ไหว้หลวงพ่อปากแดง วัดพราหมณี-นครนายก : ข่าวสดหลากหลาย

ไหว้หลวงพ่อปากแดง – วัดพราหมณี หรือ “วัดหลวงพ่อปากแดง” เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งใน จ.นครนายก และยังเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ตั้งอยู่ที่ถนนสาริกา–นางรอง หลักกิโลเมตรที่ 4 ต.สาริกา อ.เมือง จ.นครนายก

พระแก้วมรกต-หลวงพ่อปากแดง

ทางเข้าวัด

วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ.2446 ปัจจุบันนี้มีอายุ 100 กว่าปีแล้ว

วัดพราหมณี มีพระประธานศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นที่เคารพนับถือกันอย่างกว้างขวาง มีชื่อว่า “หลวงพ่อปากแดง” เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 1 เมตร เป็นศิลปะสมัยล้านช้าง จีวรเป็น ลายดอกพิกุล พระโอษฐ์แย้มทาสีแดงเห็นชัด ชาวบ้านจึงเรียกว่า หลวงพ่อปากแดง

สิ่งที่เด่นสะดุดตา คือ ที่ปากของหลวงพ่อมีสีแดงสด เหมือนมีผู้นำลิปสติกไป ทาไว้ ผู้เฒ่าผู้แก่ย่านนั้นยืนยันว่าเห็นปากท่านแดงแบบนี้มาตั้งแต่เกิด แม้แต่ปู่ย่าตายายของผู้เฒ่าเหล่านี้ก็บอกว่าเห็นมาตั้งแต่เกิดเหมือนกัน

พระราชพรหมคุณ (สวาท สุภาจาโร) เจ้าคณะจังหวัดนครนายก เจ้าอาวาสวัดพราหมณี เล่าว่า ตำนานเชื่อกันหลวงพ่อปากแดง เป็นพระพุทธรูปพี่น้องกับ หลวงพ่อพระสุก และหลวงพ่อพระใส ที่ประดิษฐานอยู่ที่ จ.หนองคาย ในปัจจุบัน ซึ่งได้อัญเชิญมาจากนครเวียงจันทน์ พอมาถึงประเทศไทย ชาวบ้านได้แยกย้ายไปตามวัดต่างๆ

ส่วนหลวงพ่อปากแดงนั้น ชาวบ้านอัญเชิญและนำมาหยุดยังพื้นที่ว่างบริเวณ ที่เป็นวัดพราหมณีปัจจุบันนี้ จากนั้นลงมือสร้างวัดแล้วอัญเชิญองค์หลวงพ่อขึ้น เป็นพระประธานในพระอุโบสถ ซึ่งต่อมา หลวงพ่อปากแดงก็กลายมาเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชาว จ.นครนายก จนทุกวันนี้

กราบไหว้หลวงพ่อปากแดง

ด้วยความเชื่อนี้ทำให้ประชาชนที่เดินทางมาเที่ยวน้ำตกสาริกา แวะมากราบสักการบูชา บางคนก็บนบานด้วยกล้วยน้ำว้า 9 หวี หมากพลู 9 ชุด พวงมาลัย 9 พวง และน้ำแดง 1 ขวด พร้อมตั้งจิตอธิษฐานให้สมความปรารถนาตัวเอง

เมื่อเลี้ยวเข้าไปที่ลานจอดรถที่กว้างขวาง จะพบชาวบ้านแถวนั้นตั้งแผงร้านค้าต่างๆ สินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร ทั้งสดและแปรรูป และอาจพบผลไม้หายากจากตลาดแห่งนี้ ซึ่งทางวัดเปิดให้ชาวบ้านแถวนั้นเข้ามาทำมาหากิน เพื่อช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทำนาอีกด้วย

จากประตูทางเข้าวัด ถ้าเดินตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทางแล้วเลี้ยวขวาจะเป็นศาลาการเปรียญ ใกล้กันมีอาคารชั้นเดียวอีกหลังหนึ่งมีเข้าแถวคนรอให้เจ้าอาวาสวัดทำพิธีเจิมหน้าผาก

หากเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางไปโบสถ์ที่มีหลวงพ่อปากแดงประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีที่ยกสูงขึ้นไปติดผนัง ด้านหน้ากลางเป็นพระแก้วมรกต หน้าโบสถ์มีช้าง 2 เชือกตั้งอยู่ชื่อพลายเงินกับพลายทอง ซึ่งบางวันโบสถ์จะดูคับแคบไปถนัดตาจากผู้มาสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี่

วัดพราหมณี ยังมีสถานที่สำคัญเกี่ยวข้องกับเรื่องราวเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ คือ เมื่อครั้งเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เลือกบริเวณที่ตั้งของวัดพราหมณีเป็นจุดพักทัพของกองพันทหารที่ 37 ซึ่งมีจุดหมายจะไปรวมพลกันที่บริเวณเขาชะโงก (ปัจจุบัน คือ สถานที่ตั้งของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก) จึงมีทหารญี่ปุ่นล้มตายอยู่ในเขต จ.นครนายก หลายแห่งด้วยกัน

ปรากฏว่ามีการค้นพบกระดูกของทหารญี่ปุ่นใกล้วัดพราหมณี ดังนั้น สมาคมทหารสหายสงครามกองพลญี่ปุ่นที่ 37 จึงได้สร้างอนุสรณ์สถานไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงทหารญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2532 ณ วัดพราหมณี

โดยสร้างเป็นศาลาจัตุรมุขประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร ด้านหน้าพระพุทธรูปเป็นแท่นหินจารึกอักษรญี่ปุ่น ด้านซ้ายเป็นแท่นหินอ่อน โดยมีการจารึกข้อความไว้อาลัย สดุดีความกล้าหาญ และระลึกถึงไว้ที่ฐานพระพุทธรูป

ภายในวัดยังมีวิหารเจ้าแม่กวนอิมเป็นศาลที่เพิ่งสร้างมาไม่นาน ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ปางแสดงอิทธิฤทธิ์ พันมือ ภายในศาลจะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำการบูชา ต้องไหว้เรียงไปตามจุดให้ถูกที่ โดยมีตัวเลขบอกกำกับไว้อย่างชัดเจน

หลังไหว้พระ เที่ยววัดแล้ว สามารถเดินไปช็อปที่ตลาด โรงเกลือ 100% มีพ่อค้าแม่ค้าคนไทย อยู่ด้านหน้า นิยมขายอาหาร ของแห้ง ของฝาก ส่วนด้านหลังเป็นพ่อค้าแม่ค้า จากประเทศกัมพูชา นิยมขายสินค้าที่นำมาจากตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เช่น รองเท้ามือ 2 เสื้อผ้ามือ 2 กระเป๋าถือ ผ้าปูที่นอน ของแต่งบ้าน อุปกรณ์เครื่องครัว ถ้วยชาม เครื่องทองเหลือง เครื่องเสียง เครื่องเคลือบ เครื่องกระเบื้อง เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศรัสเซีย ฯลฯ

ส่วนราคาค่อนข้างแพงกว่าที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ แต่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะก่อนกลับบ้าน

ตลาดโรงเกลือ100%

ตลาดโรงเกลือนครนายก เป็นตลาดที่ตั้งขึ้นโดยดำริของ พระสุธีพรหมคุณ หรือ หลวงพ่อตึ๋ง เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อปากแดง เจ้าคณะจังหวัดนครนายก ที่เห็นว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบสักการะหลวงพ่อปากแดงเป็นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสดีในการจัดตั้งตลาดขายสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อเพิ่ม รายได้ให้คนในท้องถิ่น ใช้ชื่อว่า “ตลาดโรงเกลือ 100%”

โดยทำเป็นลักษณะเดียวกับตลาดโรงเกลือ ที่อรัญประเทศ มีผู้ประกอบการจากโรงเกลือ อรัญประเทศ ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา มาเปิดร้านค้าที่นี่

ตลาดโรงเกลือตั้งอยู่ปากทางเข้าวัดพราหมณีแบ่งเป็น 3 โซน โดยตลาดโรงเกลือ C1 เป็นโซนแรกที่ก่อตั้งขึ้นก่อน ตั้งอยู่ในโครงอาคารถาวร หลังคามุงกระเบื้องมีความสูงไม่มาก ร้านจะเป็นแบ่งเป็นห้อง และด้านในถัดมาจะเป็นร้านค้าที่เป็นแบบห้องมีประตูเปิด–ปิด มีร้านค้าทั้งหมดประมาน 400-500 ร้านค้า

ตลาดโรงเกลือ C2 เป็นโซนที่ 2 ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดพราหมณี โซนนี้เป็นห้องร้านค้า มีที่จอดรถรองรับผู้ที่มาซื้อของด้วย

และตลาดโรงเกลือ C3 เป็นของเอกชน ตัวตลาดปลูกสร้างเป็นโครงอาคารขนาดใหญ่ ด้านหน้าเป็นแผงขายอาหารขนาด 2 เมตร คูณ 2 เมตร

อนุรักษ์ รชนิรมณ์