‘กิโลรัน’กินเที่ยว ญี่ปุ่น–เชียงราย
‘กิโลรัน’กินเที่ยว – แม้เป็นช่วงกลางวัน แต่นักวิ่งญี่ปุ่น ยังคงวิ่ง วิ่ง และ วิ่ง ฝึกซ้อมอย่าง แข็งขัน และมีวินัย
ทำให้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เมื่อนักวิ่งจากญี่ปุ่นจะผงาดขึ้นแนวหน้าของโลก
โดยเฉพาะเมื่อมองจากสถิติ 100 อันดับแรกของมาราธอนชายในเอเชีย มีนักวิ่งจากญี่ปุ่นติดท็อป 100 มากถึง 80 คน ขณะที่ฝ่ายหญิงก็ไม่น้อยหน้า มีนักวิ่งสาวจากญี่ปุ่น ติดท็อป 100 มาราธอนหญิงในเอเชีย สูงถึง 59 คน
ญี่ปุ่นมีประชากรทั้งหมด 126 ล้านคน และมีมากถึง 8 ล้านคนที่วิ่งมาราธอน
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่สวนสาธารณะปราสาทโอซาก้า เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักการท่องเที่ยวโอซาก้า จัดงาน “KILORUN OSAKA 2019” งาน ASIAN LIFESTYLE JOURNEY โดยมีนักวิ่ง นักกิน นักท่องเที่ยวจากนานาชาติลงสนามร่วมแข่งอย่างคึกคักมากถึง 16 ชาติ จำนวน 1,350 คน
สำหรับงาน KILORUN OSAKA 2019 มีการแข่งขัน 2 ประเภท ในช่วงเช้าเป็นการวิ่ง KM มีระยะ 10 กิโลเมตร และ 5 กิโลเมตร นักวิ่งทุกคนจะได้ชมความสวยงาม และอลังการของปราสาท โอซาก้า ที่สำคัญยังจะได้ถ่ายภาพโดยมีฉากหลังเป็นปราสาท โอซาก้า อีกด้วย
โดยบรรยากาศการแข่งขัน นอกจากสภาพอากาศที่เย็นสบาย ยังมีนักท่องเที่ยว และครอบครัวของนักวิ่ง คอยให้กำลังใจตลอดเส้นทาง และเมื่อวิ่งเสร็จแล้ว นักวิ่งจะได้ลิ้มลองรสชาติของ ผัดกะเพรา เมนูเด็ดจากประเทศไทย ที่ยกไปเสิร์ฟร้อนๆ ให้ทุกคน ได้ลิ้มลอง
ขณะที่ช่วงบ่ายเป็นการวิ่งระยะ 3 กิโลเมตร โดยไฮไลต์คือ นักวิ่งทุกคนจะได้วิ่งและกินไปพร้อมกัน ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เรียกได้ว่าทุกคนจะได้เหงื่อ และอร่อยอิ่มท้องในเวลาเดียวกัน
อาหารที่ทุกคนจะได้ลิ้มลองนั้น เรียกได้ว่าเป็นร้านเด็ดประจำเมืองโอซาก้า ที่ยก 7 ร้านดังมาเสิร์ฟถึงที่ ฉะนั้นเรื่องรสชาติคง ไม่ต้องพูดถึง ทั้ง ซูชิพรีเมียม จาก Daiki Suisan, ทาโกยากิ จาก ITAKOYAKI, ยากิโซบะ จาก TSURUHASHI FUGETSU, ครอกเก้เนื้อวากิว จาก SANSEI, ไก่คาราเกะร้าน TSURUSHIN, โอโคโนมิยากิร้าน DEN และ พุดดิ้งคัสตาร์ด ร้าน RIKYU PURIN
หลังทุกคนได้ชิมอาหารญี่ปุ่นจนพุงกางแล้ว เมื่อวิ่งมาทุกจุดเข้าเส้นชัย จะมีซุ้มข้าวมันไก่รสเด็ดจากไทยคอยให้บริการ โดยเฉพาะนักวิ่งเจ้าถิ่น ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “โออิชี่” (อร่อย)
ที่สำคัญ รางวัลชนะเลิศในการวิ่งช่วงบ่าย ไม่ใช่คนที่วิ่งเข้ามาเป็นคนแรก แต่จะเป็นนักวิ่งที่ทำน้ำหนักเพิ่มมากที่สุด โดยจะได้รับตั๋วเครื่องบินไป–กลับ กรุงเทพ– โอซาก้า 1 รางวัล 2 ที่นั่ง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระบุว่าการจัดงานครั้งนี้ต้องการสอดแทรกให้นักวิ่งรู้จักประเทศไทย ผ่านอาหารไทย ทั้งข้าวมันไก่ ผัดกะเพรา รวมไปถึงประชาสัมพันธ์อาหารประเภทต่างๆ ให้ทุกชาวต่างชาติทุกคนเกิดการรับรู้ เพื่อที่จะดึงกลุ่มคนเหล่านั้นมาเที่ยวประเทศไทย โดยเฉพาะคนญี่ปุ่น ที่มีความชื่นชอบอาหารไทยอยู่แล้ว
สำหรับนักวิ่งที่พลาดทริปโอซาก้า ยังมีโอกาสแก้ตัวที่สนามสุดท้าย จ.เชียงราย กับงาน KILORUN CHAINGRAI 2019 ในวันที่ 15 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ เตรียมเปิดเส้นทางวิ่งกินเที่ยว ถือเป็นงานวิ่งรูปแบบใหม่ ครั้งแรกของภาคเหนือ
งาน KILORUN CHAINGRAI เป็นสนามที่ 7 จะมีนักวิ่ง–นักกิน–นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 2,500 คน ส่วนรูปแบบกิจกรรมมี 2 ประเภทเหมือนสนาม โอซาก้า คือ KM (K RUN 10 km / M RUN 5 km) โดยนักวิ่งจะได้ชมเมืองศิลปะเชียงราย
เริ่มจาก จุดปล่อยตัวที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย (หลังเก่า), วัดพระสิงห์, โรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊ค, โรงเรียนสามัคคีวิทยาคม, หอนาฬิกา, อนุสาวรีย์พ่อขุน เม็งราย, สะพานแม่น้ำกก, วัดร่องเสือเต้น (วัดสีน้ำเงิน), ขัวพญาเม็งราย
ส่วนประเภท KG ที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะวิ่ง และกินไปพร้อมกัน จะได้ลอง 8 เมนูเด็ด ทั้ง ข้าวซอย ร้านวิจิตตรา, น้ำเงี้ยว ร้านป้าสุข, ต้มเลือดหมู ร้านสหรส, แกงฮังเล ข้าวเหนียว ร้านเอกโอชา, ไส้อั่ว ร้านป้าน้อง, บัวลอยมือถือ ร้านป้าอ้วนไนท์บาซาร์, ไอติมกะทิ ร้านลุงชม
รวมทั้งเมนูพิเศษจากร้านดัง Melt in your mouth โดยรายได้จากการจำหน่ายบัตรส่วนหนึ่ง ยังสมทบทุนมูลนิธิสามัคคีวิทยาคม จ.เชียงราย อีกด้วย
สำหรับ KILORUN CHAINGRAI จะสะท้อนเรื่องราววัฒนธรรมวิถีชีวิตผู้คน รวมไปถึงเสน่ห์แห่งมรดกล้านนา วัฒนธรรมอาหารจานเด็ดของจังหวัด
การจัดงานในช่วงฤดูหนาว ทำให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม และยังกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ สร้างภาพลักษณ์ จ.เชียงราย ในช่วงปลายปี เพื่อให้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางเมืองต้นแบบการท่องเที่ยวอย่าง ยั่งยืน
นักวิ่ง นักชิม ที่อยากลองสัมผัสประสบการณ์วิ่งที่ แปลกใหม่ KILORUN CHAINGRAI เป็นสนามที่น่าลองอย่างมากสนใจจองบัตรด่วนที่ https://race.thai.run/ kilorunchiangrai2019
นพพล สันติฤดี