วันที่ 28 ตุลาคม 2560 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบคุณซี หรือ นายอนุวัฒน์ หมันเส็น อายุ 23 ปี ช่างภาพอิสระและนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 7 ตำบลย่านซื่อ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล (คนจังหวัดสตูล) ขณะกำลังจับกล้องถ่ายภาพคนกำลังชมดอกดาวเรืองบริเวณด้านหน้าพระเมรุมาศจำลอง ณ ศาลากลางจังหวัดสตูล โดยคุณซี คือช่างภาพที่ได้ถ่ายภาพ หญิงตั้งครรภ์ยืนกลางสายฝนเพื่อรอถวายดอกไม้จันทน์เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา กลายเป็นภาพประทับใจใครหลายๆคน

นายอนุวัฒน์ หมันเส็น อายุ 23 ปี ช่างภาพอิสระ เล่าให้ฟังว่า เห็นผู้หญิงตั้งครรภ์ยืนรอเข้าแถวเพื่อถวายดอกไม้จันทน์ และนาทีนั้น ฝนก็ตกลงมาแรงมากเกือบๆ ชั่วโมงได้ ซึ่งผู้หญิงตั้งครรภ์ได้เอามือข้างซ้ายโอบท้องและมือข้างขวาถือดอกไม้จันทน์แนบกับอกและสีหน้าแววตาก้มมองที่ท้อง โดยตนเองก็จับกล้องถ่ายภาพไปที่ผู้หญิงคนนั้น แม้ฝนจะตก น้ำฝนจะกระเด็นมาที่กล้องและตัวตนเองเปียกฝนก็ไม่หยุด ยังคงถ่ายภาพออกมาได้

เมื่อเสร็จงานพระราชพิธี ตนเองก็กลับบ้านมาคัดรูปถ่ายเพื่อจะส่งเข้าไปกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และเห็นภาพที่ตนเองถ่ายหญิงตั้งครรภ์ยืนกลางสายฝนเพื่อรอถวายดอกไม้จันทน์แล้วเกิดความประทับใจและภาพนี้สื่อออกมาได้อารมณ์ที่สื่อถึงความจงรักภักดี จากนั้นก็คิดอีกอย่างว่า อยากส่งมอบภาพถ่ายให้บุคคลในภาพโดยตนเองก็ไม่รู้จักว่าเป็นใคร มาจากไหน จากนั้นจึงนำไปโพสต์เฟซบุ๊กชื่อว่า “เจ้าชาย ลัลลา” เพื่อตามหาบุคคลในภาพดังกล่าว

นายอนุวัฒน์ หมันเส็น ได้เล่าอีกว่า หลังจากการโพสต์ภาพดังกล่าวมีคนติดตามเข้ามากดไลก์ กดแชร์และคอมเม้นต์ในความคิดมุมมองที่ดีและชื่นชมการถ่ายภาพจำนวนมากและมีเฟซบุ๊กที่ไม่รู้จักมาติดตามและเป็นเพื่อนเยอะทีเดียวเพียงข้ามคืนหลังจากโพสต์ภาพ จากนั้นบุคคลในภาพ หญิงตั้งครรภ์ได้ติดต่อเข้ามาว่า ภาพดังกล่าวเป็นตนเองและขอขอบคุณที่ได้ถ่ายภาพตนเองไว้ โดยน้องซีได้ถามความรู้สึก บุคคลดังกล่าวในภาพ ทราบว่า ชื่อ นางสาวเปมิกา เสียงอ่อน เป็นคุณครูสอนอยู่โรงเรียนบ้านฉลุง ตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

โดยนางสาวเปมิกา เล่าความรู้สึกให้ฟังว่า ช่วงที่จะเข้าไปวางดอกไม้จันทน์ ตนเองยืนรอนานประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าๆ เพราะคนเยอะและแน่น จากนั้นฝนโปรยลงมาอย่างหนัก แต่คนเองก็ไม่คิดจะเข้าไปหลบฝนเพราะเราตั้งใจมาในวันนี้ จากนั้นก็เอามือข้างซ้ายโอบลงบนท้องที่มีครรภ์และพูดเบาๆออกมาว่า “ลูกจ๋าวันนี้แม่มาอำลาพ่อของพวกเราเป็นครั้งสุดท้ายนะลูก”

นายอนุวัฒน์ ยังบอกอีกว่า “ผมมองพี่ผู้หญิงมายืนรอนานด้วยสภาพอากาศฝนที่ตกหนัก กลัวเขาจะไม่ไหว และกลัวว่าจะลื่นล้มและเป็นลมได้ จากนั้นพี่เขาก็ขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ ซึ่งหากจะตั้งชื่อภาพนี้โดยภาพนี้สื่อออกมาที่ทำให้ผมเองน้ำตาก็ไหล ด้วยความตั้งใจของพี่เขา เราทำได้เพียงถ่ายภาพสื่อออกมาด้วยความตั้งใจเพราะทุกคนที่เดินทางมา เขาทำเพื่อพ่อหลวงรัชกาลที่ 9”

สำหรับตนเองรักและเทิดทูนพระองค์ท่านอย่างมากและภูมิใจที่เกิดในแผ่นดินรัชกาลที่ 9 ส่วนเรื่องราวของพระองค์ท่านจากที่เรียนและศึกษามาพระองค์ชอบการถ่ายภาพ และรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสถวายงานรับใช้เป็นจิตอาสาบันทึกภาพถ่ายประวัติศาสตร์ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวราชกาลที่ 9 ในการเก็บภาพพระราชพิธีวางดอกไม้จันทน์แสดงความอาลัย การบันทึกภาพครั้งนี้เน้นการเล่าเรื่องราวความรู้สึกของผู้คนที่มาร่วมถวายดอกไม้จันทน์ในวันนั้นให้ถ่ายทอดออกมาผ่านภาพถ่าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน