ท่องดินแดนไอยคุปต์ ชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ท่องดินแดนไอยคุปต์ ชมสิ่งมหัศจรรย์ของโลก – มีโอกาสได้ท่องดินแดนที่มีมนต์ขลัง ตำนานไอยคุปต์แห่งอียิปต์ ที่ขึ้นชื่อเรื่องแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และสิ่งมหัศจรรย์ของโลกมากมาย
นำทริปโดย คุณระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บมจ.บัตรกรุงไทย คุณพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจบัตรเครดิต คุณพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้อำนวยการ-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล คุณปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส-ช่องทางจัดจำหน่ายและธุรกิจร้านค้า และ คุณชุติเดช ชยุติ ซีเอฟโอ
ผู้บริหารเคทีซี
วันแรกมุ่งหน้าไปเมืองอเล็กซานเดรีย เป็นเมืองสำคัญอันดับ 2 รองจากกรุงไคโร สร้างปีค.ศ. 331 โดยอเล็กซานเดอร์มหาราช
เราไปดู ป้อมปราการไควต์เบย์ สร้างขึ้นศตวรรษที่ 15 เดิมเป็นที่ตั้งของ ประภาคารฟาโรส เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงส่วนที่เป็นฐาน เนื่องจากพังลงมาและมีการสร้างป้อมปราการไควต์เบย์ขึ้นมา
เสาปอมเปย์ เป็นแลนด์มาร์กอีกแห่งหนึ่งที่ต้องมาถ่ายรูปกัน เป็นเสาที่แสดงถึงการฉลองชัยชนะของชาวโรมัน ปัจจุบันเหลือเพียงเสาตั้งอยู่อย่างโดดเด่น
ป้อมปราการไควต์เบย์
สุสานโรมันใต้ดินคาตาคอมป์ หรือหลุมฝังศพใต้ดินแห่งเมืองอเล็กซานเดรีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง ใช้เก็บศพมากกว่า 50,000 ศพ มี 3 ชั้น ชั้นที่ 1 ไว้ลำเลียงโลงและศพ ชั้นที่ 2 เป็นที่ฝังศพ และชั้นที่ 3 เป็นที่รวมญาติเพื่อระลึกถึงผู้ตาย โดยมีการเลี้ยงสังสรรค์กันทุกวัน
หลังจากนั้นกลับสู่กรุงไคโรอีกครั้ง เพื่อชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอียิปต์ จัดแสดงวัตถุโบราณมากมาย อาทิ อ่างอาบน้ำ หีบศพ รูปปั้น แผ่นศิลา เครื่องมือล่าสัตว์ เครื่องมือทำสงคราม เครื่องประดับ
ที่น่าสนใจคือ วัตถุต่างๆ ที่ถูกค้นพบในสุสาน “ฟาโรห์ตุตันคามุน” ทั้งโลงศพทองคำแท้ น้ำหนักกว่า 110 กิโลกรัม ที่มีชื่อเสียงก้องโลก พร้อมหน้ากากทองคำและสมบัติส่วนตัวของพระองค์อีกมากมาย
นับเป็นโชคดีที่ช่วงนั้นมีการจัดแสดงมัมมี่ ระดับชนชั้นนำ เพื่อฉลอง 116 ปีของพิพิธภัณฑ์ คือ ยูยา และ ธูยา โดยยูยา เป็นข้าราชสำนักที่ทรงอิทธิพลในยุคราชวงศ์ที่ 18 แห่งอียิปต์ ส่วนธูยาซึ่งเป็นภรรยานั้นเป็นชนชั้นสูงของอียิปต์โบราณ ซึ่งทั้งสองเป็นทวดของฟาโรห์ตุตันคามุน
ไปถึงไคโรแล้วต้องไม่พลาดไปช็อปปิ้งที่ ตลาดข่าน เอล คาลิลี มีร้านค้ามากกว่า 900 ร้าน อาทิ ร้านน้ำหอม อัญมณี ผ้าต่างๆ ของที่ระลึก ส่วนเรื่องราคาต้องต่อรองกันแบบสุดๆ ไปเลย
ชาวอียิปต์โบราณจะมีการแบ่งฝั่งคนเป็นกับคน ตาย โดยฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไนล์จะเป็นฝั่งคนเป็น และฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์เป็นฝั่งคนตาย ซึ่งชาวอียิปต์ในสมัยนั้นเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย จึงสร้างพีระมิดขึ้นมาเพื่อเป็นสุสานของฟาโรห์
เราเดินทางไปยังเมืองซักคารา อยู่ไม่ไกลจากกรุงไคโรมากนัก ไปดูพีระมิดขั้นบันไดของฟาโรห์โจเซอร์ ถือเป็นต้นแบบของพีระมิดทรงสามเหลี่ยม ออกแบบโดยอัครเสนาบดีชื่อ อิมโฮเทป
พีระมิดขั้นบันได ของฟาโรห์โจเซอร์
เดิมที่เก็บพระศพของฟาโรห์จะมีหลังคา สี่เหลี่ยมแบบธรรมดา แต่ด้วยความอัจฉริยะของอิมโฮเทป ได้ก่อสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดมหึมา มีลักษณะเหมือนขั้นบันได 6 ชั้น ความสูงทั้งสิ้น 200 ฟุต
วันถัดมาไปชมพีระมิดที่มีชื่อเสียงและเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ คือ มหาพีระมิดเมืองกีซา หรือที่รู้จักกันในชื่อ พีระมิดคีออปส์ หมู่มหาพีระมิดนี้มีทั้งหมด 3 องค์ และสร้างมานานกว่า 4,500 ปี เพื่อเป็นสุสานของฟาโรห์ 3 พระองค์ ซึ่งอยู่ในสมัยราชวงศ์ที่ 4 แห่งอียิปต์
เรียงจากขวาไปซ้ายคือ พีระมิดของฟาโรห์คูฟู เป็นพีระมิดที่สูงที่สุด มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุด เดิมมีความสูง 146 เมตร แต่ปัจจุบันส่วนยอดได้พังไปบ้างจึงทำให้เตี้ยลงกว่าเดิมเล็กน้อย
ตรงกลางคือพีระมิดของฟาโรห์คาเฟร ซึ่งขนาดเล็กกว่าแต่สร้างในพื้นที่ที่สูงกว่า เลยทำให้ดูว่ามีขนาดใหญ่กว่า ส่วนซ้ายสุดขนาดเล็กกว่าองค์อื่นคือพีระมิดของฟาโรห์เมนคูเร และพีระมิดขนาดเล็กสุดคือ พีระมิดสำหรับราชินีของฟาโรห์เมนคูเร
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ สำหรับการเที่ยวที่มหาพีระมิดแห่งกีซ่าคือ มหาสฟิงซ์ เป็นสฟิงซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อเฝ้าดูแลสมบัติภายในพีระมิด
มหาสฟิงซ์
วันต่อมาเดินทางไปเมืองลักซอร์ ชมมหาวิหารคาร์นัก ที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า เป็นมหาวิหารโบราณเก่าแก่ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดของอียิปต์ สิ่งที่ทำให้ต้องตะลึงคือ ภายในวิหารมีเสาหินขนาดใหญ่มากถึง 134 ต้นเลยทีเดียว
อีก 1 วิหารที่ไปชมคือ มหาวิหารลักซอร์ เป็นวิหารที่มีรูปสลักสงครามการทำศึก เพราะสมัยก่อนการทำสงครามเป็นการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างหนึ่งด้วย
โดยในส่วนหน้ามีเสาโอเบลิสก์ตั้งอยู่ เดิมเคยมี 2 ต้น แต่ปัจจุบันเหลือแค่ต้นเดียว เนื่องจากในสมัยพระเจ้ามูฮัมหมัดได้ส่งไปเป็นของขวัญให้ฝรั่งเศส 1 ต้น ตั้งอยู่กลางกรุงปารีส
มาถึงเมืองลักซอร์แล้ว ก็ต้องไปชมหุบผากษัตริย์ เป็นสุสานที่สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระศพของราชวงศ์กษัตริย์ในยุคใหม่ ตั้งแต่ราชวงศ์ที่ 18-20 ซ่อนอยู่ในเทือกเขา Theban เพื่อปิดบังสายตาโจร
เป็นการสร้างแทนพีระมิด ที่ใช้เงินมหาศาล ใช้แรงงานมาก ที่สำคัญยังถูกโจรขโมยของมีค่าออกไปจำนวนมาก
ไฮไลต์ของที่นี่คือ สุสานของฟาโรห์ ตุตันคามุน ที่เลื่องลือด้านคำสาปฟาโรห์ เพราะในปีค.ศ. 1922 ผู้ที่ค้นพบถึงกับตกตะลึงไปตามๆ กัน ในนั้นมีสมบัติมหาศาลที่ถูกเก็บไว้ภายในสุสาน และพบมัมมี่พระศพของฟาโรห์ตุตันคามุน ถูกบรรจุไว้ในตู้ทองคำถึง 4 ชั้นเลยทีเดียว ซึ่งสมบัติที่ค้นพบถูกแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ไคโร
แต่สุสานที่สวยที่สุดคือ สุสานของฟาโรห์รามเสสที่ 6 ภายในห้องต่างๆ มีภาพเขียนอักษรฮีโรกลิฟฟิก ที่สีสันยังสวยสดงดงามมาก
ความงดงามในสุสานฟาโรห์รามเสสที่ 6
นอกจากนี้ ยังไปชมวิหารแฮตเซปซุต วิหารประกอบพิธีศพของพระนางแฮตเซปซุต เป็นฟาโรห์หญิงที่เก่งในเรื่องทำธุรกิจ การค้า
ปิดท้ายด้วย หุบผาราชินี สถานที่ฝังพระศพของบรรดาราชินีและสมาชิกในราชวงศ์ที่ 18-20 เป็นที่ซ่อนสุสานราว 80 สุสาน
ไฮไลต์ของหุบผาราชินี คือ สุสานของพระนางเนเฟอตารี พระมเหสีสุดที่รักของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1904 เป็นสุสานงดงามที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีภาพวาดประดับผนังที่สวยงามและสมบูรณ์แทบจะทุกห้องให้ได้ชื่นชม
ต้องขอบคุณเคทีซีที่จัดทริปดีๆ ให้ได้อิ่มเอมใจ
โดย…ณฤศร มัณยาภา
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
