ชม 2 มรดกโลก เมืองอัครา-อินเดีย
ชม 2 มรดกโลก เมืองอัครา-อินเดีย – สายการบินไทยสมายล์ขยายเส้นทาง และเพิ่มเที่ยวบินสู่ประเทศอินเดียมาอย่างต่อเนื่อง เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยสีสันทั้งสิ่งปลูกสร้าง โบราณสถาน และผู้คน
จาก “ลัคเนา” เมืองหลวงรัฐอุตตรประเทศ มาต่อกันที่ “อัครา” (Agra) อดีตเมืองหลวงอินเดียในสมัยที่ยังเรียกว่า “ฮินดูสถาน” เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในรัฐอุตตรประเทศ
มีโบราณสถานระดับมรดกโลกถึง 3 แห่ง แต่ทริปนี้มีโอกาสไปชม 2 แห่ง เริ่มที่ “ทัชมาฮาล” (Taj Mahal) สุสานหินอ่อนหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยุมนา
ก่อนเข้าไปชม จะถูกตรวจตราสัมภาระ ห้ามไม่ให้นำกระเป๋าที่มีขนาดใหญ่เข้าไป รวมทั้งของมีคม หรือสิ่งของที่อาจทำให้โบราณสถานเกิดรอยเสียหาย เช่น ปากกา ลิปสติก อาหาร ขาตั้งกล้อง
ทัชมาฮาลเป็นสิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงความรักของ “พระเจ้าชาห์ชะฮัน” กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โมกุลที่ปกครองอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 16-19
พระองค์อภิเษกสมรสกับ “อรชุมันท์ พานุ เพคุม” ธิดาของรัฐมนตรี และทรงเรียกพระมเหสีของพระองค์ว่า “มุมตัซ มาฮาล” แปลว่า อัญมณีแห่งราชวัง
พลันที่พระมเหสีสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ.1631 นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก จึงสร้าง “ทัชมาฮาล” อนุสรณ์สถานแห่งความรักขึ้น
โดยทุ่มเทเวลาทั้งหมดในการวางแผนเขียนแปลนก่อสร้างด้วยพระองค์เอง จ้างสถาปนิกและช่างชาวอาหรับมีฝีมือมากมาย เพื่อระดมสติปัญญาและกำลังในการก่อสร้าง ใช้แรงงานผู้คนมากมายกว่า 20,000 คน ใช้งบประมาณในการสร้างประมาณ 45 ล้านรูปี และกินเวลานานถึง 22 ปี
ความวิจิตรงดงามของทัชมาฮาล เห็นได้ตั้งแต่ทางเข้า เมื่อผ่านพ้นกรอบประตูรูปโค้งจะพบกับลานอุทยาน สระน้ำ น้ำพุ และถนนมุ่งหน้าตรงไปสู่ตัวอาคาร ตั้งอยู่บนลานหินอ่อนสีขาวโล่งกว้าง
รอบลานหินมีราวหินอ่อนโปร่งตาเป็นที่ตั้งของมัสยิด ตัวอาคารล้อมรอบด้วยหออะซาน 4 ด้าน ส่วนหัวของทัชมาฮาลมีลักษณะเป็นโดมขนาดใหญ่รูปทรงบัวตูม หรือหัวหอม (Onion Dome)
โดยทุกส่วนสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวนวลบริสุทธิ์ ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมรา และเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ตามแบบสถาปัตยกรรมแนว โมกุลของอินเดีย และอาหรับเปอร์เซียนมุสลิม มีเนื้อที่ 42 เอเคอร์
ภายในห้องโถงกลางที่ใหญ่ที่สุดใต้โดมยักษ์นี้ มีแท่นวางพระศพที่ทำด้วยหินอ่อนของทั้ง 2 พระองค์วางเคียงคู่กัน แต่พระศพจริงๆ นั้นไม่ได้อยู่ในหีบ แต่ถูกฝังอยู่ภายในอุโมงค์ใต้ดิน ตรงกับที่วางหีบศพลึกลงไป 10 เมตร
นอกจากนี้ยังมีตำนานเล่าว่า หลังจากทัชมาฮาลเสร็จสมบูรณ์แล้ว พระเจ้าชาห์ชะฮันทรงเกรงว่าเหล่าสถาปนิกผู้ร่วมออกแบบ และผู้สร้างทั้งหลายจะไปออกแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามเช่นนี้อีก
จึงสั่งประหาร หรือตัดมือ ตัดขา ควักลูกตาช่างทุกคน เพื่อไม่ให้มีโอกาสได้สร้างผลงานที่สวยเท่านี้อีก นี่คืออนุสรณ์แห่งความรักอันยิ่งใหญ่ที่มองได้หลายแง่มุม และเป็นอุทาหรณ์แห่งความสูญเสียที่แลกมาด้วยชีวิตและทรัพย์สมบัติจำนวนมากเพื่อบูชาความรัก
ต่อมาปี ค.ศ.1658 ออรังเซบ (Aurangzeb) พระโอรสองค์หนึ่งของพระเจ้าชาห์ชะฮัน ทรงเห็นว่าพระราชบิดาใช้จ่ายไปมากมายมหาศาล จึงชิงบัลลังก์และจับพระราชบิดาไปคุมขังในปราสาทหินแดง หรือ “ป้อมอัครา” (Agra Fort) ถึง 8 ปี สถานที่ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อพระองค์จะสามารถมองเห็นทัชมาฮาลได้ตลอดเวลา
มาถึง “ป้อมอัครา” หนึ่งในโบราณสถานที่ถูกยกให้เป็นมรดกโลก ตั้งอยู่ในเมืองอัครา ริมฝั่งแม่น้ำยุมนา เป็นสถานที่คุมขังพระเจ้าชาห์ชะฮันจนสิ้นพระชนม์
เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นโดยกษัตริย์อัคบาร์ ใช้เวลายาวนานถึงสามยุคของกษัตริย์แห่งราชวงศ์โมกุล มีลักษณะเป็นกำแพง สองชั้น และป้อมอาคารทางเข้าสี่ทิศ
ภายในประกอบด้วยพระราชวัง มัสยิด สวนดอกไม้ สนาม และอาคารหินทรายสีแดง โดยพระราชฐานชั้นในเป็นที่ประทับของกษัตริย์ และเหล่าสนมกว่า 300 ชีวิต สามารถมองเห็นทัชมาฮาลที่สวยที่สุด
ภายในป้อมอัครา ในส่วนพระตำหนักของพระเจ้าชาห์ชะฮัน สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง อยู่ด้านหน้าของแม่น้ำยุมนา ตามตำนานกล่าวว่า ขณะที่ถูกคุมขัง พระเจ้าชาห์ชะฮันเฝ้ามองทัชมาฮาล และทรงกำเศษกระจกจากทัชมาฮาลไว้ในพระหัตถ์ตลอดเวลา เพื่อจะได้ทอดพระเนตรเห็นภาพสะท้อนของทัชมาฮาลในยามที่พระองค์สิ้นลมหายใจ
แม้ทัชมาลฮาลจะถูกสร้างขึ้นจากความอาลัยรัก แต่เบื้องหลังนั้นแฝงไปด้วยความโหดร้าย ความทุกข์ยากทรมาน การขูดรีดภาษี หยาดเหงื่อแรงงาน สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและชีวิตของราษฎรมากมายในยุคนั้น
ในแต่ละปีมีผู้คนนับล้านเดินทางมาชมความสวยงาม และยิ่งใหญ่ของทัชมาฮาล หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่
นิชานันท์ นิวาศะบุตร