ตะลอน‘บรัสเซลส์-ฮัมบูร์ก’
เที่ยวฟิน-กินอร่อย-เอ็นจอยช็อป (ตอน1)
โดย…วไลพร กลิ่นโสม
ตะลอน‘บรัสเซลส์-ฮัมบูร์ก’ เที่ยวฟิน-กินอร่อย-เอ็นจอยช็อป (ตอน1) – ทริปนี้นอกจากไปร่วมงาน บรัสเซลส์ ซีฟู้ด เอ็กซ์โป (Brussels Seafood Expo) ที่ประเทศเบลเยียม พร้อมเยี่ยมชมโรงงานกลั่นน้ำมันปลาทูน่าบริสุทธิ์ที่เมืองรอสต็อก ฮัมบรู์ก ประเทศเยอรมนี ตามคำเชิญของบริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ยังมีโอกาสไปชมสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอีกหลายแห่ง
คณะออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เช้า วันที่ 7 พ.ค. ด้วยสายการบินฟินน์แอร์ ต่อเครื่องที่สนามบินเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เพื่อเดินทางไปยังบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียม และเมืองหลวงของยุโรป
ไปถึงบรัสเซลส์เวลาประมาณ 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น แต่พระอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า ซึ่งเป็นปกติของทางยุโรป อากาศอยู่ที่ 9-11 องศา เย็นกว่าที่คิดไว้ แต่ถือว่าโอเคมากๆ กับการเที่ยวยุโรป
คืนแรกเข้าพักที่โรงแรม Martin’s Klooster ขนาดไม่ใหญ่โตแต่ตกแต่งได้น่าอยู่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลอเวน ใกล้กับจัตุรัสโอลด์มาร์เก็ต แกรนด์มาร์เก็ต และโบสถ์เซนต์ปีเตอร์ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง แต่คณะของเราเก็บสัมภาระแล้วก็พุ่งตรงไปกินมื้อค่ำทันทีที่ ROTIS นั่งละเลียด stella artois เบียร์เบลเยียมระหว่างรอของคาว ก่อนกินไปเม้าธ์ไปกับอาหารเบลเยียมอยู่นาน
อิ่มท้องแล้วก็เดินย่อยฝ่าอากาศหนาวเย็นไปแวะถ่ายรูปที่ จัตุรัส กรองด์ปลาซ หรือ Grand Place ยังไม่ทันได้พินิจอะไรก็ต้องรีบกลับเพราะดึกและหนาวขึ้นทุกที รุ่งขึ้น ได้กลับมาอีกครั้ง โดยมีไกด์ท้องถิ่นรุ่นคุณยายมาให้เกร็ดความรู้เพิ่มเติม แต่บรรยากาศไม่เป็นใจนักเพราะฝนพรำต่อเนื่อง แต่ก็ยังคลาคล่ำไปด้วย นักท่องเที่ยว
บางคนเรียกที่นี่ว่า Market Square เพราะเดิมจัตุรัสนี้เป็นตลาดเก่า ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบรัสเซลส์ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเบลเยียม ความเลื่องชื่อของมรดกโลกแห่งนี้ และความงดงามของศิลปะสไตล์บาโรก โกธิก และนีโอโกธิกที่เก่าแก่กว่า 300 ปี ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย
ภายในจัตุรัสกรองด์ปลาซ ทิศใต้จะเป็น Town Hall หรือ The Hotel De Ville หรือ ศาลาว่าการกรุงบรัสเซลส์ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิกผสมบาโรก รอบๆ ตัวอาคารแต่งด้วยรูปปั้นจำนวนมาก ส่วนบนอาคารเป็นหอระฆังแปดเหลี่ยม สง่างามและโดดเด่นที่สุดในจำนวนอาคารที่ตั้งอยู่ในจัตุรัสนี้
ตรงข้ามคือ The King’s house พระราชวังของพระราชา ปัจจุบันคือ Museum of the City of Brussels พิพิธภัณฑ์ ของเมือง รวบรวมประวัติการก่อตั้งเมือง ประวัติศาสตร์การรบ และเครื่องแต่งกายตามยุคสมัยต่างๆ
รอบๆ จัตุรัสเต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย รวมถึงร้านขาย ช็อกโกแลต สินค้าขึ้นชื่อในฐานะแหล่งผลิตช็อกโกแลตชื่อดังอีกแห่งของโลก ถนนรอบๆ จัตุรัสส่วนใหญ่ก็ตั้งชื่อตามสินค้าย่านนั้น
ติดกับจัตุรัสยังมีอนุสาวรีย์ของ Everard ‘t’ Serclaes วีรบุรุษของกรุงบรัสเซลส์ ตำนานว่าไว้หากถูมือไปตามส่วนต่างๆ ของอนุสาวรีย์จะมีโชค เราต่อคิวทำตามทันทีโดยไม่รีรอ
เดินไปไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ คือ Manneken Pis ประติมากรรมน้ำพุที่ทำเป็นรูปปั้นเด็กยืนปัสสาวะตามชื่อ อีกจุดไฮไลต์ที่ นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูป ซึ่งของจริงรูปปั้นเล็กมาก
ตามตำนานเล่ากันว่าขณะที่บรัสเซลส์เผชิญสงคราม ฝ่ายตรงข้ามนำระเบิดมาวางที่กำแพงเมือง จูเลียนสกี (Julianske) ได้ปัสสาวะรดชนวนระเบิดจนดับ ชาวเมืองจึงสร้างรูปแกะสลักนี้เป็นที่ระลึก บางเรื่องเล่าก็ว่าเป็นลูกเศรษฐีพลัดหลง พ่อแม่มาเจอตอนยืนปัสสาวะ และอีกสารพัดตำนาน
ไกด์รุ่นเดอะยังพาซอกแซกไปเขตรอบนอก สำรวจความเก่าแก่ของเมืองนี้ แวะที่ St. Nicholas Church นอกจากหุ่นจำลองนักบวชที่เสียชีวิตระหว่างสงคราม ที่ไกด์เล่าเรื่องแบบกระซิบกระซาบ ภายในโบสถ์ยังมีจุดสารภาพบาปที่ไม่น่าจะเป็นส่วนตัวเท่าไหร่
ขากลับเดินผ่านเขต Comic Book Route หรือ Comic Street Art ยืนยันคำกล่าวที่ว่าคนเบลเยียมเป็นนักวาดการ์ตูน เพราะตามเส้นทางเต็มไปด้วยภาพวาดการ์ตูนในตำนานของศิลปินชื่อดังตามกำแพง หนึ่งในนั้นคือ The Adventures of Tin Tin โดย Herge Tintin ภาพเล่าถึงเรื่องของนักข่าวที่ตามสืบความลับไปทั่วโลก เขตนี้ยังมีทางม้าลายหลากสี ส่วนตัวไม่เคยเห็นจากที่ไหนมาก่อนเลย
และบังเอิญเดินผ่านร้าน canna house จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา ทั้งลูกอม เบียร์ สบู่ ครีม เทียน ชื่อ canna house
เดินจนท้องเริ่มร้องคณะเติมพลังด้วยมื้อกลางวันที่ The Lobster House กุ้งล็อบสเตอร์ตัวโต และหอยแมลงภู่ตัวใหญ่อาหารขึ้นชื่อของบรัสเซลส์ อร่อยถูกลิ้นหลายคน แต่พนักงานออกแนวเกรียนๆ เลยถูกคณะของเราอำขำๆ ระยะประชิด
ช่วงบ่ายไปร่วมงาน บรัสเซลส์ ซีฟู้ด เอ็กซ์โป หรือซีฟู้ด เอ็กซ์โป โกลบอล และซีฟู้ด โปรเซสซิ่ง โกลบอล งานแสดงผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่ใหญ่สุดในใลก เวทีสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายนับพันจากกว่า 150 ประเทศจะได้พบปะเจรจาธุรกิจ
ไทยยูเนี่ยนเป็นหนึ่งในบริษัทที่มาร่วมออกบูธ โดยจับมือกับ คาลิสตา บริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์โปรตีนทางเลือก เปิดตัวเนื้อกุ้งจากฟาร์มที่เลี้ยงด้วยอาหารกุ้งโปรตีนทางเลือกครั้งแรกของโลก
พร้อมเสิร์ฟผู้เข้าร่วมงานให้ได้ลิ้มรสเนื้อกุ้งผัดที่เลี้ยงด้วย ‘ฟีดไคนด์ โปรตีน’ อาหารสัตว์เพื่อความยั่งยืน และสารอาหารจากปลาทูน่าของไทยยูเนี่ยน ที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ เป็นการลดการบิดเบือนข้อมูลต่อผู้บริโภค
เสร็จงานไปกินมื้อค่ำที่ La Mar’ee ร้านอาหารทะเลชื่อดัง ไม่ผิดหวังทั้งรสชาติและความเป็นกันเองของทางร้าน แต่สำหรับหอยแมลงภู่ ส่วนตัวชอบรสชาติที่ร้าน The Lobster House มากกว่า
ก่อนเข้าที่พัก ไปแวะเก็บบรรยากาศที่จัตุรัสกรองด์ปลาซ อีกครั้ง เพราะคืนนี้มีการตกแต่งประดับไฟ ว้าววว!..สวยสมคำ ร่ำลือ
รุ่งขึ้นแวะแชะภาพที่ Atomium สถาปัตยกรรมทรงอะตอม สร้างเป็นเหล็กกล้าทรงกลม 9 ชิ้น เชื่อมต่อกันด้วยท่อโลหะใหญ่ เดิมสร้างเป็นชิ้นงานหลักของเวิลด์ เอ็กซ์โป ปี 1958 ก่อนมาเป็นสถานที่เที่ยว ด้านในมีร้านอาหาร และการจัดแสดงนิทรรศการถาวร
กินมื้อกลางวันอำลาบรัสเซลส์ ที่ร้าน Le Bistro ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองพอสมควร เป็นอีกร้านที่บรรยากาศโอเค อาหารอร่อย พนักงานเป็นกันเอง หอยแมลงภู่ สเต๊กปลา อร่อยจริงๆ อย่างที่พนักงานนำเสนอ
อิ่มมื้อนี้แล้วเรามุ่งหน้าไปที่สนามบินบรัสเซลส์บินต่อไป ฮัมบูร์ก เยอรมนี อีกเมืองที่รู้สึกประทับใจทั้งที่กิน ที่เที่ยว และแวะดูโรงงานกลั่นน้ำมันปลาของไทยที่ทันสมัยที่สุดในโลก ติดตามได้ ตะลอน‘บรัสเซลส์-ฮัมบูร์ก’ ตอน 2