ราวกับต้องมนต์ “ลาบาริส เขาใหญ่” ดินแดนเทพนิยาย โรงแรมแห่งการเซลฟี่
ลาบาริส เขาใหญ่ – ถ้ากำลังมองหาโรงแรมมีสไตล์ ดีไซน์เก๋ บรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบกลางขุนเขา แถมมีมุมเซลฟี่หลากหลายไม่ซ้ำใคร
โฮเทล ลาบาริส เขาใหญ่…เป็นหนึ่งในคำตอบ
มิเช่นนั้น ผู้บริหารโรงแรมคงไม่กล้าประกาศ “จะมาที่นี่ควรเตรียมเสื้อผ้ามาอย่างต่ำ 3 ชุด”
โฮเทล ลาบาริส เขาใหญ่ (Hotel Labaris Khao Yai) ธีมโฮเทลแห่งใหม่บนถนนธนะรัชต์ เขาใหญ่ ได้รับการเนรมิตให้เป็นดินแดนในจินตนาการที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขา ป่าไม้ และลำธาร ในนามของ “อาณาจักรลาบาริส”
โดยมี คิงมิโนทอร์ (King Minotaur) เป็นเจ้าผู้ปกครองเมือง พร้อมเหล่าสัตว์วิเศษในจินตนาการที่จะมาร่วมต้อนรับ
โดยผู้เข้าพักทุกคนจะได้รับการปฏิบัติราวกับแขกคนสำคัญของคิงมิโนทอร์ เพื่อสัมผัสนิยามใหม่ของความสุขแห่งการพักผ่อน
คำว่า Labaris มาจาก Labyrinth แปลว่า “เขาวงกต” ซึ่งก็คล้ายกับความลึกลับน่าค้นหาของดินแดนแห่งนี้ ขณะเดียวกันในเขาวงกตได้ถูกนำมาเป็นลูกเล่นสำคัญในการออกแบบเส้นทางสู่ห้องพักของผู้มาเยือนทุกคนด้วย
และเพื่อให้เข้าคอนเซ็ปต์ธีมโฮเทลที่หลุดมาจากเทพนิยาย โรงแรมแห่งนี้จึงแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซน โดยเรียงร้อยเรื่องราวเป็น 5 Chapter ประหนึ่งการเปิดอ่านหนังสือเทพนิยาย
เริ่มที่ Chapter 1 พบกับ Rabbit Cafe ร้านกาแฟสุดน่ารักที่จำลองโพรงของสัตว์วิเศษตัวน้อย ตั้งอยู่กลางสวนหญ้ากว้าง พร้อมเสิร์ฟกาแฟแก้วพิเศษที่ผสมผสานเมล็ดกาแฟไทยคุณภาพจนได้เป็น House Blend Coffee หอมละมุนไปกับกลิ่นเบเกอรี่ที่ทำสดใหม่ทุกวัน
Chapter 2 ในส่วนของ ล็อบบี้ ผู้นำทางจะพาผ่านเขาวงกตไปยังห้องพักภายในปราสาท 2 หลัง นั่นก็คือ Starry Castle และ Midnight Castle ห้องพักในส่วนนี้มีทั้งหมด 60 ห้อง 3 ประเภท คือ Duplex Room, Grand Deluxe Room และ Deluxe Room พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ชมวิวสวยๆ ได้ที่ Rooftop Bar ที่จะเปิดให้บริการเดือนตุลาคม 2562
Chapter 3 ดินแดนลึกลับที่มี Laughing Stone Garden นำทางไปสู่ สวนกระจก (Infinite Forest) ที่คอยลวงตาคุณอยู่ ก่อนจะค้นพบห้องพัก Pool Villa จำนวน 10 หลัง มีสระว่ายน้ำส่วนตัว พร้อมห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ รองรับได้ทั้งคู่รักและครอบครัว
กุ้งแม่น้ำผัดพริกเกลือ
Chapter 4 ในส่วนของ Labaris Restaurant ที่เสิร์ฟอาหารไทยรสกลมกล่อม อาหารตะวันตกและฟิวชั่น หรือที่เรียกว่า “Thai Cuisine and Grill Bar” คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีจากทั่วทุกมุมโลกมาปรุงอาหารด้วยความพิถีพิถัน รังสรรค์ทุกเมนูด้วยความรัก ทำให้อาหารทุกจานมีรสชาติที่สมบูรณ์แบบ พิเศษจนน่าหลงใหล
หมูสามชั้นทอดน้ำปลา
นอกจากนี้ยังมี Town Hall หรือห้องบอลรูมขนาดใหญ่สำหรับจัดงานประชุมและอีเวนต์ต่างๆ รองรับแขกได้ถึง 120 คน มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน สามารถปรับให้ตรงตามความต้องการของการจัดงานในหลายรูปแบบ
เครื่องดื่มมอคเทล (ไม่มีแอลกอฮอลล์)
บรรยากาศห้องอาหาร
ตลอดจนพื้นที่จัดงานกลางแจ้งที่รายล้อมด้วยสนามหญ้ากว้าง ให้อารมณ์และบรรยากาศแบบสบายๆ รองรับทุกกิจกรรมและงานสำคัญต่างๆ เช่น มินิคอนเสิร์ต งานแต่งงานสุดโรแมนติกในสวนกว้าง ฯลฯ
สระว่ายน้ำเด็ก
Chapter 5 เป็นโซน The Meander Wonderer พื้นที่สวนที่มีสระว่ายน้ำชื่อว่า Creek ออกแบบให้เป็นแม่น้ำคดเคี้ยวสไตล์ Loop Pool โดยสระว่ายน้ำมีทั้งแบบสระสำหรับผู้ใหญ่ หรือ Nomadic Creek และสระสำหรับเด็ก หรือ Cub’s Creek พร้อมพรั่งไปด้วยเครื่องเล่นมากมาย
รวมถึงพื้นที่สำหรับความสนุกสนานและการเรียนรู้ของนักเดินทางตัวน้อยอย่างครบถ้วน โดยพื้นในส่วนเพลย์กราวด์จะทำจากวัสดุพิเศษช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการล้มหรือกระแทก เพื่อความปลอดภัยทุกย่างก้าว เดินต่อไปอีกนิดจะพบกับสะพานข้ามไปยังลำธารตามธรรมชาติบนเนินเขา
ลัลนา ชุมสาย ณ อยุธยา
คุณทิพ-ลัลนา ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด โฮเทล ลาริส เขาใหญ่ บอกว่า จุดเด่นของโรงแรมคืออยู่ติดถนนใหญ่ คือ ถ.ธนะรัชต์ กม.16 และอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น ปาลิโอ เขาใหญ่ ที่ห่างกันแค่ 500 เมตร, บ่อน้ำผุดเขาใหญ่ ห่างกัน 1 ก.ม., ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เขาใหญ่ 2 ก.ม. ขณะที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก็ห่างกัน 8 ก.ม.
ในส่วนของโรงแรมเน้นการดีไซน์ที่โปร่งสบาย มองเห็นวิวทิวทัศน์ของต้นไม้ใหญ่และภูเขาได้สุดลูกหูลูกตา ที่สำคัญมีมุมถ่ายรูปมากมายและสวยทุกมุม ดังนั้น เตรียมชุดไว้เยอะๆเลย เพื่อความสนุกในการพักผ่อนและถ่ายรูปเก๋ๆ
ขณะที่อาหารใน Labaris Restaurant ก็ถือเป็นจุดขายของเราเช่นกัน โดยเฉพาะอาหารไทยเป็นแนวฟิวชั่นรสชาติจัดจ้าน เมนูแนะนำเช่น แกะมัสมั่น สูตรพิเศษที่เคี่ยวจนเนื้อเปื่อยแทบจะไม่เหลือกลิ่นสาบ, ยำแซลมอนวาซาบิ, แกงรัญจวน, แซลมอนรมควัน ฯลฯ
แกงรัญจวน
ขณะที่ขนมหวานและไอศกรีมก็อร่อยไม่แพ้กัน ไม่ว่า เค้กมะพร้าว สูตรดั้งเดิมที่คุณแม่เจ้าของโรงแรมทำเอง ส่วนไอศกรีมภูมิใจนำเสนอรสช็อกโกแลต ข้มข้นด้วยดาร์กช็อก หอมอร่อยชื่นใจ และอีกรสที่แนะนำคือ ชาเขียว
เค้กมะพร้าว
ไอศกรีมชาเขียว และวนิลา
ห้องอาหารนั้น ออกแบบให้โล่งโปร่งนั่งสบาย มีความโรแมนติก และได้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเรือนทดลองและสวนสมุนไพร แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของไม้นานาพันธุ์ เปิดบริการตลอดทั้งวัน โดยช่วงเช้าเป็นบุฟเฟต์
“โรงแรมของเราร่มรื่นมาก เนื้อที่ 15 ไร่ มีต้นไม้ใหญ่กว่า 60,000 ต้น ซึ่งเราไม่เคยตัดตั้งแต่สร้างโรงแรม ไม้ส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดในเขาใหญ่ เช่น งิ้ว มะเดื่อ ฯลฯ จุดเด่นอีกอย่างคือรูปปั้นสัตว์ต่างๆ ได้แรงบันดาลใจจากสัตว์ท้องถิ่นในเขาใหญ่ที่ผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ จนเป็นที่มาของสัตว์ในดินแดนเทพนิยายแห่งนี้”
ผู้บริหารโรงแรมกล่าวและย้ำว่า “โรงแรมของเรามีธีมคือความลึกลับน่าค้นหา และรอคอยนักเดินทางทุกคนเข้ามาสัมผัสค้นหา”
