“คติพร ดลกิจ”

ว้าว! ข้ามทวีปสำหรับขาช็อปและเหล่าแฟชั่นนิสต้า กับข่าวที่ได้ยินแล้วอยากฟังอีกครั้ง เมื่อจะมีการเปิด ลักชัวรี่พรีเมียมเอาต์เล็ต แหล่งรวมสินค้าแบรนด์เนมและแบรนด์ดังระดับโลกขึ้นในบ้านเรา

หมายความว่าต่อไปถ้าอยากจะได้สารพัดของใช้แบรนด์หรู แต่ราคาถูกกว่าในห้าง ก็ไม่จำเป็นต้องไปไหว้วานใคร ให้ช่วยหิ้วมาจากเมืองนอกอีก เริ่ดมั้ยล่ะ?

โปรเจ็กต์นี้เป็นความร่วมมือ 2 บิ๊กธุรกิจ สยามพิวรรธน์ของไทยกับไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอันดับหนึ่งของโลกจากสหรัฐ เจ้าของไม่ใช่ใครที่ไหน เฮอร์เบิร์ต ไซม่อน เฮิร์บ สามี ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก อดีต มิสยูนิเวิร์สจากไทยแลนด์นั่นเอง

ทั้งสองเซ็นสัญญาตั้งบริษัท ร่วมทุนชื่อ บริษัท สยาม พิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด สร้างเอาต์เล็ตขึ้นในไทย 3 แห่ง คือในกรุงเทพฯ และอีก 2 จังหวัดในภาคเหนือและใต้ งบลงทุน 1 หมื่นล้านบาท กำหนดเปิดปลายปี 2562

ระหว่างการรอคอย คุณแป๋ม-ชฎาทิพ จูตระกูล บอสใหญ่สยามพิวรรธน์ จัดทริปเอ็กซ์คลูซีฟพาสื่อมวลชนบินไปชม “วู้ดเบอร์รี่ คอมมอน พรีเมียม เอาต์เล็ต” ที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อเร็วๆ นี้


ไปยลโฉมเอาต์เล็ตระดับพรีเมียมใหญ่สุดของกลุ่มไซม่อน เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนมกระหน่ำกันลดราคายั่วต่อมช็อปปิ้ง

จะได้รู้ว่าเอาต์เล็ตที่เตรียมสร้างในบ้านเรานั้น หน้าตาประมาณนี้

โดยมอบหมายมือดีลอันดับ 1 คุณอาร์ต-ชลชาติ เมฆสุภะ รองกก.ผจก.ใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและการลงทุน เป็นตัวแทน นำทริป

เดินทางด้วยสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปต่อเครื่องที่ฮ่องกง แวะแวนคูเวอร์ก่อนถึงนิวยอร์ก รวมเวลาเดินทางและช่วงลงไปยืดเส้นยืดสายระหว่างต่อเครื่อง ราวๆ 25-26 ชั่วโมง

อากาศนิวยอร์กขณะนั้น ง่ายแก่การแพ็กกระเป๋า การแต่งตัวแทบไม่ต่างจากเมืองไทย เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนซีซั่นจากซัมเมอร์เป็นฤดูใบไม้ร่วงเตรียมเข้าฤดูหนาว แต่คณะของเราก็แอบโดนธรรมชาติรับน้อง

วันแรกแลนดิ้งปุ๊บร้อนแดดเปรี้ยง วันต่อมาฝนปรอย รุ่งขึ้นอากาศเย็นลมโกรกชายเสื้อปลิว ถัดมาอีกวันเจอแพ็กคู่ทั้งลมทั้งฝน ฯลฯ แต่โชคดีทั้งเจ้าภาพและไกด์ “ทราเวล เทค” ทำการบ้านมาดี เกาะติดพยากรณ์อากาศ คอยย้ำเตือนเรื่องร่มและแจ๊กเกตตั้งแต่ก่อนไป

ทำให้วันไปเดินเอาต์เล็ต ซึ่งห่างจากสนามบินเจเอฟเค 100 ก.ม. ลูกทัวร์ทุกคนพร้อมมาก ลมและฝนไม่สามารถทำอะไรได้ สองมือกางแผนที่เล็งพิกัดเป้าหมาย สองเท้าเดินจ้ำอ้าวทันที


ไม่ว่า ดิออร์, ทอม ฟอร์ด, มาร์ก จาคอบ, จีวองชี่, พราด้า, กุชชี่, เบอร์เบอรี่, เฟนดิ, โค้ช, อาดิดาส, ไนกี้, แซมโซไนต์ ฯลฯ หรือแม้กระทั่งสินค้าลิขสิทธิ์ “วอลต์ ดิสนีย์” ก็ไม่มีเล็ดลอดสายตา


สนนราคาเห็นแล้วใจเต้นรัวๆ ถูกกว่าราคาป้ายถึง 25-70 เปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญหลายๆ คอลเล็กชั่นไม่มีในไทย

ไม่เพียงเท่านี้ บางร้านยังโปรหนัก แจกคูปองลดอีก 10-20% หรือไม่ก็ซื้อชิ้นที่ สอง ลดเพิ่มอีก โอ้..แม่เจ้า!!


หลายคนช็อปเผื่อไปถึงเพื่อนๆ ถ่ายรูปสินค้าส่งเข้าไลน์ให้ดู แม้ขณะนั้นเวลาที่ไทย จะดึกดื่น เพราะเร็วกว่านิวยอร์ก 11 ชั่วโมง แต่ก็ไม่เป็นปัญหา ดูจากอารมณ์การสนทนา แล้วฟันธงได้เลยว่า สนุกเร้าใจกับการช็อปข้ามทวีป

แอบกระซิบนิด ที่นั่นเขาเป็นสังคมไร้เงินสด ดังนั้นทุกร้านจะแฮปปี้กับการรับบัตรเครดิต เพราะไม่ต้องเสียเวลานั่งทอนตังค์ ดังนั้นใครจะไปนิวยอร์ก ควรท่องรหัสพินโค้ด เลข 4 หลักให้ดี เพื่อความปลอดภัยในการรูดปรื๊ด

กลับมาที่เอาต์เล็ต ศูนย์อาหารของเขา ก็ไว้ใจได้เลย เต็มไปด้วยแฟรนไชส์ยอดนิยม และคุ้นปากชาวไทย ไม่ว่า แมคโดนัลด์ ที่ราคาพอรับได้ เบอร์เกอร์ชิ้นนึง 2-4 เหรียญ (เงินไทยตอนนั้นเอา 33 คูณ) แต่บางช่วงโปรเริ่ดมาก อิ่มพุงกางแค่เหรียญเดียว

ขณะที่ร้านขนมเบเกอรี่ก็ดูคุ้นเคย ดังนั้น ไม่อดตายแน่ จึงไม่จำเป็นต้องแบกน้ำพริกหรือเอามาม่ามาต้มกินให้รกกระเป๋า

ท้องอิ่มแรงมา ก็ออกไปลุยภารกิจพิชิตออร์เดอร์ต่อ เผลอแป๊บเดียวหมดไปวันนึงแล้ว พร้อมกับความฟินจนลืมอาการขาลากเท้าระบม

ก่อนอำลา คุณอูเชียน่า อะคูโจ ผอ.ฝ่ายพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศ กลุ่มไซม่อน ย้ำโปรเจ็กต์ร่วมทุนกับสยามพิวรรธน์ว่า เราทำเอาต์เล็ตมา 170 กว่าสาขาทั่วโลก ขอให้มั่นใจว่าคนไทยจะได้ประสบการณ์ดีๆ ในการช็อปปิ้ง ร้านแบรนด์เนมหรูๆ ตามมาเมืองไทยแน่นอน

จบเรื่องช็อปปิ้ง แล้วเรื่องเที่ยวในเมืองใหญ่ระดับโลกล่ะ?

ทริปนิวยอร์ก คณะของเราพักกันใจกลางเกาะแมนฮัตตัน ห่างจากสนามบินเจเอฟเคไปทางตะวันออก 26 ก.ม. ถือเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของนิวยอร์ก

เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า โรงแรมห้าดาว อพาร์ตเมนต์หรู สถานที่ราชการ ร้านค้าแบรนด์แฟชั่น ร้านอาหารซึ่งก็มีตั้งแต่หรูเริ่ดไปจนถึงรถขายเบอร์เกอร์-ฮอตดอก ที่จอดทอดควันฉุยขายตามมุมตึก

ถนนค่อนข้างจอแจโดยเฉพาะสายหรู “ฟิฟธ์อเวนิว” รถสปอร์ตคันงาม รถบัส และแท็กซี่สีเหลืองอ๋อย แข่งกันบีบแตร ไล่กัน สลับเสียงด่าของบรรดาโชเฟอร์ หัวร้อน ที่พร้อมจะเดินลงมาเคาะกระจกด่าคู่กรณีกลางถนน

ขณะที่ชีวิตผู้คนล้วนเร่งรีบ การข้ามถนนแม้มีสัญญาณไฟแดง แต่ไม่ซีเรียส ว่างก็ข้ามได้ไม่ว่ากัน เพียงแต่อย่าเปรี้ยว ใส่โชเฟอร์บนถนนแล้วกัน ไม่งั้นอาจโดนจัดหนัก

นี่แหละวิถี “นิวยอร์กเกอร์” กับชีวิตที่มีครบทุกรส ทุกอารมณ์

แม้ในเมืองจะวุ่นวาย แต่ก็มีที่สงบร่มรื่นอย่าง “เซ็นทรัลพาร์ก” ไว้ให้พักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งสวนสาธารณะแห่งนี้กว้างใหญ่มากจนได้ชื่อ “ปอด” ของแมนฮัตตัน หลายๆ โลเกชั่นก็สวยงามคลาสสิค และปรากฏในฉากหนังและซีรีส์ดังหลายเรื่อง กลายเป็นจุดตามรอยของนักท่องเที่ยว อย่างน้ำพุ Bethesda ก็มีในฉากหนังเรื่องกุมภาพันธ์ และ Enchanted

อีกแห่งที่ไม่ควรพลาดคือ อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ จะโดยล่องเรือฟรี ซื้อตั๋ว เช่าเหมาลำ หรือขึ้นไปชมบนตัวอนุสาวรีย์ก็ได้หมด เพราะได้เห็นวิวทิวทัศน์ 2 ฝั่ง แม่น้ำฮัดสัน พร้อมเช็กอินโชว์รูปกับอนุสาวรีย์ระดับโลกด้วย

รวมถึงได้ลอดสะพานสวยๆ ที่หนังชอบมาถ่ายถึง 2 แห่ง คือสะพานบรู๊กลีน และสะพานแมนฮัตตัน

เวลาเหลือ แนะนำให้ไปดูรูปปั้นกระทิงดุ “ชาร์จิ้ง บลู” หน้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ย่านวอลสตรีต ที่เชื่อกันว่าจะให้โชค ให้หุ้นตัวเองร้อนแรงดั่งกระทิง และถ้า จะให้ครบสูตรต้องลูบ “อัณฑะ” กระทิงด้วย ตรงนี้น่าจะเข้าทางพี่ไทยเต็มๆ ส่วนจะจริงเท็จประการใดคงต้องลุ้น (แต่ละงวด) กันต่อไป

รวยเมื่อไหร่ จะกลับมาลูบอีกนะ เจ้ากระทิง!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน