเตรียมข้าวเหนียวและข้าวกวนหลายกิโลกรัมมาแบ่งปันให้กับคนที่ท้องสนามหลวงด้วย
นางประยูล กล่าวว่า เมื่อตนมาถึงกรุงเทพฯที่สถานีรถไฟธนบุรีในเวลากลางคืน ซึ่งไม่มีรถรับส่งเลย ตนจึงตัดสินใจเดินเท้ามายังสนามหลวงพร้อมสามี ซึ่งปกติร่างกายของตนไม่ค่อยแข็งแรงมากนัก เมื่อเดินนาน ๆ ก็จะปวดขา ปวดหลัง แต่ด้วยจิตใจของตนมุ่งมั่นที่จะมาหาในหลวงรัชกาลที่ 9 ตนจึงพยายามเดินมาให้ถึงสนามหลวงพร้อมกับสามี เมื่อมาถึงก็เห็นว่ามีประชาชนจำนวนมากที่เฝ้ารอเพื่อเข้าไปยังงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
นางประยูล กล่าวต่อว่า ตนจึงคิดว่าคงเข้าไปไม่ถึง จึงพยายามเดินไปให้ใกล้ที่สุดเท่าที่จะใกล้ได้ อย่างน้อยได้เห็นเพียงยอดของพระเมรุมาศก็ยังดี สำหรับความรู้สึกแรกเมื่อตนเดินทางมาถึงที่นี่ ตนสัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าเสียใจของคนไทย ตนก็รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง แต่ในความเสียใจก็รู้สึกปีติยินดี ที่เห็นคนไทยมีหัวใจดวงเดียวกัน มีพ่อหลวงคนเดียวกัน เห็นทุกคนรักและสามัคคี ทำจิตอาสา แจกของให้กับประชาชนที่มาเฝ้ารอเหมือนกับตน ตนจึงนำข้าวเหนียว ข้าวกวนที่เตรียมมาแจกจ่ายให้กับประชาชนใกล้เคียงจนหมด
“ตนประกอบอาชีพเกษตรกร มีสวนเป็นของตนเองด้วยเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ตนนำพระราชดำริการทำทฤษฎีเกษตรแบบผสมผสาน ตามพระราชดำริในหลวง รัชกาลที่ 9 มาปรับใช้กับสวนของตน ซึ่งมีทั้งบ่อเลี้ยงปลา ปลูกผลไม้ เช่น เงาะ ทุเรียน มังคุดเป็นต้น ทำให้ตนและสามีมีรายได้เพิ่มมากขึ้น รู้จักกินอยู่อย่างพอเพียง คำสอนของพระองค์ท่านทำให้ชีวิตของประชาชนดีขึ้น ตนเห็นถึงความพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่านได้อย่างชัดเจน ทุกสิ่งที่อยู่ในสวนมีระบบนิเวศน์ที่ช่วยเหลือกัน ซึ่งตนยึดคำสอนของพระองค์ท่านมาโดยตลอด” นางประยูล กล่าว
